นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า "กีฬาแบดมินตันนับเป็นกีฬาที่คนไทยประสบความสำเร็จในอันดับต้นๆ ของโลกมากที่สุดในปัจจุบัน เห็นได้จากการก้าวขึ้นเป็นมืออันดับ 1 ของโลกในประเภทหญิงเดี่ยวของน้องเมย์-รัชนก อินทนนท์ และยังมีนักกีฬาแบดมินตันไทยอีกหลายคนทั้งชายและหญิงที่ติดอันดับท็อป 20 ของโลก
ในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมกีฬาแบดมินตันระดับโลกในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานและพัฒนาการกีฬาแบดมินตันอาชีพให้มีความมั่นคงและเจริญรุดหน้ามากขึ้นในบทบาทของภาครัฐต่อการสนับสนุนส่งเสริมการกีฬาและการท่องเที่ยว ขอแสดงความยินดีในความร่วมมือครั้งนี้ ที่ทั้งสององค์กรจะช่วยกันผลักดันให้เกิดการพัฒนากีฬาแบดมินตันของไทยให้ไปสู่ระดับโลก พร้อมกับสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติในฐานะเจ้าบ้านที่จะต้อนรับนักกีฬาจากทั่วโลก การที่เราได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการใหญ่ระดับโลก นอกจากจะช่วยให้นักกีฬาของเราไม่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเดินทางไปแข่งขันที่ต่างประเทศแล้ว ยังเป็นการช่วยดึงชาวต่างชาติเข้ามาใช้จ่ายในประเทศ ส่งเสริมระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ตามนโยบายสปอร์ตทัวริสซึ่มของรัฐบาล เพราะในช่วงแข่งขันจะมีนักกีฬา เจ้าหน้าที่ทีม ครอบครัว และกองเชียร์เดินทางมามีส่วนร่วมในการแข่งขันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นการสร้างประโยชน์ให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล
การที่กระทรวงฯ ได้มาร่วมเป็นหนึ่งในกิจกรรมครั้งนี้ ก็เพื่อส่งเสริม และสนับสนุนการกีฬาระดับประเทศ และระดับนานาชาติ สู่ระดับโลกอย่างเป็นระบบ อีกทั้งกีฬาถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างคนให้มีคุณภาพ มีวินัย สร้างรายได้ และที่สำคัญที่สุด คือ สร้างเกียรติภูมิให้แก่ประเทศชาติ รวมถึงประชาชนชาวไทย ได้ภาคภูมิใจตลอดจนปลูกฝังค่านิยมที่ดีต่อเยาวชนของชาติ ให้หันมาสนใจกับการกีฬามากขึ้นอีกด้วย
ในนามของรัฐบาล ขอชื่นชมและขอขอบคุณสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ และ บริษัท ทรูฯ ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการมุ่งมั่นพัฒนาวงการกีฬาแบดมินตันไทยเพื่อยกระดับมาตราฐานให้สูงขึ้นสู่ระดับสากล ทำให้กีฬาแบดมินตันเป็นที่ยอมรับและนิยมแพร่หลายมากขึ้น ขออวยพรให้การดำเนินการตามเจตจำนงบรรลุผลสำเร็จตามที่มุ่งหวังทุกประการ"ขณะที่ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า "เป็นที่น่ายินดีที่สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมนโยบายของภาครัฐเรื่องสปอร์ต ทัวริซึ่ม โดยการเป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันแบดมินตันระดับโลกในประเทศไทย ถึง 3 รายการใหญ่ ได้แก่ โธมัส อูเบอร์คัพ, ปรินเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส และ เอสซีจี ไทยแลนด์ โอเพ่น 2018 (เวิลด์ซูเปอร์ซีรีส์)
หลังจากที่ประเทศไทยได้รับเกียรติและความไว้วางใจจากสหพันธ์แบดมินตันโลก ให้เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันแบดมินตันทีมชาย และทีมหญิงชิงแชมป์โลก รายการ โธมัส-อูเบอร์ คัพ รอบสุดท้าย ในปี 2018 อีกไม่นานหลังจากนั้น ยังได้รับโอกาสในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับซูเปอร์ซีรี่ส์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และระดับกรังด์ปรีซ์ โกลด์ เป็นเวลา 4 ปี ระหว่างปี 2018-2021 ส่งผลให้กีฬาแบดมินตันของไทยมีการพัฒนาไปสู่ความเป็นสากลอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและทุ่มเทการทำงานอย่างหนักของสมาคมฯ ที่ต้องการยกระดับศักยภาพนักกีฬาแบดมินตันของไทยให้สูงขึ้น พร้อมผลักดันนักกีฬารุ่นใหม่ให้ก้าวไปสู่การแข่งขันระดับนานาชาติในแนวทางและมาตราฐานที่ถูกต้อง เพื่อสร้างชื่อเสียงและนำความสุขให้ประชาชนชาวไทย และประเทศชาตินโยบายหลักที่สำคัญอย่างหนึ่งของสมาคมคือ เรามุ่งมั่นพัฒนากีฬาแบดมินตันด้วยหลักธรรมาภิบาลให้เป็นที่ยอมรับ และนี่จะเป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่นักกีฬาแบดมินตันไทยจะได้แสดงศักยภาพ สู่สายตาผู้ชมทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า นักกีฬาไทยมีมาตรฐานในระดับสากล
การที่สมาคมฯ เสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดมหกรรมกีฬาแบดมินตันอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ เพราะเชื่อว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มมูลค่าในทางเศรษฐกิจของสังคมไทย สอดรับกับนโยบายของรัฐ อีกทั้งยังเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะได้พัฒนาบุคลากรกีฬาแบดมินตันให้มีศักยภาพและขีดความสามารถสูงสุด เชื่อว่าความร่วมมือกับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในพิธีลงนามครั้งนี้ จะช่วยให้สมาคมฯ สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และจะนำมาซึ่งการเพิ่มสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ทั้งยังได้ร่วมกันขับเคลื่อนให้วงการแบดมินตันของไทยมีความก้าวหน้า พร้อมกับยกระดับขีดความสามารถของนักกีฬาไทยสู่การแข่งขันระดับโลกต่อไป"
ทางฝั่งของ นายโทมัส ลุนด์ เลขาธิการสหพันธ์แบดมินตันโลก กล่าวว่า "ขอแสดงความยินดีในความร่วมมือที่จะช่วยกันผลักดันวงการแบดมินตันไทยในระดับโลก ด้วยศักยภาพและความมุ่งมั่นตั้งใจของทั้งสององค์กร จึงเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขัน 3รายการใหญ่ดังกล่าวได้อย่างดีแน่นอน รวมถึงการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่สหพันธ์แบดมินตันโลก (AGM Meeting) ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน"
ด้าน นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา ผู้ช่วยบริหารงานประธานคณะผู้บริหาร และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์และมีเดีย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เป็นที่น่ายินดีที่กลุ่มทรู ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมนโยบายของภาครัฐ เรื่องสปอร์ต ทัวริซึ่ม รวมทั้งร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของสมาคมฯ ซึ่งเป็นไปตามความตั้งใจของกลุ่มทรู ที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและยกระดับวงการกีฬาไทยให้ก้าวไกลเทียบเท่ามาตรฐานสากลมาโดยตลอด โดยจะถ่ายทอดสดให้คนไทยทั้งประเทศได้รับชมและเชียร์การแข่งขัน 3 รายการใหญ่นี้ ผ่านทรูวิชั่นส์ ทรูโฟร์ยู (ช่อง 24) และทางออนไลน์ที่ทรูวิชั่นส์ เอนิแวร์ บนเครือข่ายทรูมูฟ เอช ซึ่งมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าการผนึกกำลังร่วมกับสมาคมฯ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 3 แมตช์ใหญ่ระดับโลกครั้งนี้ จะช่วยพัฒนาวงการหวดลูกขนไก่ไทยก้าวไกลสู่ระดับนานาชาติอย่างแท้จริง"
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันทั้ง 3 รายการ ประกอบด้วย ปรินเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2018 ชิงเงินรางวัลรวม 150,000เหรียญสหรัฐ แข่งขันวันที่ 9-14 ม.ค. 2561 ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก, โธมัส อูเบอร์คัพ แข่งขันวันที่ 20-27 พ.ค. 2561 ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี และเอสซีจี ไทยแลนด์ โอเพ่น 2018 (เวิลด์ซูเปอร์ซีรีส์) ชิงเงินรางวัลรวม 350,000 เหรียญสหรัฐ แข่งขันวันที่ 7-15 ก.ค. 2561ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit