6 แบงก์ร่วมผนึกกำลังเป็นครั้งแรก ในการวางเครื่องรับบัตรกว่า 400,000 เครื่อง เพื่อลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน

13 Jun 2016
6 แบงก์ร่วมผนึกกำลังเป็นครั้งแรก ในการวางเครื่องรับบัตรกว่า 400,000 เครื่อง เพื่อลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน หนุนนโยบาย National E-Payment พร้อมลดค่าใช้จ่ายให้ร้านค้า และเพิ่มความสะดวกให้แก่ประชาชน
6 แบงก์ร่วมผนึกกำลังเป็นครั้งแรก ในการวางเครื่องรับบัตรกว่า 400,000 เครื่อง เพื่อลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน

6 ธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน ร่วมผนึกกำลังเป็นครั้งแรกในการร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มประสิทธิภาพระบบการชำระเงินของประเทศไทย เตรียมแผนการติดตั้งเครื่องรับบัตรร่วมกันกว่า 400,000 เครื่องทั่วประเทศ เพื่อลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านค้าติดตั้งเครื่องรับบัตรได้ในราคาที่ถูกลง ลดภาระค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมจากการติดตั้งเครื่องรับบัตร หนุนให้เกิดการใช้จ่ายผ่านบัตรอย่างแพร่หลายตามนโยบาย National E-Payment โดยงานลงนามจัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ณ โรงแรม พลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน

ภายใต้ความร่วมมือนี้ ธนาคารทั้ง 6 แห่งตกลงจะร่วมมือกันในการสนับสนุนโครงการขยายเครื่องรับบัตร ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติของรัฐบาล (National E-Payment Master Plan) ลดการใช้เงินสดโดยกระตุ้นการจ่ายเงินผ่านบัตร ลดภาระค่าใช้จ่ายของร้านค้า พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพและรองรับนวัตกรรมทางการเงินของประเทศไทยในอนาคต ด้วยการวางเครื่องรับบัตรซึ่งมีทั้งเครื่องอีดีซี และเครื่องรับบัตรผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต (mPOS) ให้กับร้านค้า และบริษัทภาคเอกชนทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ในเบื้องต้นจะวางในจุดที่ได้รับรายชื่อจากกระทรวงการคลังเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้าถึงการใช้งานได้ง่าย และครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ โดยเครื่องรับบัตรที่จะนำไปติดตั้งนั้นจะสามารถรับได้ทั้งบัตรเดบิตและบัตรเครดิต รวมฟังก์ชั่นการใช้งานพิเศษต่างๆ ในเครื่องเดียว ทำให้เครื่องรับบัตรของธนาคารสมาชิก 1 เครื่องสามารถรับบัตร และใช้ฟังก์ชั่นพิเศษของบัตรที่เป็นของธนาคารสมาชิกด้วยกัน

ประโยชน์จากโครงการนี้ จะส่งผลให้ผู้ประกอบการ ร้านค้าได้รับความสะดวกในการติดตั้งเครื่องรับบัตรอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน อาทิ 1) เพิ่มประสิทธิภาพในการรับชำระเงินมากยิ่งขึ้น 2) ลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเครื่องรับบัตร และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการบำรุงรักษา 3) ลดภาระค่าธรรมเนียมร้านค้า หรือ MDR โดยธนาคารสมาชิกมีแผนจะลดอัตราค่าธรรมเนียมของบัตรเดบิตให้ต่ำลงกว่าค่าธรรมเนียมในปัจจุบันโดยเฉพาะค่าธรรมเนียมของบัตรเดบิตที่เป็นของธนาคารสมาชิก ขณะเดียวกันผู้บริโภคจะได้รับความสะดวก และความปลอดภัยในการใช้จ่าย ด้วยเครื่องรับบัตรที่จะมีการติดตั้งเพิ่มเติมอีกกว่า400,000 เครื่อง รวมทั้งเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ อาทิเช่น เทคโนโลยี Chip & Pin นอกจากนั้นธนาคารสมาชิกยังมีแผนที่จะร่วมกันจัดทำกิจกรรมด้านการตลาด เช่น สิทธิพิเศษ และโครงการ co-promotion ต่างๆ เพื่อเพิ่มผลประโยชน์ที่น่าสนใจให้กับผู้ใช้บัตรรวมถึงร้านค้าอีกด้วย

ทั้งนี้ ธนาคารทั้ง 6 แห่งมีความพร้อมที่จะดำเนินการโครงการนี้อย่างเต็มที่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรอให้กระทรวงการคลังมีข้อสรุปเกี่ยวกับการมอบหมายผู้รับผิดชอบโครงการก่อน การจับมือในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนให้ระบบการชำระเงินของไทยพัฒนาสู่ระดับสากลมากขึ้น โดยจะอำนวยความสะดวกให้กับร้านค้า และลูกค้า พร้อมทั้งกระตุ้นการใช้จ่ายผ่ายบัตร อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ และรองรับนวัตกรรมทางการเงินของประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย นอกจากนี้ธนาคารสมาชิกทั้ง 6แห่งมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเปิดรับธนาคารอื่นที่สนใจเข้าร่วมมือในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านเครื่องรับบัตรให้กับประเทศเพื่อเพิ่มศักยภาพของกลุ่มสมาชิกอีกด้วยจากภาพซ้ายไปขวา· นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)· นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)· นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)· นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)· นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)· นายอิสระ วงศ์รุ่ง รองผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าบุคคล