สำหรับการดำเนินงานการขับเคลื่อนโครงการจะประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้แก่ กรมชลประทาน กรมวิชาการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน กรมการปกครอง กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมการค้าภายใน ในการวิเคราะห์คัดเลือกพื้นที่เหมาะสมระดับอำเภอและตำบล โดยมุ่งเป้ารวมกลุ่มเกษตรกรตามหลักการส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ ความสะดวกในการบริหารจัดการน้ำ การถ่ายทอดความรู้ การผลิต และการตลาด การจัดทำเวทีชุมเพื่อรับสมัครเกษตรกร และส่งรายชื่อเกษตรกรให้ ธ.ก.ส. พิจารณาสนับสนุนสินเชื่อตามเงื่อนไข ไร่ละ 4,000 บาท เพื่อนำไปซื้อปัจจัยการผลิต จากนั้นกรมส่งเสริมการเกษตรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนจัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้และประชาสัมพันธ์ ในรูปแบบการจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้ง ให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้รับทราบคำแนะนำตลอดฤดูการเพาะปลูก ส่วนการรับซื้อผลผลิตและการจ่ายเงินให้เกษตรกร โดย ธ.ก.ส. และภาคเอกชน จะจ่ายในราคาประกันกิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 8 บาท สำหรับข้าวโพดเบอร์ 2 ความชื้นไม่เกิน 14.5% ตามมาตรฐานคุณภาพข้าวโพดฯ ของสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ ณ โรงงานอาหารสัตว์ในเขตจังหวัดของภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ
ทั้งนี้ ได้มีเป้าหมายดำเนินการปรับเปลี่ยนพื้นที่จากข้าวนาปรังเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 2 ล้านไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เหมาะสมมาก (S1) และเหมาะสมปานกลาง (S2) ในเขตชลประทาน หรือแหล่งน้ำอื่นที่มีน้ำตลอดฤดูกาลเพาะปลูก ใน 31 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคเหนือ 13 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด ภาคกลาง 6 จังหวัด ภาคตะวันออก 3 จังหวัด และภาคตะวันตก 3 จังหวัด โดยมีระยะเวลาเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 – มิถุนายน 2560 ซึ่งคาดว่าเกษตรกรจะได้รับประโยชน์ในการช่วยลดผลผลิตข้าวนาปรัง แก้ปัญหาผลผลิตที่มากเกินความต้องการของตลาดได้ ไม่น้อยกว่า 1.25 ล้านตัน การเพิ่มอุปทานข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีคุณภาพได้ราว 1.44 ล้านตัน เกิดความมั่นคงในห่วงโซ่อุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แทนนาปรัง ไม่ต่ำกว่าไร่ละ 2,000 บาท รวมถึงได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ นำไปสู่การจัดระบบการปลูกข้าวตามด้วยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อย่างยั่งยืนอีกด้วย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit