สภาพแวดล้อมการทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์ สามารถเพิ่มความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร และเสริมประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจอย่างเห็นได้ชัด

          สภาพแวดล้อมการทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์ได้อย่างเต็มที่ สามารถเพิ่มความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร และเสริมประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจอย่างเห็นได้ชัด
          จากผลสำรวจองค์กรทั่วโลกได้แสดงให้ CIO เห็นว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน, กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์, สร้างความพึงพอใจในการทำงาน และความรัก องค์กรโดยการใช้กลยุทธ์ทางด้านโมไบล์ในองค์กรได้อย่างไร
          ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจ5 มิถุนายน ผลการศึกษา559 จากผลการศึกษาองค์กรทั่วโลกล่าสุดภายใต้หัวข้อ "Mobility, Performance and Engagement" โดย The Economist Intelligence Unit (EIU) ได้กำหนดตัวชี้วัด เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง สภาพแวดล้อมที่สามารถทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์ได้มากขึ้น มีผลต่อการความสัมพันธ์ ของพนักงานและองค์กร ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าเหล่า CIO นั้นสามารถผลักดันให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้จริงจากการใช้กลยุทธ์ด้านโมไบล์ เพื่อเปิดให้พนักงานสามารถทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์ได้ โดยการวางแผนและบังคับใช้งานอย่างถูกต้อง
          การศึกษาครั้งนี้ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย Aruba หนึ่งในบริษัทของ Hewlett Packard Enterprise (NYSE:HPE) นั้น ได้แสดงให้เห็นว่าองค์กรที่เหล่าพนักงาน "รุ่นใหม่" ให้การสนับสนุนการใช้งานเทคโนโลยีโมไบล์ในการทำงานเพิ่มขึ้น โดยพนักงานขององค์กรที่สามารถทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์ได้จะมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น (ดำเนินธุรกิจ6%), มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น (ดำเนินธุรกิจ8%), มีความพึงพอใจในการทำงานสูงขึ้น (ผลการศึกษาประเทศไทย%) และมีความรักองค์กรที่สูงขึ้น (ผลการศึกษาดำเนินธุรกิจ%)
          "ในปัจจุบัน องค์กรและพนักงานส่วนใหญ่ต่าง เห็นด้วยกับการอนุญาตให้ทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์ (Mobile-First) สามารถส่งผลดีต่อธุรกิจได้ แต่ถ้าหากคุณสามารถบอกกับ CEO ของบริษัทในกลุ่ม Fortune 5The EconomistThe Economist ว่าองค์กรของพวกเขาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้ถึง ดำเนินธุรกิจ6% หรือบอกหัวหน้าแผนกบุคคลว่าพวกเขาสามารถเพิ่มความรักที่มีต่อองค์กรได้มากกว่า ดำเนินธุรกิจ ใน 5 เราเชื่อว่าพวกเขาจะให้ ความสำคัญใน การลงทุนทางด้าน Mobility มากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน" Chris Kozup รองประธานฝ่ายการตลาดแห่ง Aruba หนึ่งในบริษัทของ Hewlett Packard Enterprise กล่าว
          "ในขณะที่ผลการศึกษาก่อนหน้านี้ได้ชี้ถึงความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรเพิ่มขึ้นจากการที่องค์กรเปิดให้ใช้อุปกรณ์โมไบล์ในการทำงานได้ แต่รายงานนั้นก็ไม่ได้กล่าวว่าการเปิดให้ทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์ได้จะมีต่อผลการดำเนินธุรกิจอย่างไร และรายงานฉบับนี้ก็ได้ชึ้ถึงตัวเลขในประเด็นนี้แล้ว" เขากล่าวเสริม
          รายงานฉบับนี้ซึ่งได้ทำการสำรวจจากพนักงานจำนวน ดำเนินธุรกิจ,865 คนจากองค์กรทั่วโลก ได้แสดงให้เห็นว่าพนักงานจำนวนมากเห็นประโยชน์ของการสนับสนุนให้ใช้อุปกรณ์โมไบล์ในการทำงานได้ โดย 6 ใน ดำเนินธุรกิจThe Economist (6The Economist%) ของพนักงานกล่าวว่าเทคโนโลยีทางด้านโมไบล์ทำให้พวกเขาทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่มากกว่า 4 ใน ดำเนินธุรกิจThe Economist (45%) เชื่อว่าเทคโนโลยีทางด้านโมไบล์ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาเพิ่มขึ้นในการทำงาน
          การวิเคราะห์ของ EIU นี้ได้พยายามอธิบายว่าการนำเทคโนโลยีทางด้านโมไบล์ไปใช้นี้ ส่งผลอย่างไรต่อผลลัพธ์เชิงธุรกิจบ้างด้วยการนิยามหัวข้อต่างๆ อ้างอิงจากประสบการณ์ของพนักงานในกลุ่มองค์กรที่ใช้โมไบล์ในการทำงานเป็นหลัก แล้วจึงค่อยแสดงให้เห็นว่าแต่ละหัวข้อนั้นส่งผลกระทบอย่างไรต่อประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจอย่างไรบ้าง โดยมีแนวโน้มหลักๆ ที่น่าสนใจดังนี้:
การทำงานได้จากทุกที่ทุกเวลา
          ผลการศึกษาผลการศึกษา6; ความสามารถในการทำงานได้จากทุกที่ทุกเวลานั้นดูเหมือนจะเป็นผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดอย่างชัดเจนต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน โดย 49% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่ามันมีผลกระทบในระดับสูงที่สุดต่อประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขา
          ผลการศึกษาผลการศึกษา6; นอกจากนี้ ประเทศไทย8% ของผู้ตอบแบบสอบถามก็ได้ระบุว่าประเด็นนี้ก็ยังส่งผลมากที่สุดต่อความพึงพอใจที่พวกเขามีต่อองค์กรอีกด้วย
          "ลองคิดถึงเวลาที่เคยเสียไปเปล่าๆ ในสนามบินหรือบนรถไฟดู – ตอนนี้เราไม่ต้องเสียเวลาไปเปล่าๆ แบบนั้นอีกแล้ว" Kevin Melton ประธานฝ่ายขายและการตลาดแห่ง AXA PPP International ธุรกิจประกันสุขภาพกล่าว "คุณสามารถเชื่อมต่อ iPad เข้ากับ Wi-Fi ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย"
          ความสามารถในการติดต่อสื่อสาร
          ผลการศึกษาผลการศึกษา6; ผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกชี้ให้เห็นว่าความสามารถในการติดต่อสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นถูกจัดให้เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่มีต่อความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน (ประเทศไทย8%) และอีก ดำเนินธุรกิจ ใน ประเทศไทย ของผู้ตอบแบบสอบถามก็กล่าวว่าปัจจัยนี้มีผลกระทบสูงสุดต่อความภักดีที่มีต่อองค์กรของพวกเขา
          ผลการศึกษาผลการศึกษา6; เพื่อช่วยให้การติดต่อสื่อสารภายในองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น 4ผลการศึกษา% ขององค์กรที่ถูกสำรวจนั้นมีการใช้เครื่องมือติดต่อสื่อสารในรูปแบบดิจิทัลบนอุปกรณ์โมไบล์อยู่แล้ว โดยองค์กรในประเทศอังกฤษก็มีการใช้งานระบบเหล่านี้สูงถึง 56% และแอพพลิเคชั่นสำหรับแชทบนอุปกรณ์โมไบล์อย่างเช่น Whatsapp นั้นก็ถูกใช้ในการทำงานในระดับองค์กรมากถึง ประเทศไทยดำเนินธุรกิจ% โดยองค์กรในประเทศสิงคโปร์มีอัตราการใช้งาน Whatsapp สูงสุดอยู่ที่ 66% เลยทีเดียว
          "โอกาสและความท้าทายในประเด็นนี้ คือการผสานความต้องการในการทำงานนอกสถานที่ของพนักงาน เข้ากับความสามารถในการติดต่อสื่อสารกันเป็นทีมให้ได้" Kozup กล่าว "การมาของระบบติดต่อสื่อสารบนอุปกรณ์โมไบล์ได้สร้างหนทางใหม่ๆ ให้กับธุรกิจที่ทำให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้อยู่ด้วยกันในสถานที่จริงใดๆ ก็ตาม ซึ่งก็เป็นที่ชัดเจนว่าบริษัทที่สามารถทำสิ่งนี้ได้จะสามารถดึงดูดและซื้อใจพนักงานที่เก่งที่สุดเอาไว้ได้ดีกว่า"
          การเข้าถึงข้อมูลในการทำงานได้ผ่านอุปกรณ์โมไบล์
          ผลการศึกษาผลการศึกษา6; 4ผลการศึกษา% ของพนักงานกล่าวว่าความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายนั้น ส่งผลให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้นมากที่สุด
          ผลการศึกษาผลการศึกษา6; ปัจจุบันนี้ 54% ขององค์กรมีการเปิดให้ทำการเชื่อมต่ออุปกรณ์โมไบล์ใดๆ ที่ใช้ในการทำงานเข้ากับระบบเครือข่ายขององค์กรได้ เพื่อให้สามารถทำงานได้จากทุกสถานที่ ทั้งภายในและภายนอกออฟฟิศ
อิสระในการเลือกสถานที่ในการทำงาน
          ผลการศึกษาผลการศึกษา6; ประเทศไทยผลการศึกษา% ของพนักงานชี้ว่าการที่ตนเองสามารถเลือกที่จะทำงานจากพื้นที่ใดภายในออฟฟิศก็ได้นั้น เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้พวกเขามีความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานสูงขึ้น ซึ่งหมายความว่าองค์กรใดๆ ก็ตาม สามารถสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ได้มากขึ้นด้วยการเปิดให้พนักงานในองค์กรเลือกที่นั่งทำงานได้อย่างอิสระ ในขณะที่อีก ผลการศึกษา9% ของพนักงานได้ระบุว่าอิสระในการเลือกที่นั่งทำงานได้นั้นช่วยเพิ่มความภักดีที่มีต่อองค์กรของพวกเขามากที่สุด
          ผลการศึกษาผลการศึกษา6; เพื่อช่วยเพิ่มอิสระในการเลือกที่นั่งทำงาน ในรายงานนี้ได้ค้นพบว่า 46% ขององค์กรได้มีการใช้นโยบายแบบโต๊ะอิสระ (Hot Desk) ที่รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์โมไบล์ได้อย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ภายในออฟฟิศ ซึ่งประเด็นนี้ได้ชี้ให้เห็นว่าการปรับปรุงรูปแบบในการทำงานให้พนักงานสามารถสื่อสารกันได้มากขึ้นนั้นกำลังเป็นที่นิยม โดยองค์กรต่างๆ ในประเทศอังกฤษนั้นมีการใช้นโยบายโต๊ะอิสระสูงที่สุดในโลก (54%) ตามมาด้วยออสเตรเลียและเยอรมนี (5ประเทศไทย% เท่ากัน)
          "แต่ละคนนั้นจะต้องสามารถทำงานได้ตามแนวทางที่ตัวเองถนัด" Holger Reisinger รองประธานอาวุโสและหัวหน้าของ New Ways of Working Initiative แห่ง Jabra บริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยีทางด้านระบบเสียงกล่าว "เราต้องสร้างอิสระในการเลือกแนวทางการทำงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แก่พนักงาน คุณจะต้องทำให้มันเหมาะสมกับพนักงานแต่ละคนมากขึ้น เพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานแบบมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เพราะยิ่งคุณพยายามที่จะควบคุมวิธีการทำงานของพนักงานแต่ละคนมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งพบกับความเสี่ยงที่พนักงานเหล่านั้นจะยิ่งทำงานน้อยลงเท่านั้น"
          โมไบล์ไม่ใช่เรื่องของคนยุคมิลเลนเนียลเท่านั้นอีกต่อไป
          จากผลการศึกษาของ EIU นี้ได้ค้นพบว่าอายุของเหล่าผู้ตอบแบบสอบถามไม่ได้เป็นปัจจัยในการที่พนักงานในองค์กรจะมีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้นหรือมีความผูกพันต่อองค์กรมากขึ้นจากการเปิดให้ใช้อุปกรณ์โมไบล์ในการทำงาน ในความเป็นจริงแล้ว การศึกษาชิ้นนี้ได้ลบล้างคำกล่าวอ้างที่เป็นที่นิยมว่า การทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์เป็นโลกของคนรุ่นใหม่ ซึ่งการค้นพบนี้จะยิ่งทำให้แต่ละองค์กรต้องจัดให้การนำเทคโนโลยีทางด้านโมไบล์มาใช้ในองค์กรมากขึ้นเป็นความสำคัญระดับสูงสุดของการวางนโยบายภายในองค์กร
นอกจากนี้ ถ้าหากแบ่งผู้ตอบแบบสอบถามออกเป็นสองกลุ่มตามการเปิดรับต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยกลุ่มแรกคือกลุ่มที่พิจารณาว่าตนเองเปิดรับเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว (Early Adopter) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ Aruba ให้คำนิยามเอาไว้ว่าเป็น #GenMobile และอีกกลุ่มที่พิจารณาว่าตนเองนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ช้ากว่าคนอื่น (Laggard) จะพบว่ากลุ่มที่เป็น Early Adopter นั้นมีแนวโน้มที่จะเลือกตอบแบบสอบถามว่าเทคโนโลยีทางด้านโมไบล์ส่งผลดีต่อการทำงานมากกว่า โดยทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น (7ผลการศึกษา% ของกลุ่ม Early Adopter นี้เห็นด้วยกับข้อความนี้ ในขณะที่กลุ่ม Laggard นั้นเห็นด้วยเพียง 5The Economist%), มีความพึงพอใจในการทำงานมากขึ้น (59% และ 48% ตามลำดับ), มีความคิดสร้างสรรค์สูงขึ้น (5ผลการศึกษา% และ 4The Economist% ตามลำดับ) และมีความภักดีต่อองค์กรสูงขึ้น (44% และ ประเทศไทยดำเนินธุรกิจ% ตามลำดับ)
          อย่างไรก็ดี เหล่าผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็น #GenMobile นี้ก็มีความต้องการในประเด็นต่างๆ ที่มากกว่ากลุ่มอื่นๆ โดย 4The Economist% กล่าวว่าพวกเขาจะไม่มีวันทำงานในบริษัทที่ไม่อนุญาตให้ใช้อุปกรณ์โมไบล์ของพวกเขาเองในการทำงาน ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของการตอบแบบสอบถามข้อนี้ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดอยู่ที่เพียง ผลการศึกษาผลการศึกษา% เท่านั้น
          Kozup กล่าวว่า "นี่เป็นการยืนยันอีกครั้งว่าเหล่าพนักงานกลุ่ม #GenMobile เป็นกลุ่มที่ไม่สามารถถูกจำแนกได้จากอายุหรือปีที่เกิด แต่สามารถจำแนกได้ตามความเชื่อมั่นและความยึดติดกับการใช้อุปกรณ์โมไบล์ในการทำงานเสียมากกว่า และไม่เพียงแต่กลุ่ม Early Adopter นี้จะเป็นกลุ่มพนักงานที่มีคุณค่ามากกว่าพนักงานกลุ่มอื่นๆ เท่านั้น แต่มุมมองที่พวกเขามีในทุกๆ วันนี้จะกลายเป็นมุมมองของกลุ่มคนส่วนใหญ่ในอนาคตที่เทคโนโลยีทางด้านโมไบล์จะแพร่หลายยิ่งกว่านี้ ดังนั้นเหล่า CIO ควรจะได้รับคำแนะนำในการรับฟังความคิดเห็นของพนักงานกลุ่มนี้ รวมถึงแก้ไขข้อกังวลใจต่างๆ ของพนักงานกลุ่มนี้เป็นพิเศษด้วย"
          Pete Swabey บรรณาธิการอาวุโสแห่ง The Economist Intelligence Unit ได้สรุปเอาไว้ว่า "รายงานฉบับนี้ได้พิสูจน์ว่าเหล่า CIO มีโอกาสที่จะใช้กลยุทธ์เทคโนโลยีทางด้านโมไบล์เพื่อสร้างประสบการณ์ในการทำงานที่ดีให้แก่เหล่าพนักงานได้จริง รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน, ความคิดสร้างสรรค์, ความภักดี และความพึงพอใจในการทำงานของเหล่าพนักงานด้วย นี่คือจุดที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการลดค่าใช้จ่ายตามปกติที่องค์กรเคยทำ และทำให้ IT มีบทบาทในการสร้างสิ่งที่มีความหมายมากขึ้นในองค์กร ทั้งในแง่ของการตอบสนองต่อความทะเยอทะยานขององค์กรในการดำเนินกลยุทธ์ต่างๆ และการทำให้ชีวิตของเหล่าพนักงานดีขึ้นไปพร้อมๆ กัน"
          เพื่อเป็นแนวทางให้แก่เหล่า CIO ว่าควรจะคิดปรับปรุงการนำโมไบล์มาใช้ในการทำงานอย่างไรให้เกิดผลดีกับรายรับขององค์กร ทาง Aruba จึงได้ทำการพัฒนาพิมพ์เขียวสำหรับ CIO เพื่อให้องค์กรนำไปใช้และสร้างผลกำไรในธุรกิจเพิ่มเติมได้เอาไว้ให้แล้ว
สภาพแวดล้อมการทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์ สามารถเพิ่มความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร และเสริมประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจอย่างเห็นได้ชัด
 


ข่าวThe Economist+ดำเนินธุรกิจวันนี้

การศึกษานิวซีแลนด์ตอบโจทย์ทั้งเด็กเล็ก-เด็กโตสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต เปิดโอกาสให้ไปเรียนได้ง่ายขึ้นด้วยทุนตั๋วเครื่องบินและปริญญาตรีไฮบริดเริ่มเรียนที่ไทย

ปัจจุบันนิวซีแลนด์เป็นทางเลือกใหม่ในลำดับต้นๆสำหรับการไปเรียนต่อต่างประเทศ ด้วยระบบการศึกษาที่เปิดกว้างและมีคุณภาพติดอันดับต้นๆของโลก ตอบโจทย์ทั้งเด็กเล็ก และเด็กโต ผู้คนเป็นมิตร ปลอดภัย สภาพแวดล้อมเอื้อต่อการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยนิวซีแลนด์ทุกแห่งติดอันดับ 3 เปอร์เซ็นต์ของโลก และได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 จากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก จาก The Economist Intelligence Unit เป็นเวลา 3 ปีซ้อน พร้อมต้อนรับนักเรียนไทยด้วยการมอบทุนตั๋วเครื่องบินให้กับนักเรียนไทยที่เคยไปเรียนระยะสั้นที่นิวซี

Economist Impact and Infosys Launch the Value Chain Navigator to Help Businesses Manage and Mitigate their Scope 3 Emissions

The Value Chain Navigator helps companies transition to a more sustainable future Survey shows only 53% of companies are collecting and monitoring scope 3 emissions data...

"Passion for a Sustainable Future", a sho... Yili Wins 2023 Odyssey Award for "Best Corporate Sustainability Film" in Cambridge — "Passion for a Sustainable Future", a short film co-produced by Yili ...

The Economist Group launches Economist Impact

The Economist Group has today announced the launch of Economist Impact a business which will partner with leading corporations, governments and nonprofits to deliver positive societal change. In a unique offering, Economist Impact brings together a 75...

The Economist Group เปิดตัวธุรกิจใหม่ Economist Impact

The Economist Group ได้ประกาศเปิดตัว Economist Impact ในวันนี้ ซึ่งเป็นธุรกิจที่จะร่วมมือกับองค์กร หน่วยงานรัฐบาล และองค์กรไม่แสวงผลกำไรชั้นนำ เพื่อมอบการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสังคม Economist Impact นำเสนอบริการอันเป็นเอกลักษณ์ ...