วงดนตรีที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในปีนี้ ได้แก่ ทีมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ที่สามารถครองแชมป์ชนะเลิศต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ออกแบบโดยอ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ พร้อมรางวัลรวมมูลค่า 300,000 บาท
พลโท ธเนศ กาลพฤกษ์ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศเป็นช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นและภาคภูมิใจของเยาวชนไทย 9 ทีมสุดท้ายที่จะได้พิสูจน์ความสามารถด้านดนตรีอย่างแท้จริง ส่วนผู้ชมจะได้เห็นฝีมือและพัฒนาการด้านดนตรีของเยาวชนไทยที่เก่งเกินคาด รู้สึกภูมิใจกับความสามารถของเยาวชนเหล่านี้และต้องการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะจัดโครงการนี้อย่างต่อเนื่องทุกปี นอกจากนี้ ยังมองเห็นความสำเร็จอื่น ๆ ที่สะท้อนกลับมาอีกมากมาย อาทิ กระแสความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีมากขึ้น การได้เห็นพลังแห่งความรักความสามัคคีของคนไทย ตลอดจนการสร้างจิตสำนึกเรื่องความรักชาติ และความหวงแหนแผ่นดินไทยที่เกิดขึ้นกับเยาวชนไทย ฯลฯ เป็นต้น เหล่านี้คือสิ่งที่ทางโครงการตระหนักมาโดยตลอดและอยากให้เกิดขึ้นตลอดไป รู้สึกยินดีที่มีส่วนช่วยบ่มเพาะและปลูกฝังค่านิยมที่ดีแก่เยาวชน ด้วยการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ ส่งผลให้ปัญหาสังคมลดน้อยลง"
แมงปอ-ปาณิกา ดีหลาน ชั้น ม.5 ตัวแทนทีม จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จ.กรุงเทพฯ รางวัลชนะเลิศ กล่าวว่า วินาทีที่ประกาศผลพวกเรารู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากๆ ที่สามารถทำได้อีกครั้ง คิดว่ามาจากการที่ได้ปรับปรุงพัฒนาทีมและแก้ไขข้อผิดพลาดต่าง ๆ และมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้คลายความตื่นเต้นลงมาก คิดว่ามาเล่นดนตรี ไม่ได้มาแข่ง แต่มาแสดงความสามารถเพื่อมอบความสุขให้กับทุกคน จึงทำกันอย่างเต็มที่ รู้สึกประทับใจโครงการนี้มาก เพราะเป็นโครงการที่จัดขึ้นมาเพื่อให้เด็กที่มีใจรักด้านดนตรีจริง ๆ ได้มามีโอกาสแสดงความสามารถให้ทุกคนได้เห็น ดีใจมากที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมนี้
ด้าน โซ่- แมนลักษณ์ ทุมกานนท์ ตัวแทนคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในโครงการบทเพลงรักแห่งแผ่นดินปีที่ 7 กล่าวว่า เป็นปีแรกที่มีโอกาสเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการในโครงการนี้ นอกจากจะได้เห็นความเก่งและความสามารถของน้องๆ หลายวงอย่างน่าทึ่งแล้ว ยังได้เห็นถึงมิติของการทำเพลงมัธยมสมัยนี้ ว่าพวกเขาได้เห็นอะไรมากกว่าสมัยก่อน และใช้ความเป็นไทยเข้ามาอยู่โชว์มากขึ้น หลายวงนำเครื่องดนตรีไทยมาผสม เป็นการดึงวัฒนธรรมไทยที่งดงามอยู่แล้วมาผสมได้กับความเป็นสากลอย่างลงตัว รวมถึงสมาชิกในวงค่อนข้างเยอะ ทำให้มีมิติของวงดูเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ ฝากถึงน้องๆ ที่เห็นเวทีนี้แล้ว มาลองดูก่อนได้ โดยดูคลิปย้อนหลัง และทำการบ้านให้หนัก เพราะเวทีนี้ไม่หมู สิ่งสำคัญที่สุดของการประกวดคือไม่ว่าใครจะเล่นถูกหรือผิดโน้ตไม่ใช่ประเด็นหลักที่กรรมการจะดู แต่จะดูที่จินตนาการ ความกล้าคิดกล้าทำในสิ่งต่างๆ ตลอดจนการวางรูปแบบของโชว์มากกว่า ว่าสามารถลงโชว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และประทับใจคนดูแค่ไหน เมื่อกลับบ้านแล้วยังนึกถึงโชว์นี้อยู่ จึงต้องเอาชนะใจคนฟังและกรรมการให้ได้"
ในแต่ละปีจะมีทีมที่มาร่วมประชันความสามารถทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ทุกทีมต่างรู้ดีว่าการแข่งขันย่อมมีแพ้และชนะ แต่รางวัลยังไม่สำคัญเท่ากับการได้ยอมรับจากคนดูและกรรมการ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะกี่ครั้งก็ตาม ทุกทีมต่างนำประสบการณ์ที่ได้รับกลับไปปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อกลับมาสู้ใหม่ในปีหน้า จึงเกิดเป็นมิตรภาพระหว่างเยาวชนคนรักดนตรีที่ผูกพันแน่นแฟ้นยืนยง เป็นเสน่ห์ของการแข่งขันที่เกิดขึ้นในโครงการนี้
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit