บลจ.ธนชาต คาด AUM ปี 60 โตอีก 20% เน้นเจาะผู้ลงทุนเสี่ยงต่ำ สร้างคนขายคุณภาพ

          บลจ.ธนชาต คาดสิ้นปี AUM โตอีก 2บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน% ชูนโยบายหุ้นเสี่ยงต่ำเป็นหลักและมุ่งมั่นสร้างผู้แนะนำการลงทุนผ่านสาขาธนาคารธนชาตอย่างแข็งแกร่ง
          นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ในปี 256บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จะเติบโตราว 2บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน% จากสิ้นปี 2559 ที่มี AUM รวมทุกธุรกิจอยู่ที่ บุญชัย เกียรติธนาวิทย์.89 แสนล้านบาท และปัจจุบันผ่านมา 7 เดือน เพิ่มขึ้นเป็น 2.บุญชัย เกียรติธนาวิทย์9 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตจากธุรกิจกองทุนรวม (Mutual Fund) เป็นหลัก โดยในปีนี้กองทุนหุ้นไทยของบริษัทเติบโตราวๆ 44% ทำให้คาดว่าในสิ้นปี 256บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เฉพาะธุรกิจกองทุนรวมน่าจะแตะ 2 แสนล้านบาทได้
          ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันบริษัทฯ ออกกองทุนใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 32 กองทุน แบ่งเป็นกองทุนหุ้นปันผล 2 กองทุน และกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น บุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กองทุน ที่เหลือเป็นกองทุนเทอมฟันด์
          ในปีนี้ บริษัทฯ ได้เปิดขาย IPO กองทุนหุ้นปันผล (T-DIV) ในช่วงต้นเดือนมีนาคม แต่เนื่องจากได้รับความนิยมมากทำให้ไม่สามารถขยายขนาดกองทุนได้ในช่วง IPO ดังกล่าว จึงได้เปิดขายกองทุนเปิดธนชาตหุ้นปันผล 2 (T-DIV2) เพื่อมารองรับความต้องการดังกล่าว ประกอบกับเชื่อว่าหุ้นไทยจะยังไปต่อได้และหุ้นปันผลก็เป็นหุ้นที่เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับรายได้ที่สม่ำเสมอ โดยตั้งแต่ตั้งกองทุนจนปัจจุบันประมาณเกือบ 6 เดือน สามารถจ่ายเงินปันผลคืนให้กับผู้ลงทุนไปแล้ว บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน.2 บาทต่อหน่วย เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา
          "บลจ.ธนชาต เน้นออกกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ที่ผันผวนต่ำกว่าหุ้นทั่วไป ทั้งในแง่หุ้นผันผวนต่ำอย่าง Low Beta หรือหุ้นปันผลที่สามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอเพราะปัจจุบันตลาดยังอยู่ในสถานการณ์ดอกเบี้ยต่ำทั่วโลก แม้จะมีข่าวการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากเฟดอยู่ก็ตาม แต่ผู้ที่คุ้นเคยกับการฝากเงินหรือลงทุนแต่ในกองทุนตราสารหนี้เริ่มพบว่าผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่การจะขยับให้ผู้ลงทุนกลุ่มนี้ไปลงทุนในหุ้นเลยคงไม่ง่ายนัก เพราะผู้ลงทุนมักไม่สามารถทนรับความผันผวนระหว่างทางได้ แม้จะมีสถิติยืนยันว่าหากลงทุนหุ้นในระยะยาวมักให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินก็ตาม"
          ในช่วงที่เหลือของปี บริษัทฯ มีแผนที่จะออกกองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความมั่นคง เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว โดยนอกจากผู้ลงทุนจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้แล้วกองทุนนี้ยังมีประกันสุขภาพมอบให้ผู้ลงทุนด้วย เพราะบริษัทเชื่อว่าการที่ผู้ลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายสุขภาพหรือไม่ต้องนำเงินที่ต้องการลงทุนระยะยาวมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลระหว่างทางนั้น จะยิ่งทำให้เงินลงทุนมีโอกาสงอกเงยมากขึ้นและมากกว่า นอกจากนั้นก็คงเน้นขายกองทุนลดหย่อนภาษี LTF /RMF ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามเทศกาลปกติ
          นอกจากนี้ บริษัทฯ มีนโยบายในการพัฒนาผู้แนะนำการลงทุนผ่านสาขาธนาคารธนชาต ที่จะมุ่งมั่นพัฒนาอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง โดยเน้นฝึกอบรมให้พนักงานมีความเข้าใจ และมีความรู้เรื่องกองทุน เพื่อให้สามารถแนะนำผู้ลงทุนได้อย่างมีคุณภาพ โดยผู้แนะนำต้องไม่ทำหน้าที่แค่ขายกองทุน แต่ต้องรู้จักวางแผนการเงินและจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงของผู้ลงทุนได้
          ส่วนมุมมองการลงทุนในครึ่งปีหลัง นายโชติช่วง ธีรขจรโชติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์มหภาค บลจ.ธนชาต กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกในครึ่งปีแรกขยายตัวได้ดีโดยเฉพาะในภูมิภาคหลักๆ ซึ่งเป็นการขยายตัวแบบเป็นไปพร้อมๆ กัน โดยคาดว่าระยะถัดไปอาจมีชะลอตัวลงบ้าง เพราะหากเทียบกับฐานปัจจุบันที่อยู่ในอัตราที่สูงมาก แต่ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจโลกยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีหน้า
          ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ยังคงมีการเติบโต ตัวเลขการส่งออก ตัวเลขนักการท่องเที่ยว ยังคงขยายตัวได้ ประกอบปัจจัยการเมืองในปีหน้า ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะขยายตัวได้ใกล้กับปีนี้ คือ ใกล้ๆ ระดับ 3.5%
          "สำหรับกลยุทธ์การลงทุน บริษัทฯ ก็ยังแนะให้นักลงทุนกระจายพอร์ตลงทุน โดยมีเงินลงทุนบางส่วนในหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) และตลาดยุโรป ที่คาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้น่าสนใจ ส่วนตลาดอเมริกา หากนักลงทุนมีในพอร์ตก็ยังสามารถถือต่อได้ แต่สำหรับตลาดญี่ปุ่นอาจต้องรอจังหวะให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงกว่านี้ ซึ่งหากต้องการผลตอบแทนที่มากขึ้นก็ควรเน้นลงทุนเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม (sector) หรือเลือกเป็นรายตัวโดยเฉพาะกลุ่มหุ้นสุขภาพ (Healthcare) ซึ่งสถานการณ์ก็สดใสขึ้นหลังจากข้อเสนอยกเลิกนโยบายโอบามาแคร์ตกไป"
          "ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่น่าจะต้องจับตาในครึ่งหลังของปี คือ อัตราเงินเฟ้อในอเมริกาและไทย เพราะ หากเงินเฟ้อในอเมริกาเพิ่มมากขึ้น อาจทำให้การขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงและเร็วกว่าที่คาด ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ปรับสูงขึ้นซึ่งจะกระทบกับผู้ลงทุน ส่วนไทยเอง ปัจจุบันอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำมาก ทำให้ค่าเงินบาทค่อนข้างมีแนวโน้มแข็งค่าอยู่ ส่งผลให้มีกระแสเงินจากต่างชาติไหลเข้ามาลงทุน แต่หากอัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นกว่านี้มาก ก็จะส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลง ก็ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดเงินทุนไหลออก"
          "สำหรับกองทุนที่แนะนำให้มีติดพอร์ต ยังแนะนำสินทรัพย์ประเภทหุ้นมากกว่า และควรมีหุ้นต่างประเทศในพอร์ต สำหรับสินทรัพย์ในไทย ยังแนะนำสินทรัพย์ที่ให้รายได้สม่ำเสมอ และผันผวนต่ำ เช่น หุ้นปันผล หรือกองทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน เพราะดอกเบี้ยไทยปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำ แต่อัตราผลตอบแทนอสังหาฯ นั้นสูงพอสมควรเฉลี่ยประมาณ 5%กว่า"

          คำเตือน
          &#บุญชัย เกียรติธนาวิทย์83; ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน 
          &#บุญชัย เกียรติธนาวิทย์83; ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
          &#บุญชัย เกียรติธนาวิทย์83; สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมขอรับหนังสือชี้ชวน และคู่มือการลงทุน ได้ในวันและเวลาทำการเสนอขายที่ บลจ.ธนชาต ฝ่ายบริการลูกค้า โทรศัพท์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน-2บุญชัย เกียรติธนาวิทย์26-8399 กด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ www.thanachartfund.com หรือธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร. บุญชัย เกียรติธนาวิทย์77บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือผู้สนับสนุนการขาย หรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ บลจ.ธนชาต แต่งตั้ง
 
 

ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้

บลจ.กสิกรไทย คว้า 5 รางวัลยอดเยี่ยม Best of the Best Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกองทุนของไทย

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติถึง 5 รางวัล จากงาน Best of the Best Awards 2025 ได้แก่ รางวัล Best Asset Management Company (30 Years), Best Asset Management Firm for Digital Marketing, Best Alternatives Manager, Best ESG Manager และ Best Multi-Asset Manager ทั้งนี้ รางวัลที่ บลจ.กสิกรไทย ได้รับทั้ง 5 สาขา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ บลจ.กสิกรไทย ในการพัฒนาและนำเสนอบริการด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ครอบคลุมและมีคุณภาพ รวมถึงการปรับตัว

บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่... กรุงศรีเปิดตัวกองทุน KF-EMXCN โอกาสเติบโตไปพร้อมกับ Emerging Market — บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่าความผันผวนจากสงครามการค้า ด้วยโอกาสลงทุนใน...

บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรร... บลจ.ทิสโก้เปิดกอง TGOV7M10 กองทุนรวมตราสารหนี้ อายุ 7 เดือน — บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรรัฐบาล 7 เดือน 10 (TGOV7M10) เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบ...

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท การบินไ... บลจ.กสิกรไทย ตอกย้ำ Trusted Asset Manager การบินไทย ไว้วางใจให้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ — กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่ง...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด(บ... พิธีลงนามสัญญาแต่งตั้งบริษัทจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด(บลจ.วรรณ) ได้รับความ...

บลจ.กสิกรไทย สร้างทางเลือกการลงทุนเพื่อวั... บลจ.กสิกรไทย ชวนผู้ลงทุนเปิดรับโอกาสเกษียณมั่งคั่ง ส่ง K-WORLDXRMF ลุยทำกำไรตามดัชนีหุ้นโลก — บลจ.กสิกรไทย สร้างทางเลือกการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ เปิดตัวกองท...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี รับร... KFDNMRMF คว้ารางวัลกองทุนยอดเยี่ยมจาก Morningstar Awards 2025 — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมจาก Morningstar Awards for In...