- เดินกลยุทธ์เสริมสร้างศักยภาพ เพื่อคว้าประโยชน์จากตลาดเทคโนโลยีการเงินที่กำลังเติบโต ด้วยโซลูชั่นอัตโนมัติและการประมวลผลโดยตรง (STP)
- เพิ่มพูนข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของ Tech Mahindra เพื่อยกระดับบริการแก่ตลาดเอาท์ซอร์สในภาคธนาคาร บริการทางการเงิน และประกันภัย (BFSI) ของสหราชอาณาจักร การผนึกกำลังครั้งนี้ครอบคลุมการพัฒนาแพลตฟอร์มรองรับตลาดอื่นๆทั่วโลก และโอกาสในการทำ Cross-Selling
- ด้วยอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อปี (CAGR) ตลอดระยะเวลาสามปีที่ 22% รวมทั้งทรัพย์สินทางปัญญา สัญญาระยะยาวและความสัมพันธ์ที่ Target Group ได้สานต่อกับลูกค้า นำเสนอโอกาสผนึกกำลังเพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับบริษัท
Tech Mahindra Ltd. ผู้เชี่ยวชาญด้านการประยุกต์ใช้ดิจิตอล การให้คำปรึกษา และการยกเครื่องธุรกิจ ได้บรรลุข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการของ Target Group ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มประมวลผลชั้นนำของสหราชอาณาจักร โดยคาดว่าจะสามารถสรุปข้อตกลงเสร็จสิ้นได้ในไตรมาสสองของปีงบการเงิน 2560 เมื่อได้รับการอนุมัติจากฝ่ายกำกับดูแลแล้ว
การซื้อกิจการครั้งนี้ช่วยเสริมสร้างธุรกิจ BFSI ของ Tech Mahindra ให้แข็งแกร่ง ด้วยการเข้าถึงทรัพย์สินทางปัญญาและแพลตฟอร์ม ซึ่งช่วยวางระบบอัตโนมัติให้กับกระบวนการต่างๆอย่างครบวงจร ทั้งในตลาดเงินกู้ การลงทุน และประกันภัย และยังจะเข้ามายกระดับศักยภาพของ Tech Mahindra พร้อมเปิดโอกาสให้ Tech Mahindra สามารถคว้าส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้น ในตลาด BFSI ของสหราชอาณาจักรที่มีการใช้จ่ายค่าซอฟต์แวร์และบริการรวมกันถึง 4.5-6 หมื่นล้านปอนด์ต่อปี ทั้งนี้ Tech Mahindra ตั้งใจที่จะใช้ประโยชน์จากการดำเนินงานทั่วโลก และยกระดับแพลตฟอร์มที่ว่านี้เพื่อรองรับตลาดอื่นๆ
ข้อตกลงซื้อกิจการดังกล่าวเป็นไปตามกลยุทธ์ของ Tech Mahindra ในการยกระดับศักยภาพด้านเทคโนโลยีการเงินของบริษัท และผนวกรวมทรัพย์สินทางปัญญาและแพลตฟอร์มใหม่ เพื่อขับเคลื่อนระบบ Non Linearity และรุกตลาด BFSI โดยแพลตฟอร์มที่ทาง Target Group ได้พัฒนาขึ้นนั้น ช่วยให้ขั้นตอนประมวลผล การบริการ และการบริหารจัดการเงินกู้ การลงทุน และประกันภัย ที่มีความสำคัญและซับซ้อนนั้นทำงานเป็นระบบอัตโนมัติ แพลตฟอร์มนี้นำเสนอบริการอันเป็นเลิศ รองรับการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและมีการควบคุม ซึ่งสามารถปรับระบบเพื่อให้บริการตลาดใหม่ๆได้อย่างง่ายดาย
Target Group มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหราชอาณาจักร ด้วยพนักงาน 740 ราย และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงินชั้นนำอย่าง Goldman Sachs, Morgan Stanley และ Credit Suisse ผู้ให้บริการเงินกู้อย่าง Shawbrook และองค์กรแบบมีผลประโยชน์ตอบแทนอย่าง Yorkshire Building Society และเมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา Target Group สามารถทำรายได้ถึง 51 ล้านปอนด์ โดยความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นระหว่าง Target Group กับลูกค้า ช่วยให้บริษัทสามารถสร้างรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Target Group ยังมีโครงสร้างแข็งแกร่ง ซึ่งเปิดโอกาสให้สามารถตรวจสอบรายได้และก่อให้เกิดกระแสเงินสด
ข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า Tech Mahindra ได้ตกลงที่จะซื้อหุ้นของ Target Group ทั้งหมด 100% โดย Target Group จะยังคงเป็นบริษัทแยกตัวอิสระ และยังคงไว้ซึ่งแบรนด์เดิมที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในตลาด สำหรับคณะผู้บริหารทั้งหมดของ Target จะยังคงอยู่กับบริษัทต่อไป โดยมีความรับปิดชอบในการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่
การเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ซอฟต์แวร์ การดำเนินงานที่สอดคล้องกับมาตรฐาน และความรู้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ Target Group โดดเด่นเหนือคู่แข่ง
ข้อตกลงซื้อกิจการจะช่วยให้ Tech Mahindra สามารถต่อยอดบริการของตนในภาคเงินกู้ เงินออม การลงทุน และการประกันภัย และยังมอบโอกาสครั้งสำคัญในการทำ Cross-sell โซลูชั่น Tech Mahindra/ Target กับฐานลูกค้าของแต่ละฝั่ง พร้อมส่งเสริมการจำหน่ายแพลตฟอร์มนี้ให้ครอบคลุมตลาดอื่นๆ
ซีพี กูร์นานี เอ็มดีและซีอีโอของ Tech Mahindra กล่าวว่า "ทรัพย์สินทางปัญญาและแพลตฟอร์มที่ Target Group ได้พัฒนาขึ้นนั้น ช่วยยกระดับธุรกิจเทคโนโลยีการเงินของเราได้เป็นอย่างมาก การซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้เรามีบทบาทอันน่าเกรงขามในตลาด BFSI ของสหราชอาณาจักร โดยมีสถาบันทางการเงินชั้นนำกว่า 50 รายเป็นลูกค้า ข้อตกลงซื้อกิจการนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของเรา ได้แก่ เสริมทัพทรัพย์สินทางปัญญา เพิ่มรายได้จากธุรกิจ BFSI เป็นสองเท่า และขยายธุรกิจในยุโรป ทั้งนี้ เราหวังที่จะให้การต้อนรับบุคลากรของ Target Group สู่ครอบครัว Tech Mahindra"
แพดดี้ ไบร์น ประธานของ Target Group กล่าวว่า "Target Group ได้มุ่งไปที่การเสริมสร้างความเชี่ยวชาญในแวดวงเงินกู้ การลงทุน และประกันภัย เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในแต่ละตลาดที่เราดำเนินงาน เราเติบโตขึ้นอย่างมากตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ด้วยการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายปัจจุบันอย่าง Pollen Street Capital โดยเราหวังที่จะได้เห็นบริษัทเติบโตต่อไปในระยะต่อไป ทั้งนี้ การผนึกกำลังกับบริษัทที่มีมูลค่าสูงถึง 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอย่าง Tech Mahindra นั้น จะเปิดโอกาสให้เราสามารถให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ผ่านการยกระดับโซลูชั่นและบริการของเรา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราได้สร้างทีมบริหารที่แข็งแกร่งและมีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งทำให้แบรนด์ของเราได้รับความไว้วางใจในตลาดที่เราดำเนินงาน และเรายินดีที่จะได้มีโอกาสขับเคลื่อนบริการที่ผสานกันระหว่าง Target Group/Tech Mahindra ให้ครอบคลุมภาคส่วนและภูมิภาคใหม่ๆ ในตลาดการธนาคาร บริการทางการเงิน และการประกันภัย"
Tech Mahindra เป็นส่วนหนึ่งของ Mahindra Group เครือบริษัทที่มีมูลค่า 1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีพนักงานรวมกันกว่า 200,000 คนในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เครือบริษัทดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมหลักๆที่มีส่วนขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเป็นผู้นำในแวดวงรถแทรกเตอร์ รถยนต์อเนกประสงค์ เทคโนโลยีสารสนเทศ ธุรกิจตลาดหลังการขาย และ บริการที่พักแบบ vacation ownership
รับชมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อรู้จักเราให้มากขึ้นได้ที่ http://www.techmahindra.com
แพลตฟอร์มเทคโนโลยีการเงินอันล้ำสมัยของเราได้รับความไว้วางใจให้บริหารจัดการทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2.4 หมื่นล้านปอนด์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าของเราสามารถปรับขั้นตอนทำงาน การบริการ และจัดการเงินกู้ การลงทุน และการประกันภัยที่มีความสำคัญและซับซ้อนให้ทำงานแบบอัตโนมัติ เรามอบข้อได้เปรียบในการแข่งขันและโอกาสในการเติบโตที่วัดผลได้ โดยนอกเหนือจากบริการ BPO และโซลูชั่นซอฟต์แวร์แล้ว Target ยังจะใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญเชิงลึกเพื่อคอยให้คำแนะนำในเรื่องของการปรับปรุงกระบวนการทำงาน การสอบทานธุรกิจ และการปฏิบัติงานให้สอดคล้องมาตรฐาน
ปัจจุบัน ระบบของ Target มีการประมวลผลบัญชีกว่า 18 ล้านรายการ พร้อมบันทึกการชำระเงินแบบหักบัญชีเป็นจำนวน 3 พันล้านปอนด์ในแต่ละปี ในนามของลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Target Group สามารถรับชมได้ที่ http://www.targetgroup.com
ติดต่อ
Vikas Jadhav
หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์
โทร +91 20 42252839
อีเมล: [email protected]
[email protected]
Chris Tuite
รองผู้อำนวยการ
MRM
โทร: 0203 326 9925 / 07471 350 810
อีเมล: [email protected]
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศความร่วมมือล่าสุดกับ Meta Platforms, Inc. และ Facebook ประเทศไทย ผ่านกิจกรรมการอบรมให้ความรู้มุ่งเน้นการเสริมสร้างการปกป้องธุรกิจและทรัพย์สินแบรนด์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน 2568 ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ภาคธุรกิจมีความรู้และมีเครื่องมือในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา (IP) อาทิ เครื่องมือป้องกันสิทธิ์แบรนด์ (Brand Rights Protection) และเครื่องหมายการตรวจสอบยืนยัน หรือ Meta Verified เป็นต้น โดยส่งเสริมให้ภาคธุรกิจนำไปใช้
กรมทรัพย์สินทางปัญญาหารือร่วมกับเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ผลักดันการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ
—
กรมทรัพย์สินทางปัญญาจัดกา...
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับ FAO หนุนพัฒนา GI ภูฏานผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ต่อยอดการส่งเสริมสินค้า GI ไทยสู่ตลาดโลก
—
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ให้การต้อน...
ซานริโอ เปิดตัวแคมเปญระดับภูมิภาค มุ่งเสริมสร้างการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
—
กรุงเทพฯ, 19 มีนาคม 2568 ซานริโอ (Sanrio) ประกาศเป...
กรมทรัพย์สินทางปัญญาจับมือองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกและ CEA นำร่องสร้างดัชนีชี้วัดซอฟต์พาวเวอร์ไทย
—
กรมทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกับองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโ...
MBK ร่วมกับ กรมทรัพย์สินทางปัญญา หน่วยงานภาครัฐในประเทศและต่างประเทศ หารือแนวทางป้องกันและเดินรณรงค์ต่อต้านการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
—
เอ็ม บี เค ...