นิทรรศการ “Templestay & Temple Food” ชวนสัมผัสประสบการณ์พักค้างแรมในวัดเกาหลีระหว่างมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาวปีหน้า

          Cultural Corps of Korean Buddhism ประสบความสำเร็จในการจัดนิทรรศการ "Templestay and Temple Food Exhibition, Experience and Lecture" ภายใต้ธีม "Pyeongchang Winter Olympics with Templestay" ณ กรุงนิวยอร์ก มหานครแห่งวัฒนธรรมของโลก เมื่อวันที่ 24-30 กันยายนที่ผ่านมา

          นอกเหนือจากประชาชนชาวนิวยอร์กแล้ว นิทรรศการดังกล่าวยังนำเสนอกิจกรรมการพักค้างแรมและอาหารรสเลิศของวัดแก่สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐเกาหลีประจำนิวยอร์ก ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีแห่งนิวยอร์ก สำนักงานการท่องเที่ยวเกาหลีประจำนิวยอร์ก ตลอดจนหน่วยงานของรัฐบาลเกาหลี สมาคมศิลปวัฒนธรรม และสื่อมวลชนในนิวยอร์กด้วย

          ผู้ที่มาเยี่ยมชมงานกว่า 100 คนต่างได้รับประสบการณ์อันหลากหลาย ทั้งยังได้ลิ้มรสอาหารของวัดที่ถูกนำมาให้ลิ้มลองที่ Astor Center ในกรุงนิวยอร์ก สำหรับกิจกรรมที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือการประดิษฐ์โคมไฟดอกบัว ขณะที่อาหารขึ้นชื่ออย่าง "ซัมบับ" และมันฝรั่งทอดกรอบก็เป็นเมนูยอดนิยมในงานนี้

          นอกจากนี้ ผู้มาร่วมนิทรรศการหลายคนยังแสดงความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมพักค้างแรมที่วัดระหว่างมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาวซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองพยองชังในปีหน้าด้วย

          เสือขาว "ซูโฮรัง" และหมีดำ "บันดาบี" มาสคอตของมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาวพยองชัง ก็ได้เปิดโอกาสให้ชาวนิวยอร์กได้ถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดบริเวณโซนถ่ายรูปภายในนิทรรศการดังกล่าว

          อีกด้านหนึ่งของงาน ผู้แทนจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ ศิลปวัฒนธรรม สื่อมวลชน ตลอดจนเชฟชื่อดัง ต่างตบเท้ามาร่วมงานเลี้ยงอาหารที่ปรุงในวัดซึ่งมีหลากหลายเมนู เช่น โจ๊กกับมันฝรั่งก้อนและเครปบักวีต ที่ส่งตรงมาจากจังหวัดคังวอน ประเทศเกาหลีใต้

          เชฟ Kenny Pinney จาก Jean-Georges ร้านอาหารชื่อดังในนิวยอร์ก กล่าวว่า "ผมประทับใจมากกับอาหารที่สะอาดและสดใหม่ ผมรู้สึกว่าได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบโดยไม่มีอะไรเจือปน"

          Maangchi Kim บล็อกเกอร์อาหารเกาหลีชื่อดังที่มีผู้ติดตามในยูทูบ 2 ล้านคนทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก กล่าวว่า "ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสลิ้มรสอาหารของวัดเกาหลีทั้งที่อยู่ใจกลางมหานครนิวยอร์ก เต้าหู้ย่างกับพริกดองทำให้ฉันรู้สึกถึงรสชาติของอาหารเกาหลีแท้ๆ ที่มีกลิ่นและสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มันทำให้ฉันอยากสาธิตการทำอาหารของวัดบนช่องยูทูบของฉัน"

          Bailey และ Tarsha ให้สัมภาษณ์ว่า "ฉันสัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมเกาหลีและความลึกซึ้งของอาหารในวัด โดยเฉพาะพริกดองที่โดนใจฉันมาก มันไม่เหมือนพริกดองของอเมริกา เรารู้สึกได้ถึงความใส่ใจของเชฟและการอดทนรอเพื่อให้รสชาติออกมาดีที่สุด" นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังขอบคุณเชฟ Ven. Beopsong ซึ่งเป็นผู้แนะนำอาหารของวัดให้ได้รู้จัก โดยกล่าวว่า "หากฉันได้มีโอกาสไปเกาหลี ฉันจะไปลองอาหารของวัดและเรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีด้วยการพักค้างแรมในวัด"

          เมื่อวันที่ 29 กันยายน (ตามเวลาท้องถิ่น) ได้มีการจัดกิจกรรมบรรยายพิเศษเกี่ยวกับอาหารของวัดโดยเชฟ Ven. Beopsong ณ สถาบัน Culinary Institute of America (CIA) ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนทำอาหารชื่อดังของอเมริกา โดยมีอาจารย์และนักเรียนของสถาบันราว 100 คนมาร่วมฟังการบรรยายด้วยความสนใจและกระตือรือร้น นักเรียนต่างตั้งคำถามเกี่ยวกับสูตรอาหารของวัดและลักษณะเฉพาะของวัดในเกาหลี นอกจากนี้ Michael Pardus ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเอเชียของสถาบัน CIA ยังได้ขอบคุณเชฟ Ven. Beopsong และทีมงานของ Cultural Corps of Korean Buddhism ด้วยก๋วยเตี๋ยวกิมจิ ซอสถั่วเหลือง และผลไม้เฉพาะถิ่นสุดพิเศษ

          Cultural Corps of Korean Buddhism รับหน้าที่จัดกิจกรรมโปรโมทอาหารของวัดปีละ 2 ครั้ง ณ มหานครนิวยอร์ก นับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา โดยกิจกรรมในปีนี้ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อเน้นย้ำความสำคัญของมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาวพยองชังที่จะเปิดฉากขึ้นในปีหน้า

          ติดต่อ:
          Min Ji Hong
          โทร. +82-2-2031-2041
          อีเมล: [email protected] 
          เว็บไซต์: http://koreantemplefood.com