การยางฯ ยัน ถนนยาง 'ลดการลื่นไถล เพิ่มความปลอดภัย’ ในการขับขี่

          การยางฯ ยืนยันถนนยางพารามีประสิทธิภาพ ช่วยลดการลื่นไถลของยานพาหนะ และมีส่วนช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ พร้อมอ้างอิงผลวิจัยการนำยางพาราผสมลาดถนนจากกรมทางหลวง
          ดร.ณพรัตน์ วิชิตชลชัย ผู้อำนวยการกลุ่มอุตสาหกรรมยาง การยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบระหว่างถนนแอสฟัลต์คอนกรีตผสมยางพารา ร้อยละ 5 กับถนนแอสฟัลต์คอนกรีตทั่วไป โดยอ้างอิงจากผลวิจัยของกรมทางหลวง สรุปได้ว่าถนนผสมยางพารามีประสิทธิภาพดีกว่าถนนทั่วไป จากการทดสอบปรากฏผลบ่งชี้ไปในแนวทางเดียวกัน คือ ถนนผสมยางพารามีค่าความอ่อนตัวสูงกว่า จึงทนทานต่อความร้อนได้มากกว่า ประมาณร้อยละ 48 ดังนั้น ถนนผสมยางพาราจึงมีความทนทานและแข็งแรงกว่าถนนทั่วไป ซึ่งหากใช้งานประมาณ 5 ปี สภาพผิวถนนจะเริ่มมีสภาพชำรุด ในขณะที่ถนนผสมยางพารายังคงสภาพพื้นผิวเรียบ ไม่ชำรุดและไม่เกิดร่องหลุม
          "นอกเหนือจากคุณสมบัติด้านความทนทานและแข็งแรง ถนนแอสฟัลต์คอนกรีตผสมยางพารายังมีคุณสมบัติช่วยลดการลื่นไถลของยานพาหนะ จากการทดสอบค่าการลื่นไหลของถนนยางพารามีน้อยกว่า จึงถือว่ามีความฝืดมากขึ้น ช่วยลดการลื่นไถลได้ รวมถึงมีความต้านทานร่องล้อของยานพาหนะ ซึ่งมีส่วนช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้นด้วย" ดร.ณพรัตน์ กล่าว
          ล่าสุด หลังจากกรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนน 3การยางแห่งประเทศไทย5 รังสิต-องครักษ์ นครนายก นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ได้มอบหมายให้ ดร.สุจินต์ ไชชุมศักดิ์ เป็นประธานในการประชุมแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยคณะประชุมได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งแขวงทางหลวงแผ่นดินจังหวัดนครนายกได้ยืนยันว่า พื้นที่เกิดอุบัติเหตุนั้นไม่อยู่บนพื้นถนนที่ใช้ยางพาราผสม แต่เป็นพื้นถนนแอสฟัลติกคอนกรีตธรรมดาทั่วไป
          นายสุรพล ประเสริฐสัมพันธ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม แขวงทางหลวงแผ่นดินจังหวัดนครนายก กล่าวว่า กรมทางหลวงได้ดำเนินการทดสอบถนนที่มีการใช้ยางพาราเป็นส่วนผสม คู่กับถนนแอสฟัลติกคอนกรีตทั่วไป ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม กลุ่มอุตสาหกรรม556 โดยจุดที่เกิดอุบัติเหตุอยู่ในช่วง กม. 5ณพรัตน์ วิชิตชลชัย+75การยางแห่งประเทศไทย ถึง 5กลุ่มอุตสาหกรรม+75การยางแห่งประเทศไทย (ระยะทางณพรัตน์ วิชิตชลชัย กิโลเมตร) ซึ่งเป็นช่วงถนนแอสฟัลติกคอนกรีตทั่วไปไม่มียางพาราเป็นส่วนผสม สำหรับช่วงถนนแอสฟัลติกคอนกรีตผสมยางพาราที่กรมทางหลวงทดสอบ คือ ช่วง กม. 5กลุ่มอุตสาหกรรม+75การยางแห่งประเทศไทย ถึง 53+75การยางแห่งประเทศไทย (ระยะ ณพรัตน์ วิชิตชลชัย กิโลเมตร) ซึ่งเป็นช่วงที่ต่อจากช่วงถนนที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น
          "ถนนแปลงทดสอบระยะทาง กลุ่มอุตสาหกรรม กิโลเมตร ดังกล่าว มีอายุประกันสัญญา กลุ่มอุตสาหกรรม ปี และหมดอายุของสัญญาไปเมื่อวันที่ กลุ่มอุตสาหกรรมณพรัตน์ วิชิตชลชัย มีนาคม กลุ่มอุตสาหกรรม558 โดยหลังจากหมดสัญญามีการทำสัญญาจ้างเหมาบริษัทเพื่อบำรุงซ่อมแซมถนน โดยกรมทางหลวงได้เร่งรัดให้มีการซ่อมผิวถนนมาตลอด เนื่องจากช่วงถนนแอสฟัลติกคอนกรีตทั่วไปที่เกิดอุบัติเหตุนั้น ผิวถนนมีสภาพเสียรูป เกิดร่องล้อ เมื่อมีฝนตกจึงมีน้ำขังอาจเป็นเหตุให้เกิดการลื่นไถล"นายสุรพล กล่าวเพิ่มเติม


ข่าวการยางแห่งประเทศไทย+ณพรัตน์ วิชิตชลชัยวันนี้

กยท. ส่งต่อผลิตภัณฑ์จากยางพาราแก่ รพ.พระมงกุฎเกล้า หวังช่วยรักษาผู้ป่วย Covid - 19

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นำโดย นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นางณพรัตน์ วิชิตชลชัย รองผู้ว่าการด้านธุรกิจมอบผลิตภัณฑ์ยางพารา เพื่อเป็นอุปกรณ์สำหรับรักษาผู้ป่วยให้แก่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หวังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการแพทย์ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 นางณพรัตน์ วิชิตชลชัย รองผู้ว่าการด้านธุรกิจ กล่าวว่า กยท. มีงานวิจัยเกี่ยวกับอุปกรณ์ช่วยเหลือทางด้านการแพทย์หลายงานด้วยกัน ซึ่งอุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์เหล่านี้ผลิตจากยางพารา สามารถช่วยให้การรักษาดีขึ้น เกิดความสะดวกขึ้น

การยางแห่งประเทศไทย นำโดย นายณกรณ์ ตรรกวิ... ภาพข่าว: กยท. ผนึกกำลังกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท เปิดมิติใหม่ใช้ยางพาราหุ้มแบริเออร์ — การยางแห่งประเทศไทย นำโดย นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแ...

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ปล่อยสินเชื่อป... กยท. ปล่อยสินเชื่อปลอดดอก หนุนกลุ่มหมอนยางสู้ COVID-19 — การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ปล่อยสินเชื่อปลอดดอกฝากหมอนยางพารา ช่วยเหลือสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง วิส...