พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ยกกรณีศึกษาเหตุเพลิงไหม้ตึกสูงในลอนดอน แนะตึกเก่า-ตึกสูงใน กทม. เร่งตรวจสอบระบบป้องกัน

          พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร แนะผู้ดูแลอาคารในประเทศไทยนำเหตุเพลิงไหม้เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ กรุงลอนดอน เป็นกรณีศึกษา ชี้อาคารเก่าและตึกสูง เร่งตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัย หลังสำรวจพบอาคารสูงในกรุงเทพฯ มากกว่า 6พลัส พร็อพเพอร์ตี้% เป็นอาคารเก่าอายุกว่า ชาญ ศิริรัตน์พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ปี พร้อมแนะตรวจสอบระบบทางหนีไฟและระบบเตือนภัยให้พร้อมใช้งานได้เสมอ ทำบัญชีอายุการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ และเปลี่ยนอุปกรณ์เมื่อครบอายุเพื่อลดความเสี่ยง
          นายชาญ ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและวิศวกรรม บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากเหตุเพลิงไหม้เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ ที่เป็นอาคารสูง ชาญ ศิริรัตน์4 ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษนั้น นับเป็นเพลิงไหม้ครั้งรุนแรงเท่าที่เคยเกิดขึ้นในอังกฤษ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ผู้ดูแลอาคารสูงในประเทศไทยควรนำมาเป็นกรณีศึกษา และหาแนวทางป้องกันเหตุอันไม่คาดฝันไม่ให้เกิดซ้ำรอยขึ้น
          สำหรับเหตุการณ์เพลิงไหม้เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์นั้น จากรายงานข่าวระบุว่า วันเกิดเหตุผู้อยู่อาศัยไม่ได้ยินสัญญาณการเตือนภัย และทางหนีไฟมีสิ่งกีดขวางจากวัสดุการปรับปรุงอาคารเมื่อชาญ ศิริรัตน์ ปีก่อน ไม่เพียงเท่านั้น มีผู้เชี่ยวชาญยังตั้งข้อสังเกตว่าวัสดุที่นำมาปรับปรุงอาคารยังเป็นวัสดุติดไฟง่าย จึงทำให้เปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามคงต้องรอผลสรุปอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่ดูแลต่อไป
          สำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครที่เป็นเมืองหลวงที่มีอาคารสูงอยู่เป็นจำนวนมาก และข้อมูลจากฝ่ายวิจัยและพัฒนาของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ได้ทำการสำรวจตลาดอาคารในกรุงเทพฯ พบว่ามีจำนวนมากกว่า 3,พลัส พร็อพเพอร์ตี้พลัส พร็อพเพอร์ตี้พลัส พร็อพเพอร์ตี้ อาคาร (อาคารสูง 7 ชั้น และสูงเกิน 3พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ชั้น) แบ่งเป็นอาคารใหม่อายุต่ำกว่า อสังหาริมทรัพย์พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ปี ซึ่งมีไม่ถึง อสังหาริมทรัพย์,พลัส พร็อพเพอร์ตี้พลัส พร็อพเพอร์ตี้พลัส พร็อพเพอร์ตี้ อาคาร (33%) และที่น่าเป็นห่วงคืออาคารส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ มีอายุราว ชาญ ศิริรัตน์พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ปี ส่วนใหญ่เป็นอาคารเก่าที่อาจมีความเสี่ยงในด้านไฟฟ้าลัดวงจร หรือเหตุการณ์ไฟไหม้ เนื่องจากระบบต่างๆ ถูกใช้งานมานาน จำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบ-ปรับปรุงระบบและอุปกรณ์ให้มีความพร้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญมาจัดระบบวิศวกรรมอาคารให้สามารถใช้งานได้เหมาะสม มีต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าของค่าเช่าให้กับเจ้าของอาคารได้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม อาคารขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นใหม่ในปัจจุบัน อาจจะมีความเสี่ยงในปัญหาอัคคีภัยน้อยกว่าอาคารเก่า เนื่องจากมีกฎหมายบังคับให้ออกแบบและวางระบบป้องกันแจ้งเตือนดับเพลิงได้ดี แต่กรณีที่บางอาคารเกิดเหตุและไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ทันนั้น เนื่องจากไม่มีการตรวจสอบและทดสอบการทำงานของระบบแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm) และระบบระงับเหตุเพลิงไหม้ (Sprinkler) อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกิดความบกพร่องไม่ว่าจะเป็นระบบการแจ้งเตือนเหตุ ระบบสัญญาณเตือนภัยและท่อน้ำดับเพลิง เป็นต้น ฉะนั้น จึงสรุปได้ว่า โครงสร้างระบบอาคารที่มีประสิทธิภาพและผู้ดูแลอาคารที่มีความเชี่ยวชาญคือหัวใจสำคัญของงานบริหารจัดการอาคาร เพื่อที่จะดูแลบำรุงรักษาให้ระบบมีความพร้อมต่อการใช้งานได้ตามมาตรฐานสากล 
          "สำหรับกรณีอาคารที่จะปรับปรุง ควรให้ความสำคัญกับการส่งต่อข้อมูลอาคารเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการใช้งาน เช่น การกั้นผนังอาคารขึ้นใหม่ที่อาจจะไปขัดขวางการกระจายน้ำของระบบสปริงเกอร์ และขาดอุปกรณ์ตรวจจับควัน ตรวจจับความร้อน ดังนั้นเมื่อมีการปรับปรุงอาคารจะต้องแจ้งข้อมูลแก่ผู้ออกแบบปรับปรุง เพื่อให้ระบบป้องกันอัคคีภัยที่ออกแบบไว้สำหรับรูปแบบอาคารเดิมได้รับการเปลี่ยนแปลงและสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ครอบคลุมทุกพื้นที่ปรับปรุง นอกจากนี้ ผู้ดูแลอาคารต้องทำการสำรวจทางหนีไฟอย่างสม่ำเสมอว่ามีสิ่งกีดขวาง เช่น อาจจะมีคนนำโต๊ะหรือเก้าอี้ไปวางทิ้งไว้ รวมถึงประตูสามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ ระบบเตือนภัยใช้งานได้เป็นปกติหรือไม่ อีกทั้งควรสำรวจและทำบัญชีด้านอายุการใช้งานของอุปกรณ์สำคัญต่างๆ และทำการเปลี่ยนอุปกรณ์เมื่อครบอายุการใช้งาน โดยเฉพาะอุปกรณ์เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า ซึ่งในภาพรวมแล้วหากมีระบบป้องกันอัคคีภัยที่ได้มาตรฐานและการดูแลรักษาที่ถูกต้องเป็นประจำ ก็จะช่วยบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และระงับเหตุได้อย่างรวดเร็ว" นายชาญ กล่าว
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ยกกรณีศึกษาเหตุเพลิงไหม้ตึกสูงในลอนดอน แนะตึกเก่า-ตึกสูงใน กทม. เร่งตรวจสอบระบบป้องกัน
 

ข่าวพลัส พร็อพเพอร์ตี้+อสังหาริมทรัพย์วันนี้

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ขานรับดีมานด์นักท่องเที่ยวภูเก็ตพุ่ง รุกเสิร์ฟบริการอสังหาฯครบวงจร ตอบโจทย์การอยู่อาศัยระดับพรีเมียม

นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า จังหวัดภูเก็ตยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยแนวโน้มการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่องสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2567 ภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยว 13 ล้านคน เพิ่มขึ้น 18% จากปี 2566 ขณะที่จำนวนเที่ยวบินที่เดินทางมายังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต (Flight Arrival) จากข้อมูลของท่าอากาศยานไทย (AOT)

ทัช พร็อพเพอร์ตี้ บริษัทในเครือ พลัส พร็อ... ทัช พร็อพเพอร์ตี้ แนะ 7 แนวทาง อาคารรับมือช่วงมรสุมหลังแผ่นดินไหว จุดไหนต้องเฝ้าระวังเพิ่ม — ทัช พร็อพเพอร์ตี้ บริษัทในเครือ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวช...

นายภคิน เอกอธิคม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรั... พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดขั้นตอนตรวจอาคารหลังแผ่นดินไหวของวิศวกร เช็กอย่างไรว่าปลอดภัยจริง? — นายภคิน เอกอธิคม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคาร บริษัท พลั...

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เชิญชวนลูกบ้านร่วมเป็น... พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผนึกกำลังลูกบ้านกว่า 400 โครงการ ร่วมกิจกรรม "Earth Hour ปิดไฟ…ให้โลกพัก" — พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เชิญชวนลูกบ้านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วย...