การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการท่องเที่ยวอาเซียนดังกล่าว ปลัดฯ พงษ์ภาณุ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ได้เน้นย้ำ ๔ ประเด็นสำคัญ อันจะเป็นความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันในอาเซียน และเป็นการประกาศให้ทั่วโลกรับทราบถึงจุดเด่นของการท่องเที่ยวประเทศสมาชิกอาเซียน โดยประเด็นดังกล่าว ประกอบด้วย1.ASEAN Gastronomy Tourism(ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารในอาเซียน)2. Tourism investment (การส่งเสริมการลงทุนร่วมกันในอาเซียน) 3. CruiseTourism(การท่องเที่ยวทางเรือสำราญ)และ4.Community Based Tourism(การท่องเที่ยวชุมชน) ทั้งนี้ ทั้ง ๔ ประเด็น มุ่งสู่ความสำเร็จในเชิงประจักษ์ที่เห็นผลเป็นรูปธรรมในงาน ATF 2018 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยเฉพาะความสำคัญเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงอาหารในอาเซียน และการประชาสัมพันธ์ไปสู่การท่องเที่ยวเชิงอาหารในเวทีโลก ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพงาน World Forum on Gastronomy Tourism ครั้งที่ ๔ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้ ปลัดฯ พงษ์ภาณุ แจ้งจุดยืนถึงความพร้อมที่ประเทศไทยจะรับเป็นผู้ประสานงานหลักด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารในกรอบความร่วมมืออาเซียน โดยจะยกร่างข้อเสนอโครงการความร่วมมือในอาเซียนด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร และยกร่างปฏิญญาอาเซียนด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร เพื่อนำไปสู่การรับรองและการประกาศใช้โดยรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนในเวที ATF 2018 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปีหน้า
ท้ายนี้ปลัดฯ พงษ์ภาณุ ในฐานะประธานเจ้าหหน้าที่อาวุโสด้านการท่องเที่ยวอาเซียนยืนยันความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพ ATF 2018 ณ จังหวัดเชียงใหม่ และยังได้มีโอกาสร่วมลงนามในข้อตกลงการเป็นเจ้าภาพร่วมกับประเทศฟิลิปปินส์ ในโครงการ ASEAN Plus Three Student Summit 2017 เพื่อดำเนินการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวให้แก่เยาวชนจากอาเซียนและประเทศบวกสาม (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี) ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนปีนี้ ณ ประเทศไทย ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศญี่ปุ่น
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit