โรงพยาบาลปิยะเวท นำร่องพัฒนาบริการโรงพยาบาล 4.0

โรงพยาบาลปิยะเวทเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำระดับอินเตอร์เนชั่นแนลที่ได้ก่อตั้งมาเป็นเวลากว่า 24 ปี เริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี 2536 โดยมุ่งเน้นการให้บริการภายใต้แนวคิดศูนย์รวมแห่งความเป็นเลิศและเมื่อปี 2559 ทางกลุ่มกระทิงแดงได้ขายหุ้นให้กับโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก ซึ่งบริหารงานโดย รศ.พิทยา และพญ.เจรียง จันทรกลม โดยได้รวมเป็นกลุ่มโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก ทั้งนี้ปัจจุบันธุรกิจในเครือ มีโรงพยาบาล 5 สาขาใหญ่ ประกอบด้วย โรงพยาบาลบางประกอก 1 อยู่ที่สุขสวัสดิ์ เป็นที่แรก, บางประกอก 3 อยู่พระประแดง, บางประกอก 8 อยู่ถนนกาญจนาภิเษก และ บางประกอก 9 ถนนพระราม 2 รวมถึงโรงพยาบาลปิยะเวท ถนนพระราม 9 แต่ที่ใหญ่คือ บางประกอก 9 และ โรงพยาบาล ปิยะเวท

นายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลปิยะเวท เปิดเผยว่า การแข่งขันของกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูงมาก โดยเฉพาะการแข่งขันในด้านนวัตกรรมทางการแพทย์และการชูจุดเด่นการเป็นศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง รวมทั้งนโยบายจากการที่รัฐบาลสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านการแพทย์ ส่งผลให้มีชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งจากกลุ่มลูกค้าในแถบทวีปเอเชีย โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน และประเทศในแถบตะวันตก เนื่องจากประเทศไทยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ รวมถึงอัตราค่าบริการของโรงพยาบาลในประเทศไทยถูกกว่าเมื่อเทียบกับการคิดอัตราค่าบริการในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้นเพื่อเป็นการรองรับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น รวมถึงรองรับการเติบโตของลูกค้าต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย แผนการรุกตลาดของโรงพยาบาลปิยะเวท จะมุ่งเน้นความเป็นผู้นำมืออาชีพด้านทางการแพทย์ครบวงจร โดยเน้นจุดเด่นของการเป็นศูนย์การแพทย์เฉพาะทางใน 3 ด้านซึ่งเป็นศุนย์นำร่อง ประกอบด้วย ศูนย์เวชศาสตร์เจริญพันธุ์ ศุนย์ทารกแรกเกิดและปริกำเนิด ศูนย์บริการผุ้ปวยต่างชาติ เป็นต้น "หลังจากที่ทางโรงพยาบาลในเครือบางประกอก 9 เข้ามาซื้อกิจการและบริหารแบบเบ็ดเสร็จในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารงาน เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้โรงพยาบาลปิยะเวทเป็นโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ ในการให้บริการทางการแพทย์แบบองค์รวม ด้วยคุณภาพระดับสากล ภายใต้พันธกิจของการให้บริการทางการแพทย์ที่เป็นเลิศอย่างเป็นองค์รวม สร้างประสบการณ์การดูแลที่ดีที่สุดแก่ผู้รับบริการ เพิ่มศักยภาพบุคลากรของโรงพยาบาลให้สอดคล้องกับบริการ มุ่งเน้นการสร้างสรรค์สังคมที่มีสุขภาพแข็งแรง เพื่อให้เป็นสังคมที่มีสุขภาพดี โดยในปีที่ผ่านมาเรามุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลรับรองมาตรฐานคุณภาพ The Joint Commission International หรือ JCI เพื่อรองรับการแข่งขัน และเพื่อเป็นมาตรฐานในด้านการให้บริการไม่เพียงแต่ลูกค้าในประเทศเท่านั้น แต่เป็นการสร้างมาตรฐานในการทำตลาดกับลูกค้าต่างประเทศด้วย"นอกจากนี้ ที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลปิยะเวทยังปรับปรุงเรื่องโครงสร้างของอาคาร ให้มีความทันสมัยทั้งภายในและภายนอก รวมถึงการพัฒนาบุคลากร เช่น เสริมบุคลากร เสริมพยาบาล แพทย์ เพื่อยกระดับการบริการของเราสู่มาตรฐานสากล รวมทั้งมีการลงทุนเพื่อนำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์ใหม่ๆ ที่มีนวัตกรรมและมีความทันสมัย เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการ ทั้งจากในและต่างประเทศ

นายแพทย์วิทิต กล่าวต่อไปว่า สำหรับการขยายตลาดต่างประเทศนั้น ทางโรงพยาบาลมีแผนเชิงรุกอย่างต่อเนื่องเพราะกลุ่มลูกค้าต่างชาติมีอัตราการเติบโตสูงมาก ซึ่งสอดคล้องกับศูนย์วิจัยกสิกรไทยในปี 2560 ที่มีการประเมินว่าภาพรวมรายได้ของโรงพยาบาลเอกชนที่จับตลาดคนไข้ต่างชาติเป็นหลักจะขยายตัวประมาณ 10-12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่ารายได้ของโรงพยาบาลเอกชนที่เน้นจับตลาดคนไทยที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 7-9% เท่านั้น รวมถึงในอนาคตการขับเคลื่อนรายได้ของโรงพยาบาลเอกชนจะมาจากลูกค้าต่างชาติเป็นหลัก โดยเฉพาะตลาด Medical Tourism ปัจจุบันสัดส่วนคนไข้ของโรงพยาบาลปิยะเวท มีสัดส่วนคนไข้คนไทย 50% และต่างประเทศ 50% โดยคนไข้ส่วนใหญ่ที่เข้ามาใช้บริการจะเป็นกลุ่มอาหรับ โอมาน คูเวต กาต้า ซาอุ ดังนั้นเพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน โดยทางโรงพยาบาลปิยะเวทได้มีการจัดโรดโชว์และสร้างความสัมพันธ์กับโรงพยาบาลต่างๆ ในกลุ่มประเทศเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม รวมทั้งในอนาคตอันใกล้มีแผนการจัดโรดโชว์เพื่อดึงลูกค้าต่างประเทศทั้งยุโรปและตะวัน ออกกลาง ให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น อีกทั้งได้มีการเปิดให้บริการลองสเตย์ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุด้วย ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในด้านกำลังซื้อที่สูงมาก

โดยในปีที่ผ่านมาลงทุน 200 ล้านบาท เปิดคลินิกในย่างกุ้ง ประเทศพม่า ลงทุน 30 ล้านบาท เปิดบริการมาแล้ว 1 ปี และประเทศโอมาน ลงทุน 50 ล้านบาท เปิดบริการมาแล้ว 2 ปี นอกจากนี้ยังมีแผนขยายคลินิกไปยังต่างประเทศในแถบตะวันออกกลางและแอฟริกา โดยใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท เน้น 4 ศูนย์หลักในการสร้างจุดเด่นให้กับโรงพยาบาลปิยะเวท คือ ศูนย์เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ศูนย์ทารกแรกเกิดและปริกำเนิด ศูนย์บริการผู้ป่วยต่างชาติ และศูนย์รักษาแผลที่เท้าจากโรคเบาหวาน จุดเด่นของการขยายตลาดในประเทศมุ่งเน้นการรักษาโรคเรื้อรัง รักษาอาการในกลุ่มผู้สูงอายุ 4 โรคหลัก เบาหวาน ความดัน หัวใจ และมะเร็ง รายได้ในปีที่ผ่านมาโต 10% และในปี 2560 อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 20% โดยสัดส่วนลูกค้าต่างชาติที่เข้ารับบริการจะเป็นประเทศในแถบตะวันออกกลาง กลุ่มประเทศ AEC จีน ญี่ปุ่น และประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย

• ข่าวโรงพยาบาลปิยะเวท
• ข่าวเวชศาสตร์
• ข่าวปิยะเวท
• ข่าวศูนย์บริการ
• ข่าวเชิงรุก
• ข่าวปิยะ