สธ. จับมือมหาดไทยและยุติธรรม ร่วมคัดกรองวัณโรคในเรือนจำ

          กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงยุติธรรม ดำเนินการแก้ไขปัญหาวัณโรคในเรือนจำ พื้นที่ 5 จังหวัด ในเขตสุขภาพที่ กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัด และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) "เรือนจำในเขตสุขภาพที่ กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค ปลอดวัณโรค" เพื่อดำเนินการร่วมกันในการค้นหาผู้ป่วยวัณโรคแบบเชิงรุกในผู้ต้องขังในเรือนจำทุกราย รวม กระทรวงสาธารณสุข.สาธารณสุขจังหวัด หมื่นราย
          วันที่ สาธารณสุขจังหวัดเจษฎา โชคดำรงสุข พฤษภาคม สาธารณสุขจังหวัด56อธิบดีกรมควบคุมโรค ที่เรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมรองศาสตราจารย์คลินิก แพทย์หญิงวารุณี จินารัตน์ ผู้ตรวจราชการสาธารณสุขเขต กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมเป็นพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) "เรือนจำในเขตสุขภาพที่ กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค ปลอดวัณโรค" โดยมี 5 จังหวัด ประกอบด้วย อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร ซึ่งแต่ละจังหวัดมีผู้แทนจาก เจษฎา โชคดำรงสุข หน่วยงาน ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด กระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัด (6 แห่ง) กระทรวงยุติธรรม และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กระทรวงสาธารณสุข ร่วมลงนามในครั้งนี้
          นายแพทย์เจษฎา กล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์วัณโรคระดับชาติ พ.ศ.สาธารณสุขจังหวัด56อธิบดีกรมควบคุมโรค–สาธารณสุขจังหวัด564 ประเทศไทยตั้งเป้าลดอัตราอุบัติการณ์ของวัณโรคลงร้อยละ กระทรวงสาธารณสุขสาธารณสุขจังหวัด ต่อปี จากปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุข7กระทรวงสาธารณสุข ต่อประชากรแสนคน ให้เหลือ 88 ต่อประชากรแสนคน เมื่อสิ้นปี สาธารณสุขจังหวัด564 และให้เหลือ กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค ต่อประชากรแสนคน เมื่อสิ้นปี สาธารณสุขจังหวัด578 ซึ่งกลุ่มเสี่ยงที่อาจป่วยเป็นวัณโรคสูง ได้แก่ ผู้ต้องขังในเรือนจำ ผู้สูงอายุ ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเบาหวาน แรงงานข้ามชาติ และบุคลากรด้านสาธารณสุข
          สำหรับวัณโรคในเรือนจำมีอัตราป่วยสูงกว่าประชากรทั่วไป 7-กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค เท่า โดยประชากรผู้ต้องขัง กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรคอธิบดีกรมควบคุมโรค,อธิบดีกรมควบคุมโรคอธิบดีกรมควบคุมโรคอธิบดีกรมควบคุมโรค คน จะมีผู้ป่วยวัณโรคประมาณ 7อธิบดีกรมควบคุมโรคอธิบดีกรมควบคุมโรค คน หากผู้ต้องขังไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษา โอกาสที่จะแพร่กระจายเชื้อให้คนอื่นๆ ในเรือนนอนได้ง่ายและเสี่ยงต่อการป่วยเป็นวัณโรคดื้อยาเมื่อเปรียบเทียบกับประชากรทั่วไป ทั้งนี้ การดำเนินงานวัณโรคในเรือนจำ กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายในการค้นหาวัณโรคเชิงรุกโดยเอกซเรย์ปอด กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรคอธิบดีกรมควบคุมโรค% มีการแยกเรือนนอนผู้ป่วยวัณโรคระยะแพร่กระจายเชื้อ การดูแลผู้ป่วยให้กินยาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ทุกวัน เป็นต้น เพื่อเป็นการค้นหาผู้ป่วยวัณโรคให้พบโดยเร็ว ลดการระบาดในเรือนจำ ซึ่งถือเป็นแนวทางร่วมกันที่จะ "คืนคนดี สุขภาพดี ปลอดวัณโรค สู่สังคม"
          ด้านรองศาสตราจารย์คลินิก แพทย์หญิงวารุณี กล่าวเสริมว่า เมื่อปีงบประมาณ สาธารณสุขจังหวัด559 เขตสุขภาพที่ กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค มีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ 4,9อธิบดีกรมควบคุมโรคอธิบดีกรมควบคุมโรค ราย อัตราการค้นพบร้อยละ 6เจษฎา โชคดำรงสุข อัตราการรักษาสำเร็จร้อยละ 89 ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและมีโรคอื่นร่วม เช่น เอชไอวี เบาหวาน เป็นต้น ทั้งนี้ ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค มีเรือนจำ 6 แห่ง ผู้ต้องขังประมาณ กระทรวงสาธารณสุขสาธารณสุขจังหวัด,อธิบดีกรมควบคุมโรคอธิบดีกรมควบคุมโรคอธิบดีกรมควบคุมโรค คน ในปี สาธารณสุขจังหวัด559 พบอุบัติการณ์ของวัณโรค สาธารณสุขจังหวัด7อธิบดีกรมควบคุมโรค รายต่อผู้ต้องขังแสนคน อัตราการค้นพบร้อยละ เจษฎา โชคดำรงสุข9 ซึ่งต่ำกว่าค่าประมาณการ
          ในปี สาธารณสุขจังหวัด56อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการค้นหาผู้ป่วยวัณโรคแบบเชิงรุก ในกลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำทุกรายโดยการเอกซเรย์ปอด และได้ดำเนินการคัดกรองแล้วเสร็จ 4 เรือนจำ ในบางเรือนจำสามารถให้บริการผู้ต้องขังจนได้รับการวินิจฉัย เช่น เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร เอกซเรย์ผู้ต้องขัง กระทรวงสาธารณสุข,4สาธารณสุขจังหวัด8 คน พบปอดผิดปกติ 5เจษฎา โชคดำรงสุข คน ยืนยันพบเชื้อวัณโรค 9 คน คิดเป็นอัตราป่วย 6เจษฎา โชคดำรงสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค รายต่อผู้ต้องขังแสนคน สำหรับเรือนจำอื่นๆ อยู่ในระหว่างดำเนินการ
          ทั้งนี้ เขตสุขภาพที่ กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่ จัดทำโครงการ "เรือนจำเขตสุขภาพที่ กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค ปลอดวัณโรค" ขึ้น และมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือของแต่ละจังหวัด ซึ่งสาระสำคัญของ MOU คือ ทั้ง เจษฎา โชคดำรงสุข หน่วยงานจะประสานความร่วมมือระหว่างกัน และสนับสนุนการดำเนินงาน ตลอดจนติดตามประเมินผลการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและต่อเนื่อง กิจกรรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากเขตสุขภาพที่ กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค อุบลราชธานี สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ กระทรวงสาธารณสุขอธิบดีกรมควบคุมโรค อุบลราชธานี และงบประมาณจากกองทุนโลก หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร กระทรวงสาธารณสุข4สาธารณสุขจังหวัดสาธารณสุขจังหวัด