ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมนำโครงการอสังหาริมทรัพย์ 12 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพร้อมอยู่ พร้อมโอน 7 โครงการ ได้แก่ เลอริช พระราม 3, ริชพาร์ค @ บางซ่อน, ริชพาร์ค @เ ตาปูน อินเตอร์เชนจ์, ริชพาร์ค @ เจ้าพระยา, เดอะริชวิลล์ ราชพฤกษ์, เดอะริช บิชโฮม สุขุมวิท 105 ,เดอะริช @ สาทร-ตากสิน และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและเตรียมก่อสร้างอีก 5 โครงการ คือ ริชพาร์ค ลอฟท์ @ หลักสี่ สเตชั่น, เดอะริช นานา, ดิเอท คอลเลคชั่น, ริชพาร์ค ทริปเปิ้ลสเตชั่น และเดอะริช อเวนิว ดำรงรักษ์ เข้าร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 จัดโดยสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย ระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคม 2560 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษที่จัดเตรียมมาเพื่องานนี้ ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาส 4/60 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ส่วนความคืบหน้าในการก่อสร้างโครงการ"ริชพาร์ค ทริปเปิ้ลสเตชั่น" คอนโดมิเนียม ติดแนวสถานีรถไฟฟ้า 3 สาย ประกอบด้วย สายสีแดงอ่อน สีแดงเข้ม และสายสีเหลือง บนถนนศรีนครินทร์ ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก คาดว่าจะสามารถก่อสร้างเสร็จก่อนสัญญาและจะเริ่มตรวจรับห้องได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2561 จากเดิมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2561
ประธานกรรมการบริหาร กล่าวต่อว่า "สำหรับครึ่งปีหลัง RICHY ได้มีการปรับราคาอสังหาฯ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง(MRT เตาปูน-คลองบางไผ่) ภายหลังจากที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) และ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) รวมถึง รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BEM) ได้ร่วมลงนามในสัญญาเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางซื่อ และสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ ซึ่งปัจจุบันได้เชื่อมต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้อสังหาริมทรัพย์ ในแนวรถไฟฟ้าดังกล่าว กลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่งผลดีต่อราคาโครงการคอนโดมิเนียมของ RICHY ซึ่งสามารถทำกำไรและปรับราคาขึ้นมา 2-3% ดังนั้น ช่วงนี้เวลานี้ จึงถือว่าเป็นจังหวะที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการซื้ออสังหาฯ ทั้งเพื่ออยู่อาศัยและการลงทุน"
"สำหรับด้านการลงทุน ปัจจุบันบริษัทฯ เริ่มมีสัดส่วนของการลงทุนจากกลุ่มทุนต่างประเทศที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่ไม่มี ตอนนี้เริ่มทยอยเข้ามาลงทุนแทบจะทุกโครงการ โดยมีสัดส่วนเฉลี่ยทุกโครงการอยู่ประมาณ 10% โดยเฉพาะกลุ่มทุนจีนที่จะเข้ามาลงทุนเพื่อปล่อยเช่าซึ่งมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หากนักลงทุนไม่ซื้อในช่วงนี้แล้ว อาจเสียโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีทั้งจากแนวโน้มราคาอสังหาฯที่คาดว่าจะปรับตัวสูงตามดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต" ดร.อาภา กล่าวในที่สุด
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit