นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ภาคพื้นดินอย่างครบวงจร เปิดเผยว่า ได้วางกลยุทธ์ลดต้นทุนด้านพลังงานเพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากการดำเนินงานสูงขึ้นจากปีก่อน โดยเฉพาะธุรกิจคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นและแช่แข็ง (คลังสินค้าห้องเย็น) ทั้ง 3 แห่ง ที่มหาชัย ถนนสุวินทวงศ์และถนนบางนา-ตราด กม.19 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าค่อนข้างสูงและถือเป็นต้นทุนหลักที่มีสัดส่วนประมาณ 30% ของค่าดำเนินงานรวมทั้งหมด
บริษัทฯ จึงทยอยติดตั้งแผงโซลาร์ รูฟท็อปบนหลังคาอาคารคลังสินค้าห้องเย็นแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย 2 แห่ง ได้แก่ คลังสินค้าห้องเย็นที่มหาชัยและคลังสินค้าห้องเย็นบนถนนสุวินทวงศ์ ใช้งบลงทุนรวมทั้งหมดกว่า 50 ล้านบาท โดยคลังสินค้าห้องเย็นที่มหาชัยเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าได้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนที่ถนนสุวินทวงศ์เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และประเมินว่าจะสามารถลดค่าไฟฟ้าของคลังสินค้าห้องเย็นทั้ง 2 แห่งได้ประมาณปีละกว่า 8 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 12%ของประมาณการค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าของคลังสินค้าห้องเย็นทั้ง 3 แห่งในปีนี้
"เรามองว่าการติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อปเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะถ้าประเมินจากค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้ประมาณกว่า 8 ล้านบาทต่อปี ก็จะใช้ระยะเวลาคืนทุน 6-7 ปี ขณะที่แผงโซลาร์จะมีอายุใช้งานโดยเฉลี่ยประมาณ 25 ปี และมีความเหมาะสมกับประเทศไทยที่มีสภาพอากาศร้อนเกือบตลอดทั้งปี จึงส่งผลดีต่อความสามารถในการผลิตพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นายชวนินทร์ กล่าว
ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวว่า หลังจากเริ่มผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ รูฟท็อปได้แล้ว บริษัทฯ เตรียมงบลงทุนอีกส่วนหนึ่งจำนวนกว่า 30 ล้านบาท เพื่อขยายการติดตั้งในเฟส 2 ที่คลังสินค้าห้องเย็นมหาชัยและบนถนนสุวินทวงศ์อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะทยอยติดตั้งแล้วเสร็จและเริ่มผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ภายในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลดต้นทุนพลังงานไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ที่คลังสินค้าห้องเย็นบนถนนบางนา-ตราด กม.19 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะประเมินอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าและอัตราการใช้พื้นที่รับฝากสินค้าก่อนตัดสินใจลงทุนอีกครั้ง
ทั้งนี้ จากการวางกลยุทธ์ลดต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้าดังกล่าว ประกอบกับการฟื้นตัวของความต้องการใช้พื้นที่รับฝากสินค้าอาหารทะเลของห้องเย็นที่มหาชัยเร็วกว่าที่คาดไว้ และการขยายตลาดเจาะกลุ่มผู้ประกอบการสัตว์ปีกเข้ามาเช่าพื้นที่รับฝากสินค้าเพิ่มขึ้น จึงคาดว่าจะส่งผลดีต่อความสามารถการทำกำไรขั้นต้นของธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นทั้ง 3 แห่งในปีนี้ ที่ตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 42%จากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 37% รวมถึงส่งผลดีต่อภาพรวมอัตรากำไรขั้นต้นของ JWD
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit