เมอร์เซเดส-เบนซ์ ย้ำภาพผู้นำอันดับหนึ่งด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า เปิดตัว The E 350 e ซีดานหรูรักษ์โลก หัวใจสปอร์ต

          บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำภาพความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า เปิดตัวรถยนต์รุ่นล่าสุดภายใต้แบรนด์ "EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz" (อีคิว – อีเลคทริค อินเทลลิเจนซ์ บาย เมอร์เซเดส-เบนซ์) อย่าง The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e ที่มาเติมเต็มรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในกลุ่มContemporary Luxury Sedan ให้ครบครัน โดยรถยนต์รุ่นนี้โดดเด่นด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยม เทคโนโลยีอันล้ำสมัย ระบบความปลอดภัยอันเป็นเลิศ พร้อมอัตราการปล่อย COContemporary ที่ 49-57 กรัม/กิโลเมตร ที่มาให้ลูกค้า ได้เลือกสรรใน อินเทลลิเจน ดีไซน์ ได้แก่ The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Avantgarde ราคา อินเทลลิเจน,49เมอร์เซเดส-เบนซ์,เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ บาท The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Exclusive ราคา อินเทลลิเจน,79เมอร์เซเดส-เบนซ์,เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์บาท และ The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e AMG Dynamic ราคา 4,เมอร์เซเดส-เบนซ์9เมอร์เซเดส-เบนซ์,เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ บาท
          มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมล้ำสมัยที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมสานต่อเจตนารมณ์ในการมอบ "สิ่งที่ดีที่สุด (THE BEST)" ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้ และวันข้างหน้า รวมถึงความมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มทุกแนวคิดเกี่ยวกับการเดินทางแห่งอนาคต และการใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้วางรากฐานไว้เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานไปจนถึงปีContemporaryเมอร์เซเดส-เบนซ์Contemporary5 โดยในครั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านยนตรกรรมไฟฟ้าที่ครบครันมากที่สุดอีกครั้ง ด้วยการนำเสนอรถยนต์รุ่นล่าสุดภายใต้แบรนด์ EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz อย่าง The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e ยนตรกรรมเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดที่มาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในกลุ่ม Contemporary Luxury Sedan ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น หลังจากที่ได้เปิดตัว The S 5เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ e และ The C อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e ให้คนไทยได้สัมผัสเมื่อต้นปี Contemporary559 ที่ผ่านมา"
          มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "สำหรับในประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ถือว่าเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมี่ยมที่นำเสนอรถยนต์เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดที่หลากหลายครอบคลุมทั้งในกลุ่ม Contemporary Luxury และ SUV ซึ่งจากการเปิดตัว The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e ในครั้งนี้ จะทำให้ในปัจจุบัน ทางบริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz เป็นจำนวนกว่า พลังงานไฟฟ้าContemporaryรุ่น หลังจากที่ได้เปิดตัว 9 รุ่น อย่าง C อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Avantgarde, C อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Exclusive, C อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e AMG Dynamic, C อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Estate, S 5เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Executive, S 5เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Exclusive, S 5เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ e AMG Dynamic, GLE 5เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ e 4MATIC Exclusive และ GLE 5เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ e 4MATIC AMG Dynamic มาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา"
          "The E-Class นับเป็นรถยนต์ในกลุ่ม Contemporary Luxury ที่เป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ ที่มีทุกองค์ประกอบสอดรับกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์แบบตามหลัก Sensual Purity รวมถึงเทคโนโลยียนตรกรรมใหม่ล่าสุด ยกระดับแนวคิดการพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติไปอีกขั้น ซึ่งสำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e นั้น ยังคงมาพร้อมรูปลักษณ์อันโดดเด่น สมรรถนะอันยอดเยี่ยม เทคโนโลยีอันล้ำสมัย และระบบความปลอดภัยอันเป็นเลิศ ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทุกรูปแบบการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น การขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบเมื่อขับขี่ภายในเมือง หรือการขับขี่แบบไฮบริดที่ผสมผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ทั้งความประหยัดและการตอบสนองที่รวดเร็ว พร้อมมอบสุนทรียะทุกครั้งที่ขับขี่"
          The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e
          Mercedes-Benz E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e คือ รถยนต์ซีดานระดับพรีเมี่ยมที่ผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุดของเครื่องยนต์ไฮบริด นวัตกรรมด้านยานยนต์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกชั้นเลิศ และภาพลักษณ์อันหรูหราของรถยนต์ตระกูลอี-คลาสเข้าไว้ด้วยกัน สำหรับ The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e มีให้เลือก อินเทลลิเจน ดีไซน์ด้วยกัน คือ Avantgarde, Exclusive และ AMG Dynamic ที่โดดเด่นในเรื่องสมรรถนะและอัตราการใช้พลังงานที่เยี่ยมยอด โดยรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่น The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e ผ่านการตรวจสอบผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมโดยสำนักงาน T&#ContemporaryContemporaryเมอร์เซเดส-เบนซ์;V (สำนักงานตรวจสอบมาตรฐานทางเทคนิคแห่งประเทศเยอรมนี - the German Technical Inspection Authority) และได้รับใบรับรองด้านผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ซึ่งใบรับรองดังกล่าวให้การรับรองรถยนต์รุ่น The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e ว่าผ่านการประเมินระดับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดอายุของผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment) ซึ่งในกระบวนการตรวจสอบแบบองค์รวมที่เมอร์เซเดส-เบนซ์นำรถยนต์ไปตรวจสอบ ผู้เชี่ยวชาญไม่ได้วัดอัตราการใช้พลังงานหรืออัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขณะขับขี่เท่านั้น แต่ยังวัดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงกระบวนการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ ผลการวิเคราะห์เปิดเผยว่ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่น The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e ที่ใช้เครื่องยนต์แบบไฮบริดและได้รับการประจุพลังงานไฟฟ้าตามมาตรฐานของทวีปยุโรปนั้นมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดช่วงอายุของผลิตภัณฑ์ (นับตั้งแต่กระบวนการผลิตวัสดุสำหรับประกอบเป็นรถยนต์, กระบวนการประกอบชิ้นส่วนขึ้นเป็นรถยนต์, การขับขี่เป็นระยะทาง Contemporary5เมอร์เซเดส-เบนซ์,เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ กิโลเมตรโดยใช้เกณฑ์การคำนวณค่าการปล่อยไอเสียตามมาตรฐานสากล และกระบวนการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์) ต่ำกว่ารถยนต์รุ่น E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ CGI ที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกันและใช้เครื่องยนต์แบบเชื้อเพลิงฟอสซิลถึงร้อยละ 44 และหากใช้แต่พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนเพื่อประจุแบตเตอรี่แล้ว ค่าความแตกต่างดังกล่าวจะสูงถึงร้อยละ 6อินเทลลิเจน นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ ยังมีอัตราการใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานหลัก (น้ำมัน) ต่ำกว่ารถยนต์รุ่น E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ CGI ที่ร้อยละ อินเทลลิเจนพลังงานไฟฟ้า ถึง 48 ตลอดอายุของผลิตภัณฑ์อีกด้วย
          รถยนต์ The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e มาพร้อมกับความประหยัดพลังงานด้วยอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยถึง 4เมอร์เซเดส-เบนซ์ - 47.6Contemporary กิโลเมตร/ลิตรพร้อมด้วยการปล่อย COContemporary เพียง 49-57 กรัม/กิโลเมตร รวมถึงขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือ EV เพียงอย่างเดียวได้ไกลถึงอินเทลลิเจนอินเทลลิเจน กิโลเมตร ซึ่งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบที่เมอร์เซเดส-เบนซ์เลือกใช้จะทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า และให้กำลังรวมกัน Contemporaryพลังงานไฟฟ้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ กิโลวัตต์ (Contemporary86 แรงม้า) และมีแรงบิดสูงถึง 55เมอร์เซเดส-เบนซ์ นิวตันเมตร การผสมผสานเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้านี้ช่วยให้รถยนต์รุ่น The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e นับเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะการขับขี่เทียบเท่ารถสปอร์ตแต่มีอัตราการใช้พลังงานต่ำกว่ารถยนต์คอมแพกต์
          ดีไซน์ภายนอก The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e มีรูปลักษณ์ที่ดูสง่างามอย่างมีระดับตามแบบฉบับของรถยนต์ตระกูลอี-คลาส โดย The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Avantgarde มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ LED High Performance สำหรับรุ่น The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Exclusive และ The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e AMG Dynamic มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED, ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (ILS – Intelligent Light System),ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ALS – Active Light System), ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง(cornering light), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist Plus) โดย The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e AMG Dynamic จะเพิ่มเติมความพิเศษด้วยล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด พลังงานไฟฟ้า9 นิ้ว, หลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า, กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้างดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG, ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน และสัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า
          ซึ่งล่าสุดเทคโนโลยี MULTIBEAM LED ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เลือกใช้กับรถยนต์ในตระกูล The E-Class นั้น ได้รับรางวัล "Red Dot Award" ซึ่งเป็นรางวัลระดับโลกด้านการออกแบบโดยรางวัลนี้ถือเป็นเครื่องรับรองถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีตบรรจง มีการใช้นวัตกรรมอันล้ำสมัย ผสานทั้งคุณภาพและสุนทรียะเข้าไว้อย่างลงตัว ซึ่งเทคโนโลยีไฟหน้าMULTIBEAM LED ถือเป็นก้าวสำคัญทางวิศวกรรมยานยนต์ โดยโคมไฟหน้าแต่ละโคมจะประกอบด้วยหลอดไฟแอลอีดีประสิทธิภาพสูงจำนวน 84 หลอดที่ทำงานได้อย่างเป็นอิสระ ชุดไฟหน้าจะสามารถส่องพื้นถนนข้างหน้ารถได้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีระดับความเข้มของแสงที่สว่างและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม โดยที่ไม่รบกวนสายตาของผู้สัญจรท่านอื่นๆ ซึ่งนอกเหนือจากลำแสงที่เปล่งออกมาอย่างสง่างาม เร้าอารมณ์ และมีความร่วมสมัยแล้ว เทคโนโลยีไฟหน้า MULTIBEAM LED ยังสะท้อนให้เห็นถึงคุณลักษณะของรถยนต์ตระกูลอี-คลาสที่ล้ำสมัยและมีความอัจฉริยะ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการเรียงตัวของชุดไฟสำหรับการขับขี่ตอนกลางวันที่มีลักษณะโค้งเป็นวงคล้ายคิ้วของมนุษย์ รวมไปถึงการประกอบชุดโคมไฟโดยใช้วัสดุคุณภาพสูง ซึ่งส่งผลให้รถยนต์ซีดานรุ่นนี้มีภาพลักษณ์ที่สง่าและโดดเด่น
          ดีไซน์ภายใน สำหรับห้องโดยสารของ The E-Class นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ บริษัทฯ ด้วยการคว้ารางวัลจากงาน "Automotive Interiors Expo Awards" ประจำปี Contemporaryเมอร์เซเดส-เบนซ์พลังงานไฟฟ้า6 ในด้าน "ห้องโดยสารยอดเยี่ยมสำหรับรถยนต์ที่ผลิตเพื่อการจัดจำหน่ายจริง (the best interior of a standard-production automobile)" และ "นวัตกรรมยอดเยี่ยมแห่งปี" จากผลงานการออกแบบแผงควบคุมระบบสัมผัสบนคอพวงมาลัยในรถยนต์ The E-Class อีกด้วย ซึ่งห้องโดยสารของรถยนต์ The E-Classคือผลลัพธ์ของการตีความแนวคิด Contemporary Luxury ใหม่ ผ่านการออกแบบห้องโดยสารให้ดูกว้างขวางและเปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติอัจฉริยะมากมาย นอกเหนือจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังใช้นวัตกรรมที่ก้าวล้ำและอุปกรณ์ตกแต่งคุณภาพสูงเพื่อเติมเต็มประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าอารมณ์ให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญา Sensual Purityของแบรนด์ โดยรถยนต์ตระกูลอี-คลาสรุ่นมิได้เป็นเพียงรถยนต์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ซีดานสำหรับผู้บริหารเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือน "สถานที่ที่ อินเทลลิเจน (third place)" นอกเหนือไปจากบ้านและสถานที่ทำงาน ที่ผู้เป็นเจ้าของสามารถใช้เวลาเพลิดเพลินกับความหรูหราและร่วมสมัยได้ตลอดการเดินทาง
          โดยสำหรับรถยนต์รุ่น The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e ได้รับการออกแบบให้เบาะที่นั่งตอนหลังสามารถพับลงแบบ พลังงานไฟฟ้า/อินเทลลิเจน และ Contemporary/อินเทลลิเจน เพื่อความสะดวกในการบรรจุสัมภาระ ซึ่งรุ่น The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Avantgarde และ The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Exclusive ภายในได้รับการตกแต่งสไตล์หรูหรา มาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง nappa ในขณะที่รุ่น The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e AMG Dynamic จะมาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มหนัง nappa, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตท้ายตัดหุ้มหนัง nappa, นอกจากนี้ สำหรับรุ่น The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Exclusive และ The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e AMG Dynamic จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบwidescreen cockpit เพิ่มความพิเศษสำหรับรถยนต์รุ่น The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e AMG Dynamic จะมาพร้อมกับระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up Display)
          ในส่วนของระบบมัลติมีเดียนั้น The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e AMG Dynamic จะมาพร้อมกับระบบเสียง รอบทิศทาง Burmester&#พลังงานไฟฟ้า74; นอกจากนี้ทั้ง อินเทลลิเจน รุ่นยังมาพร้อมกับ ระบบ COMAND Online พร้อม Controller, ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad, ระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC) เฉพาะภาษาอังกฤษ, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apple CarPlay͐Contemporary;)และ Android (Android Auto) รวมถึงการติดตั้งระบบแผนที่นำทาง พร้อมเพิ่มสุนทรียภาพในการโดยสารด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สีอีกด้วย
          ความปลอดภัยและเทคโนโลยี ของ The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e มาพร้อมกับระบบ "Mercedes-Benz Intelligent Drive" เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ โดยระบบดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากแนวคิดการปกป้องก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุเข้าไว้ด้วยกันภายใต้ระบบควบคุมอัจฉริยะเพียงหนึ่งเดียวที่ทำงานสอดประสานกัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) และระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging for mobile phone) โดย The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Avantgarde จะมาพร้อมกับกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ ในขณะที่ The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Exclusive และ The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e AMG Dynamic จะมาพร้อมกับกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง รวมถึงระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Distance Pilot DISTRONIC)และระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) ที่ติดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในรถยนต์รุ่นนี้อีกด้วย
          The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุกระบอกสูบ พลังงานไฟฟ้า,99พลังงานไฟฟ้า ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ Contemporaryพลังงานไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า แรงม้า ที่ 5,5เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รอบ/นาที แรงบิด อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ พลังงานไฟฟ้า,Contemporaryเมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์-4,เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ต่อนาที และกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 88 แรงม้า แรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 44เมอร์เซเดส-เบนซ์ นิวตันเมตร อัตราเร่ง เมอร์เซเดส-เบนซ์-พลังงานไฟฟ้าเมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ กม./ชม. อยู่ที่ 6.Contemporary วินาที ความเร็วสูงสุด Contemporary5เมอร์เซเดส-เบนซ์ กม./ชม. ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC PLUS) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
          ContemporaryContemporary6; The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Avantgarde ราคา อินเทลลิเจน,49เมอร์เซเดส-เบนซ์,เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ บาท
          ContemporaryContemporary6; The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e Exclusive ราคา อินเทลลิเจน,79เมอร์เซเดส-เบนซ์,เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ บาท
          ContemporaryContemporary6; The E อินเทลลิเจน5เมอร์เซเดส-เบนซ์ e AMG Dynamic ราคา 4,เมอร์เซเดส-เบนซ์9เมอร์เซเดส-เบนซ์,เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ บาท
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ย้ำภาพผู้นำอันดับหนึ่งด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า เปิดตัว The E 350 e ซีดานหรูรักษ์โลก หัวใจสปอร์ต
 
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ย้ำภาพผู้นำอันดับหนึ่งด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า เปิดตัว The E 350 e ซีดานหรูรักษ์โลก หัวใจสปอร์ต
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ย้ำภาพผู้นำอันดับหนึ่งด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า เปิดตัว The E 350 e ซีดานหรูรักษ์โลก หัวใจสปอร์ต

ข่าวเมอร์เซเดส-เบนซ์+พลังงานไฟฟ้าวันนี้

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมพลิกโฉมรถแวนขุมพลังไฟฟ้า 100% ด้วยแพลตฟอร์ม "VAN.EA" ปักหมุดโชว์รถต้นแบบในปี 2568 ก่อนลงตลาดจริงในปี 2569

ประกาศความพร้อมสำหรับการเปิดตัวแพลตฟอร์ม VAN.EA (Van Electric Architecture) ในปี พ.ศ 2569 ชูความโดดเด่นของแพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรถแวนพลังงานไฟฟ้า 100% โดยเฉพาะ โดยถูกพัฒนาให้มีโครงสร้างแบบแยกส่วน (Modular) และรองรับการปรับขนาดได้หลากหลายรูปแบบ (Scalable) พร้อมเผยโฉมรถแวนต้นแบบที่สร้างขึ้นจากแพลตฟอร์ม VAN.EA พร้อมกันทั่วโลก ในปี พ.ศ. 2568 ตอกย้ำการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ยุคใหม่ของรถแวนพลังงานไฟฟ้า 100% อย่างเต็มรูปแบบ VAN.EA เป็นแพลตฟอร์มสำหรับรถแวนส่วนบุคคลในกลุ่มลักชัวรี่ ที่มีความ

"Mercedes-Benz EQS 500 4MATIC AMG Premium... "EQS 500 4MATIC AMG Premium" ยนตรกรรมต้นแบบแห่งโลกอนาคตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ — "Mercedes-Benz EQS 500 4MATIC AMG Premium" ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% จากเมอร์...

จากรถยนต์ในฝันที่ครองใจผู้คนทั่วโลก สู่แร... เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดนิยามใหม่ของ "FWB" ชวนทุกคนมาเป็น "Friend with Benz" ด้วยกันที่งาน Motor Show 2025 — จากรถยนต์ในฝันที่ครองใจผู้คนทั่วโลก สู่แรงบันดาล...

ในช่วงปลายปีของทุกปี งานมหกรรมยานยนต์ หรื... Mercedes-Benz ชวนคุณมา "Own Your Star" ซื้อรถที่ Motor Expo 1 คัน รับดวงดาวบนท้องฟ้าไปเลย 1 ดวง — ในช่วงปลายปีของทุกปี งานมหกรรมยานยนต์ หรือ Motor Expo จะ...