Step 1: เลือกเสื้อผ้าให้ดี เพื่อกระตุ้นพลังความสดใส
แน่นอนว่า ถ้าสาวๆ อยากที่จะให้กลิ่นหอมติดทนบนเสื้อผ้าตลอดทั้งวัน ก่อนอื่นเลย สาวๆ ต้องพิถีพิถันและใส่ใจเลือกเนื้อผ้าที่จะสวมใส่ให้เหมาะกับสภาพอากาศและการใช้งานด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สภาพอากาศในประเทศไทยที่ส่วนใหญ่จะมีความร้อนชื้น ดังนั้นก็ควรที่จะเลือกเสื้อผ้าที่ทำมาจากเนื้อผ้าคอตตอน หรือผ้าลินิน โปร่งโล่ง เบาสบาย และระบายอากาศได้ดี ชนิดที่ว่าไม่ว่าจะขยับตัวทำกิจกรรมอะไรกลิ่นหอมที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าก็จะหอมฟุ้ง พร้อมกระตุ้นความสดใสให้กับสาวๆ ทั้งวันแน่นอน
Step 2: ใส่ใจขั้นตอนการซัก เพื่อความกลิ่นหอมสดใสที่ติดทนนานบนเสื้อผ้าตลอดทั้งวัน
อย่างที่ทราบกันดีว่าการซักผ้าด้วยเครื่องเป็นวิธีที่ประหยัดทั้งแรงและเวลา แต่ถ้าสาวๆ อยากจะถนอมและทำให้เสื้อตัวโปรดหอมยาวนานแล้วล่ะก็ อาจจะต้องเพิ่มเวลา และให้ความใส่ใจกับขั้นตอนการซักมากขึ้น โดยเฉพาะขั้นตอนการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่รู้กันดีว่าเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดที่จะทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอม ด้วยผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม ดาวน์นี่ สวีทฮาร์ท ที่รังสรรค์ขึ้นจากดอกกุหลาบหายาก 1,000 ดอก ใช้เพียงแค่ครึ่งฝา ก็รับรองได้ว่ากลิ่นหอมสดใสจะติดทนยาวนานบนเสื้อผ้า ยิ่งกว่าน้ำหอมระดับพรีเมี่ยม ช่วยกระตุ้นความสดใสร่าเริง และทำให้สาวๆ รู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้ตลอดเวลา
Step 3: เก็บรักษาให้ดี กลิ่นหอมสดชื่นบนเสื้อผ้าก็จะยิ่งติดทนนานมากขึ้น
ขั้นตอนการเก็บก็ส่งผลต่อกลิ่นหอมบนเสื้อผ้าเช่นกัน ต่อให้ซักและใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มดีแค่ไหน หากนำไปเก็บในตู้เสื้อผ้าที่สกปรกและอับชื้น ก็อาจจะทำให้กลิ่นหอมจางหายได้ไว ดังนั้น สาวๆ ควรตั้งตู้เสื้อผ้าไว้ในพื้นที่ปลอดโปร่ง ไม่อับชื้น และหมั่นเช็ดทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าอยู่เสมอ เพื่อที่ไม่ว่าจะแขวนเสื้อผ้าไว้นานแค่ไหน กลิ่นหอมสดใสก็จะยังติดอยู่บนเสื้อผ้าทุกครั้งที่สวมใส่https://homebnc.com/best-closet-organization-ideas-designs/
หวังว่าเคล็ดลับที่ดาวน์นี่หามาฝากในครั้งนี้ จะทำให้เสื้อผ้าของสาวๆ ที่มีกลิ่นหอมสดใสติดทนนานตลอดทั้งวัน ยิ่งกว่าน้ำหอมระดับพรีเมี่ยม พร้อมกระตุ้นพลังความสดใสและกระปรี่กระเปร่าตลอดทั้งวันเลยทีเดียว
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit