ดร.ณัฐพล กล่าวถึง สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ที่ถือสมาร์ทวีซ่า ที่มากกว่าวีซ่าปกติ คือ สามารถอาศัยในประเทศไทยได้ 4 ปี โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตทำงาน คู่สมรสและบุตรยังได้สิทธิอยู่อาศัยและทำงานในประเทศไทยได้เท่ากับผู้ถือสมาร์ทวีซ่า และขยายเวลาการรายงานตัวเป็นทุก ๆ 1 ปี "ดีป้าได้ร่วมส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยมีผู้เชี่ยวชาญทักษะสูงด้านดิจิทัล นักลงทุน ผู้บริหารระดับสูงในองค์กรด้านดิจิทัล ตลอดจนสตาร์ทอัพ เพื่อได้รับสมาร์ทวีซ่า ในกรณีที่ผู้ขอได้รับการสนับสนุนหรือมีการดำเนินการร่วมกันกับดีป้า หรือมีความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรของดีป้า เพื่อให้ประเทศไทยสามารถขับเคลื่อนสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยสามารถเริ่มขอสมาร์ทวีซ่า ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 นี้" ผอ.ดีป้า กล่าว
สำหรับสมาร์ทวีซ่านั้น แบ่งออกเป็น 4 ประเภทได้แก่ 1. Smart T (Talent) หมายถึงผู้เชี่ยวชาญทักษะสูง ที่จะเข้ามาทำงานในบริษัททางด้านดิจิทัลหรือกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไทย 2. Smart I (Investor) หมายถึง นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลรวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายหลักของประเทศ 3. Smart E (Executive) หมายถึง ผู้บริหารระดับสูงในบริษัทหรือองค์กรทางด้านดิจิทัล และองค์กรในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย 4. Smart S (Startup) หมายถึงผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้นโดยสร้างสรรค์นวัตกรรมทางด้านดิจิทัลตลอดจนนวัตกรรมในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไทย และ 5. Smart O (Other) หมายถึงคู่สมรสและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายที่จะได้รับ สมาร์ทวีซ่า พร้อมกับ 4 กลุ่มข้างต้นด้วย สำหรับรายละเอียดของโครงการสมาร์ทวีซ่า ผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่ ฝ่ายส่งเสริมการพัฒนากำลังคนดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล โทร. 02-141-7100, 02-141-7173, 02-141-7231 หรือ email: [email protected]
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit