กสร. ร่วมมือการรถไฟ เดินหน้าแก้ปัญหาอุบัติเหตุขนส่งระบบราง

          กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เผย การรถไฟให้คำมั่นพร้อมพัฒนางานความปลอดภัย เตรียมจัดทำแผนตรวจความปลอดภัยในการทำงานในงานก่อสร้างทางรถไฟ ทางยกระดับร่วมกัน เล็งเพิ่มบทบาท อำนาจ หน้าที่จป. หวังเพิ่มประสิทธิภาพ เน้นทำงานร่วมกันกับหน่วยงานภาคี
          นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยผลการประชุมหารือร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ผู้รับเหมา ผู้บริหารโครงการ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (สสปท.) เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการ แนวทางในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานในงานก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดปริมณฑลและจังหวัดต่อเนื่องเมื่อวันที่ สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย4 พฤษภาคม สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย56กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ว่า รฟท. รฟม. ให้คำมั่นว่าพร้อมที่จะกำกับดูแลการก่อสร้าง ปรับปรุงมาตรฐานด้านความปลอดภัย และกำชับผู้ดูแลโครงการ ผู้รับเหมาให้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำงานเป็นลำดับแรก และจะประสานแผนในการตรวจเพื่อจัดชุดเฉพาะกิจเข้าร่วมตรวจด้วย โดยมุ่งเน้นสถานที่ที่กำลังก่อสร้างและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และหากพบว่ามาตรการดังกล่าวยังแก้ปัญหาไม่ได้เท่าที่ควรก็จะจัดตั้งคณะทำงานโดยมีบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในการทำงานมาบริหารจัดการด้านความปลอดภัย เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา รวมถึงเข้มงวดต่อการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมอุบัติเหตุในงานก่อสร้างของรัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ สถาบันส่งเสริมความปลอดภัยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มิถุนายน สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย54การรถไฟแห่งประเทศไทย อย่างเคร่งครัด โดย กสร. ได้เชิญหน่วยงานของรัฐที่มีการจ้างและดูแลงานก่อสร้าง เช่น การสร้างถนน สาธารณูปโภคต่าง ๆ รวมถึงการสร้างอาคาร มาประชุมร่วมกันในเดือนมิถุนายน สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย56กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อรับฟังปัญหา ข้อคิดเห็นในการดำเนินงานเพื่อนำไปเป็นแนวทางปรับปรุงและทบทวนมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว
          อธิบดีกสร. กล่าวต่อไปว่า นอกจากมาตรการต่าง ๆ ข้างต้นแล้ว กสร. ได้วางแผนพิจารณาเพิ่มเติมบทบาท อำนาจ หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) เพื่อให้สามารถควบคุมและดูแลงานความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และให้มีการพิจารณาประสบการณ์ คุณวุฒิของผู้คุมงานก่อสร้างให้เหมาะสมกับงานแต่ละโครงการ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน การเกิดอุบัติเหตุจากการก่อสร้าง รวมไปถึงความปลอดภัยของนายจ้าง ลูกจ้าง และประชาชนทั่วไปอีกด้วย