ธพว.โชว์ผลงานครึ่งปีแรก 59 เข้าเป้าทุกด้าน มีกำไรสุทธิ 1,104 ล้านบาท พร้อมผนึกพันธมิตร เพิ่มช่องทางขายสินค้าช่วยผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ

          ในวันนี้ (27 กรกฎาคม 2559) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ได้แถลงข่าว ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ปี 2559 โดย นางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการ และ นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธพว. (SME Development Bank) และพีธีลงนามความร่วมมือโครงการ SMEs Marketplace โดยมีหน่วยงานร่วมลงนาม ประกอบด้วย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการ SMEs ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงพิธีเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME Rescue Center ดังนี้
          สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม. ผลการดำเนินงานของธนาคาร เดือน มิ.ย. มีกำไรสุทธิ 2ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย6 ล้านบาท ครึ่งปีแรก(ม.ค.-มิ.ย.) ปี 2559 มีกำไรสุทธิรวม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม,สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย4 ล้านบาท เปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย) ปี 2558 มีกำไรสุทธิ 6ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย4 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น 5ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท คิดเป็น 82.78% ทั้งนี้เป็นผลมาจากธนาคารสามารถขยายสินเชื่อคุณภาพเพิ่มขึ้น และบริหารจัดการหนี้ NPL ได้ตามเป้าหมาย ทำให้หนี้เดิมที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้สามารถกลับมาสร้างรายได้ให้กับธนาคารและช่วยลดภาระกันสำรองลดลง นอกจากนี้ ธนาคารยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าแผนงานที่วางไว้ รวมถึง สามารถลดต้นทุนทางการเงินลงด้วย
          ณ สิ้น มิ.ย. 2559 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศรวม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม6,479 ล้านบาท จำนวน 5,389 ราย เฉลี่ยกู้ต่อราย 3 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 88,532 ล้านบาท 
          จากผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องมากว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปี คณะกรรมการ ธพว.ได้เห็นชอบให้ชำระคืนเงินกู้ต่างประเทศกับสถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะและพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (KfW) ประมาณ 25.385 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม,สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม96.9ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท ก่อนครบกำหนดโครงการในปี 2588 ทั้งนี้ เนื่องจาก ธนาคารมีสภาพคล่องส่วนเกินมากพอแล้ว อีกทั้งการคืนเงินกู้ก่อนกำหนดทำให้ไม่ต้องเสียค่าป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (CCS) และเป็นการลดภาระหนี้สาธารณะของประเทศด้วยเช่นกัน เพราะเงินกู้จำนวนนี้มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน
          2. สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ณ 3ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย มิถุนายน 2559 มียอด NPLs คงเหลือ 2ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย,ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ล้านบาท (คิดเป็น 22.6ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย% ของสินเชื่อรวม) เทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ณ 3ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย มิถุนายน 2558 มียอด NPLs 27,สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม84 ล้านบาท (คิดเป็น 3สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม.47% ของสินเชื่อรวม) ลดลง 7,สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม73 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลมาจากธนาคารสร้างระบบ Loan Monitoring เพื่อป้องกันสินเชื่อตกชั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีการติดตามดูแลลูกหนี้ที่อ่อนแออย่างใกล้ชิด ทำให้สามารถรักษาคุณภาพลูกหนี้ไม่ให้ตกชั้นเป็น NPL ได้ดีขึ้น และธนาคารปรับโครงสร้างลูกหนี้ NPLs ที่ยังดำเนินกิจการอยู่ควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ ธนาคารได้มีการขายลูกหนี้ NPLs ออกไปรวมทั้งสิ้น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม,433.35 ล้านบาท และตั้งแต่คณะกรรมการชุดนี้เข้ามาดูแล ธพว.เดือนสิงหาคม 2557 เป็นต้นมา ธนาคารได้ขายลูกหนี้ NPLs ไปแล้ว 7,6สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม3.66 ล้านบาท 
          3. ความร่วมมือโครงการ SMEs Marketplace โดยลงนาม 5 หน่วยงานพันธมิตร ประกอบด้วย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) เพื่อนำศักยภาพของภาคเอกชนในเรื่องช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีผู้ซื้อที่แน่นอน มาช่วยเพิ่มโอกาสการขายให้กับสินค้า SMEs ขนาดย่อม ทั้งในกรุงเทพและจังหวัดเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา มีช่องทางสายสัมพันธ์ที่ดีในการทำตลาดที่ประเทศกัมพูชา และมีประสบการณ์จัดกิจกรรมขนาดใหญ่ของ SMEs และOTOP ไปจำหน่ายสินค้าร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอื่น ๆ หลายครั้งก็จะเข้ามาช่วยในการจัดมหกรรมสินค้าที่เหมาะสมตรงกับความต้องการของประเทศกัมพูชาเป็นระยะ รวมทั้งเป็นหน่วยงานที่จะเชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขายของทั้งสองประเทศในลักษณะจับคู่ธุรกิจอีกทางหนึ่ง ส่วนบริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจสินค้าแฟชั่น Fly NOW มี Outlet ขนาดใหญ่ที่จำหน่ายสินค้าจำนวนมากในแต่ละจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น เพชรบุรี หัวหิน กาญจนบุรี ศรีราชา พัทยา สิงห์บุรี ปากช่อง จะช่วยคัดสรรสินค้าที่เหมาะสมในแต่ละ Outlet เพื่อช่วยในการจำหน่ายให้นักท่องเที่ยว โดยจะจัดทำเป็นร้านค้าเฉพาะขึ้นมาต่างหากเพื่อสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการในโครงการนี้ และ MBK Center ศูนย์การค้าที่เป็น Tourist Destination Shopping Mall อันดับต้นๆ ของเมืองไทย ก็จะจัดพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการในลักษณะ Event พิเศษให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มีมากกว่า 6ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย% ของผู้มาใช้บริการในศูนย์การค้า MBK Center ซึ่งมีกำลังซื้อสูงมาก และมีความต้องการสินค้าไทยที่มีคุณภาพอีกมากมาย ส่วน สสว.พร้อมจะเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาแนะนำด้านการตลาด การพัฒนาคุณภาพสินค้าของ SMEs ให้เป็นที่ต้องการของตลาด รวมทั้งในเรื่องการขนส่งสินค้าเพื่อนำไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน โดยมี ธพว.ที่เป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาพร้อมช่วยเหลือ SMEs ตามภารกิจ ทั้งด้านเงินทุน ร่วมลงทุน และการพัฒนาผู้ประกอบการในด้านต่างๆต่อไป ทั้งนี้ นอกจากหน่วยงานดังกล่าวที่ร่วมลงนามในวันนี้แล้ว ธนาคารยังอยู่ระหว่างติดต่อเอกชนรายใหญ่ที่เป็นศูนย์กระจายสินค้าและห้างขนาดใหญ่เข้าร่วมโครงการในระยะต่อไปด้วย
          4. เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME Rescue Center ในสำนักงานใหญ่ SME Bank Tower และสาขาธนาคาร 95 แห่งทั่วประเทศร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเป็นเครือข่ายร่วมเป็นศูนย์รับเรื่องช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในต่างจังหวัด โดย ธพว.ให้ความสำคัญกับนโยบายแก้ไขปัญหาให้ผู้ประกอบการ ซึ่งรัฐบาลได้มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าภาพดำเนินการศูนย์ดังกล่าว

          ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม โทร.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย2-265-4564-5
ธพว.โชว์ผลงานครึ่งปีแรก 59 เข้าเป้าทุกด้าน มีกำไรสุทธิ 1,104 ล้านบาท พร้อมผนึกพันธมิตร เพิ่มช่องทางขายสินค้าช่วยผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ
 
ธพว.โชว์ผลงานครึ่งปีแรก 59 เข้าเป้าทุกด้าน มีกำไรสุทธิ 1,104 ล้านบาท พร้อมผนึกพันธมิตร เพิ่มช่องทางขายสินค้าช่วยผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ
ธพว.โชว์ผลงานครึ่งปีแรก 59 เข้าเป้าทุกด้าน มีกำไรสุทธิ 1,104 ล้านบาท พร้อมผนึกพันธมิตร เพิ่มช่องทางขายสินค้าช่วยผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ

ข่าวธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย+สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมวันนี้

SME D Bank ลุยโครงการเติมความรู้บัญชีภาษี ปูทางพาเอสเอ็มอีถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำเพียง 3%ต่อปี

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า SME D Bank เดินหน้าภารกิจธนาคารเพื่อการพัฒนา จับมือกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ กรมสรรพากร สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และบริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม "Nex Gen Commerce" จัดโครงการ "ทุนก็มี ภาษีก็รู้ ก้าวสู่ความยั่งยืน" เดินสาย Road Show ในรูปแบบ One Stop Service

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่... SME D Bank จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ จัดทำแผนวิสาหกิจ 5 ปี (ปี 2567-2571) และแผนธุรกิจ ประจำปี 2567 — ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธ...

วันนี้ (6 ก.พ. 66) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนา... SME D Bank ต้อนรับคณะรัฐบาลกรุงมอสโก แลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้ความช่วยเหลือภาคเอกชนรายย่อย — วันนี้ (6 ก.พ. 66) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งปร...