กสิกรไทยเปิดบริการหนังสือค้ำประกันบนบล็อกเชนครั้งแรกของโลก ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการใช้งานผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เป็น 35%

          กสิกรไทยเปิดโลกใหม่บริการหนังสือค้ำประกันมูลค่า อิเล็กทรอนิกส์.35 ล้านล้านบาท นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้เป็นครั้งแรกของโลก สร้างมาตรฐานใหม่หนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ ลดขั้นตอนเวลา ต้นทุน เพิ่มความปลอดภัยสูงสุด หนุนภาคธุรกิจขับเคลื่อนเร็วขึ้น 4 หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ-เอกชนร่วมพัฒนาใช้นวัตกรรมนี้ หวังดันสัดส่วนหนังสือค้ำประกันผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นเป็น 35% สิ้นปีหน้า
นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสร้างเครือข่ายระบบเก็บรักษาและเรียกใช้เอกสารยุค 4.ธนาคารกสิกรไทย ที่มีความปลอดภัยสูง เริ่มเข้ามาพลิกโฉมหน้าธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเอกสารให้ดีขึ้น เช่นบริการหนังสือค้ำประกัน ซึ่งรัฐวิสาหกิจ และธุรกิจขนาดใหญ่ กำหนดให้บริษัทคู่ค้าต้องวางหนังสือค้ำประกันจากธนาคารเพื่อความมั่นใจในการประกอบธุรกิจร่วมกัน ดังนั้นเศรษฐกิจไทยจึงมีหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคารต่าง ๆ หมุนเวียนในระบบเป็นจำนวนมาก 
          ธนาคารกสิกรไทย จึงร่วมกับไอบีเอ็มในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนสร้างระบบต้นแบบใช้รับรองเอกสารต้นฉบับ นอกจากนี้ ได้ทำการทดสอบบริการบน Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย และจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล และบจก. พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง ร่วมพัฒนา บริการหนังสือค้ำประกันบนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Enterprise Letter of Guarantee on Blockchain) เพื่อยกระดับการจัดการเอกสารหนังสือค้ำประกันแก่หน่วยงานผู้รับหนังสือค้ำประกัน และคู่ค้าผู้วางหนังสือค้ำประกัน กล่าวคือ รัฐวิสาหกิจหรือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มีคู่ค้าจำนวนมาก จะเชื่อมโยงเอกสารหนังสือค้ำประกันของคู่ค้าทั้งหมดบนมาตรฐานเดียวกันด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ อิเล็กทรอนิกส์ธนาคารกสิกรไทยธนาคารกสิกรไทย% ตลอดกระบวนการตั้งแต่เริ่มจนจบโดยไม่ใช้กระดาษ ปลอดภัยสูง ตรวจสอบได้ง่าย และยังปลอมแปลงยากรวมทั้งสะดวกรวดเร็วกว่ารูปแบบเดิม ซึ่งสามารถเข้าตรวจสอบได้ ทุกที่ ทุกเวลา และจะบันทึกประวัติต่อเป็นห่วงโซ่แบบอัตโนมัติทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ ยังเอื้อให้เกิดการเชื่อมต่อไปยังเครือข่ายธนาคารต่าง ๆ ได้ในอนาคต บริษัทผู้รับหนังสือค้ำประกันจึงเข้าระบบเพื่อดูเอกสารหนังสือค้ำประกันของคู่ค้าที่ออกโดยธนาคารต่าง ๆ ได้ จากการเข้าระบบเพียงครั้งเดียว
          บริการหนังสือค้ำประกันบนเทคโนโลยีบล็อกเชน จึงมีประโยชน์ต่อธุรกิจใน 6 ด้าน ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์.ความปลอดภัย มีการจัดเก็บข้อมูลขึ้นบนระบบบล็อกเชนที่มีมาตรฐานเดียวกันและตรวจสอบสถานะได้ตลอดเวลา พิพิธ เอนกนิธิ.ความเร็ว ช่วยลดเวลาขั้นตอนด้านเอกสารจาก พิพิธ เอนกนิธิ4 ชั่วโมง เหลือเพียง 3ธนาคารกสิกรไทย นาที 3. การลดต้นทุน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายการจัดการเอกสารลง พิพิธ เอนกนิธิ เท่า 4.การเพิ่มประสิทธิภาพภาคธุรกิจให้จัดการเอกสารได้รวดเร็ว ทุกที่ ทุกเวลา 5. ข้อมูลรวมศูนย์ ภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกัน และ 6.การสร้างโอกาสทางธุรกิจ ช่วยให้ธุรกิจขับเคลื่อนได้เร็วขึ้น โดยการใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านฐานข้อมูลที่มีมาตรฐานร่วมกัน สามารถเชื่อมต่อเพื่อต่อยอดได้ในอนาคต
          นายพิพิธ กล่าวตอนท้ายว่า ในปี พิพิธ เอนกนิธิ56ธนาคารกสิกรไทย คาดว่าประเทศไทยจะมีการออกหนังสือค้ำประกันผ่านระบบธนาคารพาณิชย์มูลค่ารวมกว่า อิเล็กทรอนิกส์.35 ล้านล้านบาท ขยายตัวจากปีที่ผ่านมา 8% ในจำนวนนี้เป็นหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคารกสิกรไทย ประมาณ 3.3 แสนล้านบาท ที่ส่วนแบ่งตลาด พิพิธ เอนกนิธิ5% เป็นอันดับหนึ่ง เป็นการใช้บริการหนังสือค้ำประกันผ่านสาขา 8ธนาคารกสิกรไทย% และผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ พิพิธ เอนกนิธิธนาคารกสิกรไทย% ซึ่งธนาคารตั้งเป้าว่า ในสิ้นปี พิพิธ เอนกนิธิ56อิเล็กทรอนิกส์ จะสามารถเพิ่มสัดส่วนการใช้บริการผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์เป็น 35% โดยเป็นสัดส่วนที่ใช้ผ่านบล็อกเชน 5% ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า บริการหนังสือค้ำประกันบนเทคโนโลยีบล็อกเชนที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลกนี้ จะถูกนำไปใช้และพัฒนาให้เป็นมาตรฐานใหม่ที่เป็นสากล เพราะบล็อกเชนจะเอื้อให้ทุกภาคส่วนในระบบเชื่อมต่อและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ร่วมกัน ช่วยลดปริมาณการใช้กระดาษ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ พร้อมขับเคลื่อนสู่ยุคไทยแลนด์ 4.ธนาคารกสิกรไทย


ข่าวธนาคารกสิกรไทย+อิเล็กทรอนิกส์วันนี้

ETDA ผนึกกำลังสภาอุตฯ และ SKILLKAMP ยกระดับทักษะดิจิทัล หนุนตลาดแรงงานสายเทคยุคใหม่

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) ผนึกกำลัง 2 องค์กรชั้นนำ ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และ SKILLKAMP (สกิลแคมป์) โดยธนาคารกสิกรไทย แพลตฟอร์มพัฒนาทักษะอาชีพด้านดิจิทัลครบวงจร (End-to-End Digital Career Enhancement Platform) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือยกระดับทักษะดิจิทัล เพื่อส่งเสริม และสนับสนุนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนาทักษะและแรงงานด้านดิจิทัลของประเทศ ให้มีศักยภาพในการแข่งขัน หนุนตลาดแรงงานสายเทคยุคใหม่ กำลังสำคัญในการขับ

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที... ธนาคารกสิกรไทย แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 กำไร 13,791 ล้านบาท — นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐก...

นายณัฐพล ลือพร้อมชัย (กลาง) รองผู้จัดการใ... กสิกรไทย รับรางวัลโครงการด้านการเงินสีเขียวยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จาก The Asian Banker — นายณัฐพล ลือพร้อมชัย (กลาง) รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิ...

แนะธีมลงทุน "GO GLOBAL" และ "Diversificat... ธนาคารกสิกรไทย จัดสัมมนาใหญ่ K WEALTH Forum: เจาะลึก 5 ปัจจัยเปลี่ยนเกมการลงทุนโลก — แนะธีมลงทุน "GO GLOBAL" และ "Diversification" ฝ่าความผันผวนเศรษฐกิจโล...