สาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า สุดล้ำ! ผุดนวัตกรรมการเรียน “STEM With Robotics” นำหุ่นยนต์เป็นสื่อการสอน “วิทย์ คณิต” พร้อมโชว์ห้องเรียนสุดไฮเทค ที่เด็ก GEN Z ต้องการ

สาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า จับมือ "คาร์เนกี เมลลอน โรโบติคส์ อคาเดมี่" สถาบันหุ่นยนต์ระดับโลก พลิกโฉมการเรียน "วิทย์ คณิต" เด็กไทยปี 60

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมกับ คาร์เนกี เมลลอน โรโบติคส์ อคาเดมี่ (Carnegie Mellon Robotics Academy) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Carnegie Mellon University สถาบันอันดับ 1 ของโลก ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เปิดตัวหลักสูตร "STEM with Robotics" นวัตกรรมการเรียนการสอนสมัยใหม่ที่นำหุ่นยนต์มาใช้เป็นสื่อเชื่อมโยงการเรียนรู้ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้เยาวชนเข้าถึงการประยุกต์ใช้ความรู้หลากหลายด้านจาก 4 สหวิทยาการด้วยความสนุกสนานและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ โดยหลักสูตรดังกล่าวจะเริ่มใช้กับนักเรียนในระดับเกรด 7 และเกรด 10 ในปีการศึกษา 2560 ทั้งนี้ โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า (KMIDS ) ได้ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์และจุดมุ่งหมายในการสร้างกำลังคนและกำลังสมองในด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างผู้นำในอนาคต

สำหรับผู้ปกครองและนักเรียนที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มติมได้ที่ ฝ่ายวิชาการโรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า โทรศัพท์ 088-892-6111 หรือเข้าไปที่ Facebook Fanpage : KMIDS

ผศ.ดร.สุพันธุ์ ตั้งจิตกุศลมั่น ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า กล่าวว่า โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้าได้นำหลักสูตร STEM With Robotics ซึ่งเป็นหลักสูตรพิเศษที่ได้รับความร่วมมือจากคาร์เนกี เมลลอน โรโบติคส์ อคาเดมี่ Carnegie Mellon Robotics Academy สถาบันคุณภาพอันดับหนึ่งของโลกที่มีชื่อเสียงด้านวิทยาศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ได้ใช้สอนในโรงเรียนทั่วโลกมาแล้วมากกว่า 8,000 แห่ง โดยหลักสูตรดังกล่าวได้นำ องค์ความรู้ บูรณาการข้าม กลุ่มสาระวิชา (Interdisciplinary Integration) ระหว่าง ศาสตร์สาขาต่างๆ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineer) และ คณิตศาสตร์ (Mathematics) หรือหลักสูตร STEM มาผสมผสานกับ หุ่นยนต์ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสื่อการสอน โดยแบ่งเป็นระดับการเรียน ตั้งแต่ Robotic Beginner จนถึงระดับ Robotic Advance ซึ่งผู้เรียนจะได้เรียนตั้งแต่การประกอบและการออกแบบหุ่น การเขียนโปรแกรมสั่งการ จนกระทั่งสามารถประยุกต์ใช้หุ่นยนต์ประดิษฐ์ทำภารกิจต่างๆ ฯลฯ ทั้งนี้ หลักสูตรดังกล่าวจะเป็นส่วนที่สำคัญที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้เยาวชนสนใจและความสนใจในการเรียนมากขึ้น โดยหลักสูตรนี้โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้าถือได้ว่าเป็นโรงเรียนนานาชาติแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้นำมาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน

ผศ.ดร.สุพันธุ์ ตั้งจิตกุศลมั่น กล่าวเสริมว่า โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า ได้จัดการเรียนการสอนโดยมีสัดส่วนครู 1 คน ต่อนักเรียน 10 คน ครูผู้สอนมีประสบการณ์สอนในโรงเรียนนานาชาติ และจบการศึกษาโดยตรงในสาขาวิชาที่สอน และจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น MIT, Harvard, Imperial College London, UCLA, UC Berkeley และ Columbia University เป็นต้น ในส่วนของห้องเรียนจัดในรูปแบบ Active Learning ผ่านห้องเรียนอัจฉริยะ หรือ Super Smart Classroom มีเครื่องมือและระบบต่างๆจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในระดับโรงเรียนสาธิตนานาชาติ และสื่อการสอนที่มีการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ ครูและนักเรียนจะมีโอกาสได้ร่วมใช้ในการจัดการเรียนการสอน แลกเปลี่ยนทักษะความรู้และความคิดเห็นที่เกิดระหว่างกิจกรรมทั้งในและนอกห้องเรียนตลอดเวลา โดยสื่อการเรียนการสอนที่ล้ำสมัยเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ในปีการศึกษา 2560 ทั้งในระดับเกรด 7 และเกรด10 นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังได้สนับสนุนให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนเพื่อเป็นการส่งเสริมความสามารถของนักเรียนในการเข้ารับการคัดเลือกรับทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ (special talent) ในด้านดนตรี กีฬา และศิลปะ อีกด้วย

ด้าน ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า ระบบการศึกษาของประเทศไทยมีความจำเป็นและถึงเวลาแล้วที่จะต้องผลักดันให้ผู้เรียนหันมาสนใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น โดยในปัจจุบันมีผู้ที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญในด้านดังกล่าวอยู่เพียงไม่ถึง 30 % โดยการขาดแคลนสิ่งสำคัญเหล่านี้นับเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม ฐานความรู้และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ดังนั้น สจล.จึงได้ตระหนักว่าการที่จะผลิตบุคลากรเหล่านี้ป้อนเข้าสู่การพัฒนาประเทศในอนาคต สถาบันการศึกษาจะต้องเป็นจุดแรกเริ่มในการบ่มเพาะผู้ที่มีคุณภาพและความสามารถให้มีความพร้อมตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งผู้เรียนจะต้องได้รับการปลูกฝังความรู้ในรูปแบบที่ไม่ธรรมดาและนอกเหนือจากระบบการศึกษาปกติ โดยขณะนี้ความรู้วิทยาศาสตร์เด็กไทยยังเป็นรองชาติอื่นอยู่มาก การมีสถาบันการศึกษาเฉพาะทางที่ปลูกฝังเด็กให้มีความเป็นอัจฉริยะและมีศักยภาพทางการเรียนรู้วิทยาการสมัยใหม่ตั้งแต่เล็กย่อมจะเป็นเรื่องที่ดีต่อเนื่องไปจนถึงขณะที่เข้าสู่การศึกษาในระดับที่สูงขึ้น ทั้งยังจะนำไปสู่การเป็นกำลังสำคัญของชาติในการสร้างนวัตกรรมที่ทันสมัยต่อไปในภายภาคหน้า

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ กล่าวปิดท้ายว่า โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า ถือได้ว่าเป็นโรงเรียนสาธิตนานาชาติสายวิทยาศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทยภายใต้สังกัดของ สจล. ซึ่งมีชื่อเสียงในการผลิตนวัตกรรมชั้นยอดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การจัดตั้งโรงเรียนมีวัตถุประสงค์และจุดมุ่งหมายในการสร้างกำลังคนและกำลังสมองในด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อก่อให้เกิดนักคิดและผู้สร้างนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยเฉพาะในภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม และภาคธุรกิจ หลักสูตรที่ใช้ในสถานศึกษาเน้นรูปแบบการเรียนที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้รอบด้าน ฝึกการเรียนรู้ด้วยตนเอง เปลี่ยนรูปแบบการเรียนที่จะต้องเรียนแบบท่องจำ ปลูกฝังอุปนิสัยให้ผู้เรียนสนใจกระบวนการหาความรู้ อีกทั้งยังส่งเสริมให้ทำกิจกรรมประสบการณ์นอกห้องเรียนเพื่อฝึกทักษะความคิดความเข้าใจต่อยอดถึงการนำความรู้ที่ได้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ การที่ผู้เรียนได้เข้าศึกษาในสถาบันแห่งนี้ถือว่าได้เปรียบกว่าที่อื่นๆ เนื่องจากผู้เรียนจะได้เตรียมความพร้อมในการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในระดับประเทศและระดับโลกตั้งแต่วัยเยาว์ ยิ่งเมื่อเข้าสู่ในระดับมัธยมปลายยิ่งจะมีความได้เปรียบมากยิ่งขึ้น โดยผู้เรียนมีโอกาสจะได้เลือกเรียนวิชาเฉพาะในระดับมหาวิทยาลัย อาทิ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ หรืออื่นๆที่สนใจได้ก่อนผู้ที่เรียนต่างสถาบัน ซึ่งกลยุทธ์การเรียนการสอนลักษณะนี้ถือเป็นการทดสอบและเตรียมความพร้อมก่อนก้าวไปสู่ระดับอุดมศึกษา ทั้งยังทำให้ผู้เรียนได้รู้จักค้นหาความชื่นชอบและทักษะของตนเอง เกิดความรอบรู้และเก่งก่อนผู้อื่น ซึ่งที่สุดปลายทางจะก่อให้เกิดความเชื่อมั่นและบ่มเพาะความเป็นผู้นำได้อย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับผู้ปกครองและนักเรียนที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มติมได้ที่ ฝ่ายวิชาการ โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า โทรศัพท์ 088-892-6111 หรือเข้าไปที่ Facebook Fanpage : KMIDS

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit