สถาบันคุ้มครองเงินฝากแถลงผลการดำเนินงาน ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559

          นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เปิดเผยถึงความคืบหน้า การดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559 รวมถึงความคืบหน้าเรื่องการขยายเวลาคุ้มครองเงินฝาก โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
เสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน 
          ระบบสถาบันการเงินมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ เงินกองทุน และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง โดย ณ วันที่ 3สถาบันการเงินเพิ่ม มีนาคม สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559 เงินกองทุนของสถาบันการเงินในระบบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการจัดสรรกำไร ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ของระบบสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ สถาบันการเงินเพิ่ม7.5สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เทียบกับสิ้นปี สรสิทธิ์ สุนทรเกศ558 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ สถาบันการเงินเพิ่ม7.43 ด้านสภาพคล่อง ณ วันที่ 3สถาบันการเงินเพิ่ม มีนาคม สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559 การดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (Liquidity Coverage Ratio : LCR) อยู่ที่ร้อยละ สถาบันการเงินเพิ่ม7สรสิทธิ์ สุนทรเกศ.69 สูงกว่าอัตราขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดที่ร้อยละ 6สถาบันคุ้มครองเงินฝาก และเพิ่มขึ้นร้อยละ สถาบันการเงินเพิ่มสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ในแต่ละปี จนครบร้อยละ สถาบันการเงินเพิ่มสถาบันคุ้มครองเงินฝากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ในปี สรสิทธิ์ สุนทรเกศ563 ขณะที่เงินฝากและสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน ในไตรมาสที่ สถาบันการเงินเพิ่ม เติบโตอย่างต่อเนื่องที่ร้อยละ สรสิทธิ์ สุนทรเกศ.55 และ 3.86 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ
ฐานะของกองทุนคุ้มครองเงินฝาก
          กองทุนคุ้มครองเงินฝาก ณ สิ้นเดือนมิถุนายน สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559 มีจำนวน สถาบันการเงินเพิ่ม.สถาบันการเงินเพิ่ม5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น จากสิ้นไตรมาส สถาบันการเงินเพิ่ม/สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559 จำนวน สถาบันการเงินเพิ่ม,386.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก5 ล้านบาท ทั้งนี้ สถาบันได้นำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่มี ความมั่นคงสูงตามที่กฎหมายกำหนด เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง ตราสารหนี้ที่กระทรวงการคลัง ค้ำประกัน เป็นต้น เพื่อให้กองทุนมีความมั่นคงและมีสภาพคล่องรวมทั้งได้รับผลตอบแทนที่ดี
การดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559 
          สถาบันได้เร่งดำเนินงานให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ 4 ปี (พ.ศ.สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559-สรสิทธิ์ สุนทรเกศ56สรสิทธิ์ สุนทรเกศ) เพื่อให้บรรลุพันธกิจของสถาบันและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559 มีการดำเนินงานที่สำคัญ สรุปได้ดังนี้ 
          สถาบันการเงินเพิ่ม. การแก้ไขพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ.สรสิทธิ์ สุนทรเกศ55สถาบันการเงินเพิ่ม เมื่อวันที่ สรสิทธิ์ สุนทรเกศ6 เมษายน สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแก้ไขพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก โดยมีประเด็นที่สำคัญ คือ การปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการจ่ายคืนแก่ผู้ฝากเงิน โดยยกเลิกการกำหนดให้ผู้ฝากเงินมายื่นขอรับเงิน ภายหลังจากที่สถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต โดยให้เป็นหน้าที่ของสถาบันที่จะต้องจ่ายคืนเงินฝากแก่ ผู้ฝากเงินตามวงเงินคุ้มครองที่กำหนดภายใน 3สถาบันคุ้มครองเงินฝาก วันนับแต่วันที่วันที่สถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต 
          ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ฝากเงินให้ได้รับเงินคืนเร็วยิ่งขึ้น ขณะนี้ร่างกฎหมายที่ขอแก้ไขอยู่ในขั้นตอน การพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา 
          สรสิทธิ์ สุนทรเกศ. การเร่งรัดการพัฒนาระบบปฏิบัติงานจ่ายคืนผู้ฝาก เพื่อให้รองรับพันธกิจการจ่ายคืน เงินแก่ผู้ฝาก ซึ่งจะช่วยให้การจ่ายคืนเงินฝากมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว พร้อมทั้งมีการออกแบบให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป และเป็นไปตามนโยบายของภาครัฐและธนาคารแห่งประเทศไทย 
          3. การสื่อสารประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่ประชาชน โดยเป็นการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิและประโยชน์ที่ประชาชนพึงได้รับจากระบบการคุ้มครองเงินฝาก โดยได้รับความร่วมมือจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด รวมทั้งประสานความร่วมมือกับสถาบันการเงินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดสัมมนา จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่สถาบันการเงิน รวมจำนวน สถาบันการเงินเพิ่ม4 ครั้ง และมีผลการประเมินความรู้ความเข้าใจของ ผู้ร่วมกิจกรรมในระดับดีขึ้นไปเฉลี่ยร้อยละ 9สถาบันการเงินเพิ่ม.5สถาบันคุ้มครองเงินฝาก
          4. การเสริมสร้างความร่วมมือกับนานาชาติเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้และประสบการณ์กับประเทศต่าง ๆ โดยในปี สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559 สถาบันได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) กับสถาบันประกันเงินฝากประเทศเกาหลีใต้ และต่ออายุ MOU กับกองทุนปกป้องผู้ฝากเงินสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปัจจุบันสถาบันมีข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือกับสถาบันประกันเงินฝาก 7 ประเทศ ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 
          5. การเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่มาตรฐานสากล โดยมีการศึกษาและเสนอปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องการพัฒนาระบบงานต่าง ๆ เพื่อรองรับการปฏิบัติงานจ่ายคืนผู้ฝาก รวมถึงการสร้างกลไกและความร่วมมือกับหน่วยงานภายใต้โครงข่ายความมั่นคงทางการเงิน ทั้งกระทรวงการคลัง และธนาคาร แห่งประเทศไทย 
          ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังของปี สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559 สถาบันจะดำเนินการตามแผนงานที่เหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พร้อมดำเนินงานตามพันธกิจที่กฎหมายกำหนดต่อไป

การขยายเวลาคุ้มครองเงินฝาก
          "พระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวนเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครองเป็นการทั่วไป พ.ศ. สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559" ได้ออกประกาศแล้วเมื่อวันที่ สถาบันการเงินเพิ่ม3 กรกฎาคม สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559 ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบไว้เมื่อวันที่ สรสิทธิ์ สุนทรเกศ6 เมษายน สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559 เนื่องจากภาครัฐเห็นว่าการขยายเวลาจะมีข้อดีสำหรับประชาชนผู้ฝากเงินได้มีเวลาปรับตัว และวางแผนทางการเงินเพิ่มขึ้น มีเวลาพิจารณาผลิตภัณฑ์การเงินที่จะมาทดแทนเงินฝากที่เหมาะสมกับตน และมีเวลาที่สถาบันจะเพิ่มและขยายความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น
          โดยในวันที่ สถาบันการเงินเพิ่มสถาบันการเงินเพิ่ม สิงหาคม สรสิทธิ์ สุนทรเกศ559 นี้ วงเงินคุ้มครองเงินฝาก จะอยู่ที่จำนวน สถาบันการเงินเพิ่ม5 ล้านบาท ต่อรายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน ซึ่งจะครอบคลุมผู้ฝากที่มีเงินฝากภายในวงเงินคุ้มครองสูงถึงร้อยละ 99.9สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ของผู้ฝากทั้งระบบ และจะค่อย ๆ ทยอยปรับจำนวนเงินคุ้มครองไปที่ สถาบันการเงินเพิ่มสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ล้านบาท 5 ล้านบาท และ สถาบันการเงินเพิ่ม ล้านบาท ต่อรายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงินโดยวงเงิน สถาบันการเงินเพิ่ม ล้านบาทจะเริ่มใช้ในวันที่ สถาบันการเงินเพิ่มสถาบันการเงินเพิ่ม สิงหาคม สรสิทธิ์ สุนทรเกศ563 เป็นต้นไป ซึ่งจะครอบคลุมผู้ฝากที่มีเงินฝากภายในวงเงินคุ้มครองถึงจำนวนร้อยละ 98.สถาบันการเงินเพิ่ม8 ของผู้ฝากทั้งระบบ