นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการ "ครูสอนสิทธิ" ตามที่วธ.เสนอ ซึ่งโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางปลูกฝัง โดยเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง วธ. กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กระทรวงพาณิชย์(พณ.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และตระหนักถึงคุณค่าของภาพยนตร์ไทยและเป็นการแก้ไขปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยอย่างยั่งยืน โดยที่ประชุมได้ให้ วธ.ร่วมกับ ศธ.จัดทำหลักสูตรอบรมความรู้แก่นักเรียนและนักศึกษาเน้นให้พื้นฐานความรู้ที่เกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมด
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมรับทราบสรุปผลตามที่ วธ. ร่วมกับ พณ. และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา(กก.) จัดกิจกรรมส่งเสริมและเผยแพร่แลกเปลี่ยนภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 10-19 พฤษภาคม 2561 ณ งานตลาดภาพยนตร์เมืองคานส์ และระหว่างวันที่ 9-19 พฤษภาคม 2561 ณ งานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยมีบริษัทต่างชาติมีแผนลงทุนมาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย และมีการเจรจาร่วมลงทุนภาพยนตร์ในโครงการสร้างภาพยนตร์เพื่อการลงทุนของ วธ. 3 เรื่อง ได้แก่ สวรรค์ในอก, หิ่งห้อย, ดิน ฟ้า มหาสมุทร และเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยที่ไปร่วมเปิดคูหาจำหน่ายภาพยนตร์ 10ราย เพื่อจำหน่ายภาพยนตร์ไทย 70 เรื่อง ทั้งนี้ ภาพรวมเกิดมูลค่าทั้งหมดกว่า 1,555 ล้านบาท
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมได้รับรายงานจาก วธ.ในเรื่องผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจนถึงปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 7 กิจกรรม อาทิ กิจกรรมส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ณ งานตลาดภาพยนตร์และโทรทัศน์นานาชาติฮ่องกง ประจำปี 2561 มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมคือ บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์แอนิเมชั่น 22 บริษัทและหน่วยงานราชการ 3 หน่วยงาน เกิดมูลค่าเจรจาธุรกิจ 336 ล้านบาท กิจกรรมนำเสนอผลงานสินค้าลิขสิทธิ์นานาชาติแห่งฮ่องกง ประจำปี 2561 มีผู้เข้าร่วม ได้แก่ บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ แอนิเมชั่น 22 บริษัทและหน่วยงานราชการ 3 หน่วยงาน เกิดมูลค่าเจรจาธุรกิจ 66 ล้านบาท เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบเรื่องที่ วธ.ร่วมกับ กก. พณ. กระทรวงการต่างประเทศ(กต.) และสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ เตรียมการเข้าร่วมงานตลาดภาพยนตร์และโทรทัศน์นานาชาตินครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 17-19 มิถุนายน 2561 ณ เซี่ยงไฮ้ เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ โดยปีนี้มีภาพยนตร์ไทยที่ผ่านการพิจารณาให้ไปจัดฉายในงานนี้ 5 เรื่อง ได้แก่ หากพรุ่งนี้คือวันสุดท้าย, เพื่อนที่ระลึก, ส่ม ภัค เสียน, เพื่อนฉันฝันสลาย, 3 ตีสาม คืนสาม และมีบริษัท 8 แห่ง เข้าร่วมคูหาจำหน่ายภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของประเทศไทย
HTML::image( HTML::image( HTML::image(