“วานิไทย” เลือดจระเข้แคปซูล คุณภาพระดับสากล ผลิตผลจาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมปักหมุดสู่ตลาดโลก

18 Jan 2018
"วานิไทย" เลือดจระเข้แคปซูลคุณภาพเยี่ยมของสัญชาติไทย สู้ศึกอาหารเสริม ชูคุณสมบัติแน่นเต็มแคปซูล ต้านเบาหวาน มะเร็ง ภูมิแพ้ พร้อมประกาศศักดา ส่งลงตลาดโลก หวังตีตลาดคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ หลังปรับแพ็คเกจใหม่ ประเดิมลุยจีน, ญี่ปุ่น,สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ลาว และเวียดนาม รวมถึง สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี ตั้งเป้าโกยรายได้เข้าประเทศหลายล้านบาท
“วานิไทย” เลือดจระเข้แคปซูล คุณภาพระดับสากล ผลิตผลจาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมปักหมุดสู่ตลาดโลก

นางสาววิสาชิณี รุ่งทวีชัย เจ้าของฟาร์มจระเข้รุ่งทวีชัย และผู้ก่อตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด วานิไทย ได้กล่าวถึงผลิตภัณฑ์เลือดจระเข้แคปซูลตราวานิไทยว่า"ผลิตภัณฑ์เลือดจระเข้แคปซูล เกิดจากการวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ต้องการจะศึกษาคุณสมบัติทางชีววิทยาของจระเข้ จึงได้เกิดการร่วมมือและสนับสนุนงานวิจัย จนได้เป็นสารสกัดเลือดจระเข้ในรูปแบบแคปซูลภายใต้ชื่อ "วานิไทย" ซึ่งเป็นเจ้าต้นๆของประเทศที่สามารถผลิตแคปซูลสารสกัดเลือดจระเข้ ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพ ผ่านการตรวจสอบจากกรมการอาหาร และยา กระทรวงสาธารณสุข ถือว่าเป็น ต้นตำรับของผลิตภัณฑ์เลือดจระเข้แคปซูล"

จระเข้ถือเป็นสัตว์ที่มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี แม้กระทั่งในสิ่งแวดล้อม ที่ไม่สะอาด จระเข้ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างแข็งแรง ซึ่งจากการวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สารที่พบในเลือดจระเข้พบว่า เซลล์เม็ดเลือดขาวของจระเข้สามารถสร้างโปรตีนที่มีคุณสมบัติในการยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และจุลินทรีย์ได้ ทีมวิจัยจึงได้วิจัย และพัฒนาคุณสมบัติดังกล่าวเป็นเวลานานหลายปีเพื่อนำมาปรับใช้ในเชิงสุขภาพจนได้เป็น "เลือดจระเข้แคปซูล วานิไทย" ผลิตภัณฑ์คุณภาพสัญชาติไทยที่เน้นทั้งคุณภาพ ความสะอาด และปลอดภัยต่อผู้บริโภคตลอดกระบวนการผลิต ซึ่งผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลโดยตรงได้จากเว็บไซต์และสื่อต่างๆ

ความแตกต่างที่เด่นชัดของแบรนด์วานิไทย ที่ทำให้พิเศษกว่าแคปซูลเลือดจระเข้อื่นๆนั่นคือ กระบวนการผลิตแบบการฟรีซดราย หรือการทำเยือกแข็งโดยใช้ระบบสุญญากาศ ซึ่งจะคงคุณค่าทางโภชนาการได้ใกล้เคียงกับเลือดสดจริงมากที่สุด การฟรีซดรายเป็นการลงทุนที่สูง แต่ด้วยปณิธานของ คุณแน็ส หรือนางสาววิสาชิณี รุ่งทวีชัย ที่หวังอยากให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี และร่างกายที่แข็งแรงจึงเลือกที่จะใช้วิธีการฟรีซดรายนี้ เพื่อคงคุณประโยชน์ของเลือดจระเข้ให้ได้มากที่สุด เพราะในเลือดจระเข้มีโปรตีนในรูปแบบกรดอะมิโน และมีธาตุเหล็กสูง จึงเหมาะกับผู้ป่วยโลหิตจาง และยังช่วยเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในเลือดจระเข้ยังมีอินซูลิน และกรดแฟล็คเตอร์ ที่ใช้ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดจึงเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน อีกทั้งสารสกัดจากเลือดจระเข้ยังช่วยในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ภูมิคุ้นกันต่ำ และยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมอีกด้วย

นอกจากนี้แบรนด์วานิไทย ยังได้ทำการศึกษาและวิจัยส่วนอื่นๆ ของจระเข้ เพื่อเตรียมต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกๆ ด้าน เช่น ซีรัมเลือดจระเข้ (Wani-Se) ที่ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้โดยตรง เหมาะกับผู้ป่วยด้านเบาหวาน กระดูกจระเข้ (Wani-B) ที่มีปริมาณแคลเซียมสูง ช่วยในเรื่องโรคกระดูกพรุนหรือกลุ่มคนที่กระดูกไม่แข็งแรง น้ำดีจระเข้ (Wani-D) ช่วยในเรื่องโรคจอประสาทตาเสื่อม รวมถึงระบบย่อยอาหารด้วย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในขั้นตอนการวิจัยในด้านอื่นๆ อีก เช่น ตับอ่อนและไข่จระเข้ เป็นต้น

นางสาววิสาชิณี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในด้านการตลาดหลังจากผลิตภัณฑ์ได้วางจำหน่ายสู่ท้องตลาดในประเทศไทย ก็ได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้ดูแลสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง และในปี 2561 ผู้ผลิตมีแผนที่จะส่งออกผลิตภัณฑ์สู่ตลาดต่างประเทศ และมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากต่างประเทศ

"ผลิตภัณฑ์ของเราควบคุมการผลิตตั้งแต่วัสดุดิบ คือ เลือด เพราะเรามีฟาร์มเป็นของตนเอง จนกระทั่งการบรรจุที่มีมาตรฐาน และจัดจำหน่ายสู่ท้องตลาด เพราะฉะนั้นเรามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณภาพทัดเทียมกับผลิตภัณฑ์ในตลาดโลก อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของเรายังเป็นของใหม่ในตลาดสุขภาพ เราจึงมั่นใจว่าตลาดต่างประเทศน่าจะให้ความสนใจ และตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งนี่จะกลายเป็นการประกาศให้โลกรับรู้ถึงความสามารถในด้านการวิจัย และนวัตกรรมของคนไทยได้เป็นอย่างดี" นางสาววิสาชิณี กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าจากต่างประเทศอีกว่า ในช่วงแรกที่นำผลิตภัณฑ์ออกวางจำหน่าย มีสัดส่วนลูกค้าชาวไทยสูงถึงร้อยละ 90 ของยอดขาย ต่อมาเมื่อมีกลุ่มทัวร์ต่างประเทศติดต่อขอซื้อผลิตภัณฑ์เข้ามา ทำให้ในระยะเวลา 2 ปี สัดส่วนลูกค้าชาวต่างประเทศพุ่งสูงถึงร้อยละ 80ของยอดขายเลยทีเดียว โดยปัจจุบันลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่คือประเทศจีน และนอกจากนี้ แบรนด์วานิไทยยังได้เตรียมส่งออกผลิตภัณฑ์ในอีกหลายๆ ประเทศรอบเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ลาว, เวียดนาม, สหรัฐอเมริกาและเยอรมนีอีกด้วย

และในปี พ.ศ. 2561 นี้ "วานิไทย" ได้ปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น และเตรียมเพิ่มช่องทางการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาให้แบรนด์ก้าวทันตลาดโลกในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่ครอบคลุม สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่าย รวมถึงเคเบิ้ลทีวีและวิทยุกระจายเสียง เพื่อให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าต่างจังหวัดได้ แสดงให้เห็นว่านอกเหนือจากแผนส่งออกผลิตภัณฑ์สู่ต่างประเทศแล้ว วานิไทยก็ยังใส่ใจและพยายามเข้าถึงลูกค้าชาวไทยด้วย

HTML::image( HTML::image(