ไทยเตรียมพร้อมประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหาร เสริมสร้างความร่วมมือ-เผยแพร่หลักเศรษฐกิจพอเพียง

          สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เตรียมความพร้อมการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหาร ในเดือนกันยายน ณ ประเทศเปรู เผย เป็นโอกาสดีของไทยจะได้ร่วมหารือ รวมทั้งเผยแพร่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อร่วมส่งเสริมความมั่นคงอาหารอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
          นางจันทร์ธิดา มีเดช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค (The APEC Food Security Ministerial Meeting) ซึ่งเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีของสมาชิกเอเปคเพื่อสร้างเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงอาหารระหว่างกันภายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ว่าการประชุมดังกล่าว มีกำหนดจัดขึ้นทุก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี โดยที่ผ่านมามีการประชุมไปแล้ว ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ครั้ง โดยครั้งแรก เมื่อปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์55ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ณ เมืองนิอิกาตะ ประเทศญี่ปุ่น ครั้งที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์555 ณ เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย และครั้งที่ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์557 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
          สำหรับปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์559 การประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหาร มีกำหนดจะจัดขึ้นที่เมืองเพียวร่า (PIURA) ประเทศเปรู ระหว่าง วันที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์6-กระทรวงเกษตรและสหกรณ์7 กันยายน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์559 โดยหัวข้อหลักของการประชุม คือ "การส่งเสริมตลาดในภูมิภาค" ซึ่งสอดคล้องกับหนึ่งในประเด็นสำคัญหลักของเอเปค โดยจะมีการหารือและดำเนินการใน 4 ประเด็น ได้แก่ ความยั่งยืน การเข้าถึงตลาด การลงทุนและโครงสร้างพื้นฐาน และการบริการที่เกี่ยวข้องกับตลาดอาหาร ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะบรรจุไว้ในปฏิญญาความมั่นคงเอเปค ที่รัฐมนตรีเอเปคให้การรับรองในการประชุมดังกล่าวด้วย
          ทั้งนี้ สศก. อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมของข้อมูลในการประชุมดังกล่าวให้ครอบคลุมทั้ง 4 ประเด็นที่จะหารือร่วมกัน ซึ่งการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปคในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสที่ไทยจะได้ร่วมหารือในการกำหนดนโยบายของเอเปค และผลักดันนโยบายด้านความมั่นคงอาหารของไทย ตลอดจนเผยแพร่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะเป็นแนวทางส่งเสริมความมั่นคงอาหารอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกต่อไป รองเลขาธิการ กล่าวทิ้งท้าย