ทิสโก้มองเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโลกเร่งตัวขึ้นในปี 2017 แนะนำ Overweight ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และอินเดีย

          กูรูทิสโก้คาดเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโลกเร่งตัวขึ้นในปีหน้า ส่งผลให้กำไรตลาดหุ้นทั่วโลกขยายตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี แนะ Overweight ตลาดหุ้น "สหรัฐ-ญี่ปุ่น-อินเดีย"
          นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้(Mr. Komsorn Prakobpol, Head of Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit: TISCO ESU)กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปี 2017 จะแตกต่างไปจากปี 2016 เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านเงินเฟ้อซึ่งจะกลับมาเร่งตัวขึ้น ส่งผลให้นโยบายเศรษฐกิจเปลี่ยนจากการกระตุ้นผ่านนโยบายการเงินไปสู่การกระตุ้นผ่านนโยบายการคลัง โดยเศรษฐกิจโลกในปี 2016 ขยายตัว 3.0% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำสุดตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2008 เนื่องจากการลงทุนและการค้าโลกที่หดตัวตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ส่วนการบริโภคไม่ได้ฟื้นตัวตามคาด เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อยู่ในระดับต่ำ ส่วนในปี 2017 เราคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวดีขึ้นเป็น 3.4% ตามการฟื้นตัวของการลงทุนและการค้าโลก ประกอบกับแรงส่งจากนโยบายการคลัง
          เงินเฟ้อและเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้นในปี 2017 จะส่งผลให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกที่ไม่ขยายตัวมาตั้งแต่ปี 2014 สามารถกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง โดยอุตสาหกรรมหลักที่ฉุดรั้งการเติบโตของกำไรในปี 2016ได้แก่ กลุ่มธนาคาร ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ และกลุ่มพลังงานที่ถูกกดดันจากราคาน้ำมัน และทำให้กำไรหดตัวแรงในปีที่ผ่านมา แต่ในปี 2017 แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่กลับเป็นขาขึ้น และการฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะช่วยให้กำไรใน 2 อุตสาหกรรมนี้ฟื้นตัวขึ้น และทำให้กำไรของตลาดหุ้นโลกกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
          การกลับมาขยายตัวของผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน น่าจะทำให้ปี 2017 เป็นอีกปีที่ดีของตลาดหุ้น โดยเรายังคงยังคงคำแนะนำ Overweight ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่จะได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ Donald Trump ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ยังมีปัจจัยบวกจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า ประกอบกับ Valuation ที่ยังถูก และการเติบโตของกำไรที่ต่อเนื่อง ส่วนตลาดหุ้นอินเดียที่ปรับฐานจากผลกระทบของการยกเลิกการใช้ธนบัตร น่าจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวเพียงระยะสั้น แต่ในระยะยาวศักยภาพในการเติบโตของเศรษฐกิจและกำไรยังอยู่ในเกณฑ์ดี
          ด้านสินค้าโภคภัณฑ์เราแนะนำให้ขายทำกำไรน้ำมันที่ราคาปรับขึ้นมามากและข่าวดีจากการตกลงลดปริมาณการผลิตได้ถูกประกาศออกมาหมดแล้ว และทยอยสะสมทองคำที่ราคาปรับลดลงมามาก เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
สำหรับความเสี่ยงสำคัญที่ต้องจับตามองในปี 2017 ได้แก่ 1) การเพิ่มขึ้นของ Bond Yield ซึ่งอาจกดดัน Valuation ของตลาดหุ้น 2) ความเสี่ยงทางการเมืองและการเลือกตั้งในยุโรป 3) ราคาน้ำมันที่อาจปรับตัวลดลงหากผู้ผลิตไม่ลดการผลิตตามที่ตกลงกัน และ 4) ปัญหาเงินทุนไหลออกจากจีน
ทิสโก้มองเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโลกเร่งตัวขึ้นในปี 2017 แนะนำ Overweight ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และอินเดีย

ข่าวo:eco+o:finวันนี้

ดีป้า เผยดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล Q1/68 ฟื้นสู่ระดับ 'เชื่อมั่น' หลังได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และปัจจัยบวกอื่น

ดีป้า เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล ไตรมาส 1/2568 ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลง และการแข่งขันด้าน AI ระดับโลก ขณะเดียวกัน การประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มาตรการกีดกันทางการค้าต่างประเทศ และการที่ผู้ประกอบการไม่สามารถปรับตัวได้ทันกับเทคโนโลยีเกิดใหม่ถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อระดับความเชื่อมั่น เผยผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยคาดหวังให้ภาครัฐเร่งพัฒนากำลังคนดิจิทัลเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม สำนักงานส่ง

บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด ... SPRC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น — บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC จัดการประ...

พลาสติกแอนด์รับเบอร์ ไทยแลนด์ 2025 จัดขึ้... Plastics & Rubber Thailand 2025 งานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตพลาสติกและยาง — พลาสติกแอนด์รับเบอร์ ไทยแลนด์ 2025 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยได้รับคว...

New ImagePLUS color feature offers highes... BASF Coatings sets new standard in end-to-end digital color solutions for body shops with Refinity — New ImagePLUS color feature offers highest-precision ...