“ครูอ๊อด” เผยเป็น “โรคเนื้องอกในสมอง” เหนื่อยแค่ไหนก็ทน เร่ขายของมือสองหวังเปลี่ยนชีวิตเด็กกำพร้า “บ้านนกขมิ้น”

          หากพูดถึง "บ้านนกขมิ้น" ก็คงจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นมูลนิธิที่คอยดูแลเด็กกำพร้า เร่ร่อน ซึ่งมีนานร่วม ปากโป้ง6 ปี โดยการนำของ "ครูอ๊อด-สุรชัย สุขเขียวอ่อน" ผอ.มูลนิธิบ้านนกขมิ้น แต่มาวันนี้ "บ้านนกขมิ้น" กำลังประสบปัญหาค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็กไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร เสื้อผ้า ค่าเล่าเรียน ที่มีไม่เพียงพอ จน "ครูอ๊อด" ต้องออกมานั่งเร่ขายเสื้อผ้ามือสองซึ่งขอรับบริจาคมาจากผู้ใจบุญ เพื่อนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายให้เด็กๆ แม้ว่าตัวเองจะป่วยเป็น "โรคเนื้องอกในสมอง" ครูเองยังไม่ยอมหยุดพัก และวันนี้รายการ "ปากโป้ง" ทาง ช่อง 8 เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์ โดยมี "หนุ่ม-กรรชัย กำเหนิดพลอย" เป็นพิธีกร ขอเจาะลึกถึงเรื่องดังกล่าว 
          บ้านนกขมิ้นเกิดขึ้นมาได้ยังไง ? 
          "เมื่อประมาณ ปากโป้ง7 ปีที่แล้วเราพบว่าในกรุงเทพมีเด็กเร่ร่อนจำนวนเยอะมาก ตอนนั้นผมเรียนอยู่ที่รามคำแหง แล้วมีคนมาชวนให้ผมมาเป็นครูอาสาสมัครข้างถนน แล้วก็มีโอกาสได้เจอเด็กข้างถนนเยอะ แต่ว่าไม่รู้จะพาเขาไปที่ไหน อันนี้คือจุดเริ่มต้น คือ เด็กเนี่ยกลับบ้านไม่ได้ เพราะว่าผู้ปกครองไม่ยอมรับบ้าง ผู้ปกครองเสียชีวิตไปบ้าง หรือผู้ปกครองติดเหล่าติดยา เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ต้องหาบ้านสำหรับเด็กเหล่านี้ ก็ได้ไปเจอกับคุณพ่อวินซ์ เป็นชาวสวิซเซอร์แลนด์ ตอนนั้นท่านก็มาทำบ้านหลังเล็กๆ เป็นบ้านเด็กกำพร้า สาเหตุที่ท่านมาทำก็เพราะว่าท่านไปเจอเด็กเร่ร่อนแล้วอยากจะช่วย แต่ว่าก็มีเด็กแค่ 4-5 คนที่อยู่กับท่าน ท่านเป็นฝรั่ง ท่านไม่รู้จะไปหหาเด็กเร่ร่อนที่ไหนมาอยู่ที่นี่ ก็เลยมารู้จักกับผม และผมก็ได้พาเด็กหลายคนมาอยู่ที่บ้านนกขมิ้น" 
          ครั้งแรกบ้านนกขมิ้นมีเด็กในบ้านกี่คน ? 
          "ครั้งแรกๆ เลยมี มูลนิธิบ้านนกขมิ้นสุรชัย สุขเขียวอ่อน คนได้ครับ ตอนนั้นเป็นเด็กเร่ร่อนล้วนๆ เลยครับ เด็กจรจัด เด็กเหลือขอคนเขาเรียกอย่างนั้น เขาอยู่ไม่เป็นที่ไม่เป็นทาง เขาไม่สามารถอยู่ในครอบครัวได้ครับ บางครั้งครอบครัวทอดทิ้งเขา ไล่เขาออกจากบ้าน หรือว่าพ่อแม่ติดยาเสพติด พ่อแม่ติดคุก พ่อแม่เสียชวิต ไม่มีครอบครัวจะอยู่ เด็กบางคนที่ผมเห็นต้องเก็บอาหารในถังขยะกิน" 
          ทำไมตั้งชื่อบ้านนกขมิ้น ? 
          "ถ้าเคยได้ยินเพลงกล่อมเด็ก เนื้อเพลงว่านกขมิ้นเหลืองอ่อน ค่ำแล้วจะนอนไหนดี ถ้าใครเคยได้ฟังเพลงกล่อมเด็กจะจำได้ เพราะฉะนั้นเด็กพวกนี้ก็เหมือนนกขมิ้นที่ไม่มีรังนอน ค่ำไหนนอนนั่น ก็เลยตั้งชื่อว่าบ้านนกขมิ้น เป็นบ้านของเด็กที่ไม่มีที่นอน" 
          บ้านนกขมิ้นเริ่มเติบโตมาเหมือนทุกวันนี้ได้ยังไง ? 
          "ผมเป็นครูข้างถนนด้วยนะครับ โอกาสที่จะเจอเด็กข้างถนน และเครือข่ายครูข้างถนน และเครือข่ายคนที่ทำงานเกี่ยวกับเด็ก หลายคนก็ส่งเด็กมาให้กับเราก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จากบ้านในกรุงเทพ เราก็ขยายไปบ้านสุโขทัย เชียงใหม่ เชียงราย และหลายๆ ที่ ที่ต้องขยายไปต่างจังหวัดก็เพราะว่าเราต้องการหาพื้นที่ที่จะทำเกษตรพอเพียงเพื่อจะเลี้ยงดูพวกเขาด้วย"
          บ้านกขมิ้นไม่ได้มีแค่ในกรุงเทพ ? 
          "ไม่ได้มีที่เดียวครับ มีสาขาอยู่เชียงราย เชียงใหม่ สุโขทัย อุทัยธานี ประจวบฯครับ" 
          แล้วครูอ๊อดดูแลที่ไหน ? 
          "ทั้งหมดเลยครับ แต่จะมีเจ้าหน้าที่แต่ละบ้านที่ผมต้องดูแลเขาด้วยครับ ตัวผมเองประจำอยู่ที่กรุงเทพ ในกรุงเทพมีเด็กอยู่ประมาณ 4สุรชัย สุขเขียวอ่อน คน ใน 4สุรชัย สุขเขียวอ่อน คนนี้จะแยกออกเป็นครอบครัว มีครอบครัวอื่นๆ มาช่วยดูแล มี 4 ครอบครัวที่มาช่วยดูแลเด็ก ครอบครัวผมดูแลเด็ก(ส่งเสียค่าเล่าเรียน) มูลนิธิบ้านนกขมิ้น4 คน และยังมี ครอบครัวคุณกำพล ครอบครัวคุณไก่ ครอบครัวคุณปัญญา เราเป็นสถานสงเคราะห์ที่มีรูปแบบแปลกหน่อยนะครับ เราใช้ระบบครอบครัว ระบบบ้าน ภาพใหญ่คือสถานสงเคราะห์กรุงเทพมีเด็ก 4สุรชัย สุขเขียวอ่อน คน ภาพย่อยคือมีครอบครัวเล็กๆ ในการดูแลเด็กอีก"
ค่าเล่าเรียน เสื้อผ้า อาหาร ของเด็กที่กรุงเทพครูอ๊อดเป็นคนหา ? 
          "ทั้งหมดครับ คือบ้านนกขมิ้นทั่วประเทศ ปากโป้งสุรชัย สุขเขียวอ่อนสุรชัย สุขเขียวอ่อน คน" 
          ได้เงินมากจากไหน ? 
          "มากจากกล่องบริจาคที่เราไปขอวางตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟในปั้มน้ำมัน แต่ต่อมาก็วางไม่ค่อยได้ เพราะอาจจะมีขโมยเข้าไปขโมยอาจจะทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญทำให้ผู้ประกอบการก็ไม่อยากให้เราวาง ผมไม่ทราบว่ายังไงบ้างนะครับ จริงๆ ผมขอความช่วยเหลือตามที่ต่างๆ อยู่นะครับ ถามว่าตามร้านสะดวกซื้อได้ไปขอวางมั้ย ก็ขอครับ แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ให้วางครับ เพราะว่ามันอาจจะรกหูรกตารึป่าวผมไม่เข้าใจเหมือนกันนะครับ มันไม่ค่อยสวยงามหลายที่เลยไม่ให้วาง" 
          มันเกินตัวไปไหมกับการดูแลเด็กเยอะขนาดนั้น ? 
          "ถามว่ามันเกินตัวไหมมันเป็นความตั้งใจของผมที่อยากจะดูแลเด็ก ผมเคยเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวแตกแยก และก็เคยเป็นเด็กเร่ร่อนมาก่อน แต่มีคนให้โอกาส สังคมให้โอกาส มีโอกาสได้เรียนหนังสือจนมีวันนี้ก็อยากจะช่วยพวกเขาเราก็พยายามทำให้มากที่สุด ปัญหาของเด็กในปัจจุบันมันก็เยอะขึ้น ปัญหาสังคมเศราฐกิจเราหลีกเลี่ยงไม่ได้" 
          เด็กที่เข้ามาอายุเท่าไหร่ แล้วต้องดูแลไปถึงอายุเท่าไหร่ ? 
          "แรกรับเข้ามานี่ 3 ขวบ ถึง มูลนิธิบ้านนกขมิ้นสุรชัย สุขเขียวอ่อน ขวบ แต่เราเลี้ยงดูเขาไปจนถึงเขาอายุ มูลนิธิบ้านนกขมิ้น8-ปากโป้งสุรชัย สุขเขียวอ่อน ปี คือถ้าเขาเรียนจบแล้ว และอยากจะออกไปใช้ชีวิตตัวเองเราก็ให้ไปได้ แต่ถ้าอยากเรียนต่อเราก็ส่งเสียให้เขาจบมหาวิทยัย จบปริญญาตรีก็มีหลายคนแล้วนะครับ ออกไปทำงานก็มีหลายคนแล้ว" 
          ไม่เกินกว่าแรงครูเหรอ ? 
          "จะบอกว่าเหนื่อยมันก็เหนื่อยนะครับ แต่ก็ต้องขอบคุณที่สังคมช่วย เขาเห็นผมทำงานด้านนี้มา เขามาเยี่ยม เขาก็อยากมีส่วนช่วยในการที่จะเข้ามาบริจาคสิ่งของ หรือบริจาคเงินทุนทรัพย์ในการส่งเด็กเรียนหนังสือ" 
          ได้ยินมาว่าครูเองก็ป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง ผ่าตัดมา ปากโป้ง ครั้งแล้ว แต่ไม่ยอมพัก ? 
          "ผมเป็นเนื้องอกในสมอง และก็ผ่าตัดมา ปากโป้ง ครั้งแล้ว ถามว่าเป็นนานแค่ไหนก็ประมาณซัก 5 ปีภรรยาป่วยเป็นโรคหัวใจ ที่รอผ่านตัดเปลี่ยนหัวใจแต่ยังเปลี่ยนไม่ได้ แต่คนก็ถามว่าทำไมผมถึงยังทำ ก็เพราะว่าผมเป็นพ่อของเด็กด้วย ไม่ใช่แค่เป็นครูอย่างเดียว ภรรยาของผมเขาก็เป็นแม่คนหนึ่งในการดูแลเด็ก "
“ครูอ๊อด” เผยเป็น “โรคเนื้องอกในสมอง” เหนื่อยแค่ไหนก็ทน เร่ขายของมือสองหวังเปลี่ยนชีวิตเด็กกำพร้า “บ้านนกขมิ้น”
 
“ครูอ๊อด” เผยเป็น “โรคเนื้องอกในสมอง” เหนื่อยแค่ไหนก็ทน เร่ขายของมือสองหวังเปลี่ยนชีวิตเด็กกำพร้า “บ้านนกขมิ้น”
“ครูอ๊อด” เผยเป็น “โรคเนื้องอกในสมอง” เหนื่อยแค่ไหนก็ทน เร่ขายของมือสองหวังเปลี่ยนชีวิตเด็กกำพร้า “บ้านนกขมิ้น”
“ครูอ๊อด” เผยเป็น “โรคเนื้องอกในสมอง” เหนื่อยแค่ไหนก็ทน เร่ขายของมือสองหวังเปลี่ยนชีวิตเด็กกำพร้า “บ้านนกขมิ้น”

ข่าวสุรชัย สุขเขียวอ่อน+มูลนิธิบ้านนกขมิ้นวันนี้

เฮอร์บาไลฟ์ แบ่งปันน้ำใจ ส่งความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

บริษัท เฮอร์บาไลฟ์ ประเทศไทย ร่วมส่งมอบน้ำใจ ด้วยการบริจาคอาหาร และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นอื่นๆ ให้กับมูลนิธิบ้านนกขมิ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในสามพันธมิตรภายใต้โครงการ คาซ่า เฮอร์บาไลฟ์ ในประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย โดยมี คุณสุรชัย สุขเขียวอ่อน ผู้อำนวยการ มูลนิธิบ้านนกขมิ้น เป็นผู้รับมอบจากตัวแทนคณะ ผู้บริหารและพนักงาน ของเฮอร์บาไลฟ์ ประเทศไทย กิจกรรมครั้งนี้ สะท้อนถึงพันธกิจอันแน่วแน่ของเฮอร์บาไลฟ์ในการยื่นมือช่วยเหลือผู้

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายพิสิษฐ์ กำจรเกริกไกรวั... จัดกิจกรรมฝึกอาชีพ "ขายของออนไลน์" — เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายพิสิษฐ์ กำจรเกริกไกรวัล ผู้ประสานงานโครงการพัฒนาระบบการช่วยเหลือและส่งเสริมการเรียนรู้...

เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัท ดับบลิว ซี จี ไดมอน... WCG DIAMOND ร่วมโครงการฝึกอาชีพเด็กด้อยโอกาส — เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัท ดับบลิว ซี จี ไดมอนด์ จำกัด โดยนางศุภากรณ์ ปรีชา ประธาน ได้ส่งมาดามและคุณชายขายเพชร...

นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล (กลาง) รองประ... ภาพข่าว: ซีพี ออลล์มอบเครื่องอุปโภคบริโภค — นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล (กลาง) รองประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประ...

เมื่อเร็วๆ นี้ นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธ... ภาพข่าว: ปตท. บริจาคของขวัญที่ได้รับภายนอกให้มูลนิธินกขมิ้น ตามนโยบายงดรับของขวัญ No Gift Policy — เมื่อเร็วๆ นี้ นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่ป...

ปัญหาของเด็กเร่ร่อนในปัจจุบันยังคงมีอยู่ ... “บ้านนกขมิ้น” บ้านหลังเล็กของเด็กเร่ร่อน ใน หนองโพ…The HERO — ปัญหาของเด็กเร่ร่อนในปัจจุบันยังคงมีอยู่ และไม่มีถ้าทีว่าจะลดลง แม้จะได้ความช่วยเหลือจากหลาย...