ทั้งนี้ ผลประกอบการในปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้นกว่า 11,143 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายรายได้รวมเดิมที่เคยตั้งไว้ที่ 10,000 ล้านบาท และสามารถทำกำไรจำนวน 1,037 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการทำกำไรอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่3 เป็นผลมาจากรายได้จากการเปิดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ได้แก่ บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมทั่วกรุงเทพฯ ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก และอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ได้แก่ อาคารสำนักงาน เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ และโรงแรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยผลมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลต่อหุ้น 0.23 บาท หรือคิดเป็น 51% ของกำไรสุทธิ ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 534,455,600 ล้านบาทสูงกว่าการจ่ายเงินปันผลของปี 2558 ถึง 130% ซึ่งจ่ายเงินปันผลต่อหุ้น0.10 บาท หรือคิดเป็น 31% ของกำไรสุทธิ ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 198,083,620 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับผลการดำเนินงานของบริษัทที่เติบโตดีขึ้น
ธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ เปิดเผยว่า "บริษัทฯ ขอขอบคุณทางผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจมีมติอนุมัติผลการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2559 โดยได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงที่สุดตั้งแต่มีการก่อตั้งบริษัทฯ คิดเป็นมูลค่า 0.23 บาทต่อหุ้น ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอันแสดงถึงศักยภาพทางการเงินอันแข็งแกร่งที่พร้อมเติบโตของบริษัทในฐานะบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ตามพันธกิจการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 5 อันดับแรกของประเทศไทยในแง่ของรายได้รวมภายในปี 2563"
สำหรับปี 2560 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าให้เป็นปีแห่ง "การควบรวมแต้มต่อทางธุรกิจ (Consolidating Advantage)" จากความมั่นใจในความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ด้วยฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น เนื่องจากได้รับเงินเพิ่มทุนจาก บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด (FPHT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เฟรเซอร์ส เซ็นเตอร์พอยท์ จำกัด จึงมีความมั่นใจกำหนดเป้าหมายรายได้ของปี 2560 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวม 13,000 ล้านบาท แบ่งเป็น1. รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 11,300 ล้านบาท โดยมีเป้ายอดขายที่ 18,000 ล้านบาท ผ่านโครงการที่เปิดขายรวม 50 โครงการแบ่งออกเป็น โครงการที่เปิดขายเดิมจำนวน 29 โครงการ และมีแผนงานเปิดโครงการในปี 2560อีก 21 โครงการมูลค่า 21,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ทาวน์โฮม 17 โครงการ บ้านแฝด 3 โครงการ และบ้านเดี่ยว 1โครงการ 2. รายได้จากการ ให้เช่า และบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ 1,700 ล้านบาท ซึ่งตั้งเป้ายอดการเช่าพื้นที่ของอาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ หัวมุมถนนรัชดา-พระราม 4 อาคารสำนักงาน และโรงแรมมูลค่า 5,000ล้านบาท ไว้ที่ 100% จากปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ที่ 85% นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีรายได้ค่าบริหารจัดการอาคารสาทรสแควร์ และอาคารปาร์คเวนเชอร์ ซึ่งบริษัทฯ เข้าไปเป็นผู้บริหารทรัพย์สินให้กับ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (Golden Ventures REIT) นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ ได้แก่ โครงการสามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งปัจจุบันได้ก่อสร้างถึงระดับฐานรากแล้ว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit