นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากราคาน้ำมันปรับขึ้น และมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพิ่มสูง ดังนั้น เพื่อจะลดผลกระทบดังกล่าว รัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดให้ศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี (SME Support & Rescue Center : SSRC) ซึ่งมีศูนย์บริการกระจายอยู่กว่า270 แห่งทั่วประเทศ รวบรวมหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวเนื่องกับการสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยไว้ครบถ้วนในจุดเดียว ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank หรือ ธพว.) เป็นต้น โดยให้ทำหน้าที่เป็นจุดรับแจ้งปัญหา หรือขอรับความช่วยเหลือจากผลกระทบราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือ และแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ตรงความต้องการมากที่สุดซึ่งจะมีทั้งมาตรการช่วยเหลือด้านไม่ใช่การเงิน และการเงินช่วยพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ยกระดับปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีศักยภาพและภูมิคุ้มกันมากกว่าเดิม ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับมาตรการช่วยเหลือที่ไม่ใช่การเงินนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม จัดเตรียมชุด9 มาตรการยกระดับปรับเปลี่ยนเอสเอ็มอีให้มีความสามารถในการแข่งขันก้าวสู่ยุค 4.0 เช่นพัฒนาธุรกิจโดยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยียกระดับการผลิตด้วยระบบออโตเมชั่น สร้างแพลตฟอร์มเชื่อมเครือข่ายสากลเป็นต้น
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการSME Development Bank กล่าวว่า ธนาคารได้รับมอบหมายจากรัฐบาล จัดมาตรการช่วยเหลือด้านการเงิน รูปแบบสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษเพื่อให้เอสเอ็มอีใช้เป็นทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง ลดผลกระทบในภาวะที่ต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินเชื่อเถ้าแก่4.0สำหรับผู้ประกอบการนิติบุคคลรายเล็กคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา 7 ปี ไม่ต้องใช้หลักประกัน เปิดโอกาสให้รายย่อยที่มีปัญหาทางการเงินสามารถกู้ได้ (แม้เคยปรับโครงสร้างหนี้ หรือผ่อนชำระไม่ต่อเนื่องมาก็ตาม)วงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย ให้ชำระแต่ดอกเบี้ยอย่างเดียวปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุด 3 ปีโดยทุกการกู้1 แสนบาทเมื่อเทียบกับการกู้ธนาคารพาณิชย์ทั่วไป จะประหยัดต้นทุนวันละ 22 บาท อีกทั้ง ไม่ต้องคืนเงินต้นวันละ 43.25 บาทรวมแล้ว ทำให้มีเงินเหลือเพื่อไปใช้หมุนเวียนในธุรกิจ65.25 บาทต่อวัน
สำหรับบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรแปรรูปธุรกิจท่องเที่ยวชุมชนและเชื่อมโยงต่อเนื่องรวมทั้งผู้ประกอบการใหม่หรือธุรกิจผลิตหรือบริการต่างๆในชุมชน มีบริการ สินเชื่อเศรษฐกิจติดดาวคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 3% คงที่ 3 ปีแรกผ่อนนาน 7 ปีวงเงินกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย ไม่มีหลักประกัน สามารถใช้บสย.ค้ำประกันฟรี 4 ปีแรกโดยกู้ 1 ล้านบาทผ่อนเพียง 460 บาทต่อวันเท่านั้น
ขณะที่ เอสเอ็มอีที่ต้องการยกระดับปรับเปลี่ยนเครื่องจักรอุปกรณ์โปรแกรมคอมพิวเตอร์ระบบออโต้เมชั่น เพื่อลดต้นทุนการผลิตหรือบริการ สามารถใช้บริการสินเชื่อ "Transformation Loan เสริมแกร่ง" (Soft Loan เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรระยะที่ 2)อัตราดอกเบี้ยถูกเพียง 4%ต่อปี ตลอดอายุโครงการ 7 ปีวงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาทต่อรายเพื่อใช้ลงทุนและหมุนเวียนในกิจการวงเงิน 10 ล้านบาทแรกสามารถใช้บสย.ค้ำประกันได้ โดยไม่เสียค่าจดจำนองและไม่มีค่าซื้อประกันพ่วง
นายสมชาย กล่าวในตอนท้ายว่า มาตรฐานดังกล่าวข้างต้นทั้งด้านไม่ใช่การเงิน และการเงิน เชื่อว่าจะช่วยลดผลกระทบในเบื้องต้นให้แก่เอสเอ็มอีได้ โดยกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานพันธมิตรทั้งหมด จะเฝ้าติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เพื่อพร้อมรับมือสามารถช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้อย่างทันท่วงที
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit