แพรดาว พานิชสมัย กล่าวถึงความภาคภูมิใจในประเทศไทยว่า "มัดมุกรู้สึกภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย และได้เรียนที่โรงเรียนจิตรลดา ตั้งแต่อนุบาล ๑ ถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ยิ่งมีความเข้าใจต่อคุณค่าความเป็นคนไทย ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์" พร้อมทั้งได้กล่าวถึงโครงการ "ภาคภูมิแผ่นดินไทย" ว่า "รู้สึกว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์ สอนให้เราและคนรุ่นต่อๆ ไปได้เรียนรู้ถึงความเป็นไทย และสะท้อนให้คนรุ่นใหม่รู้จักกตัญญูต่อประเทศ และแผ่นดินเกิด เราควรจะเอาความเป็นไทย รวมพลังคนไทย มาพัฒนาให้ประเทศเจริญก้าวหน้าไปในทุกๆ ด้าน"
แดน เหตระกูล กล่าวถึงความภาคภูมิใจในประเทศไทยว่า "ได้ร่วมแสดงโขนกับคณะโขนของโรงเรียนอัสสัมชัญกรุงเทพ ที่ได้จัดแสดงร่วมกับสถานทูตไทยประจำประเทศแคนาดาในเมื่อตอนผมอยู่มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ซึ่งเป็นการแสดงโขนเทิดพระเกียรติในหลวง ครองราชย์ครบ ๕๐ ปี ณ โรงละครโอเปราฮอลล์ กรุงออตาวา ประเทศแคนนาดา โครงการ "ภาคภูมิแผ่นดินไทย" จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลัง ได้ภาคภูมิใจในแผ่นดินไทย และจำเป็นต้องสร้างความภูมิใจนี้จากรุ่นสู่รุ่นอย่างต่เนื่องไม่ขาดสาย เรื่องราวของบรรพบุรุษเป็นเสมือนการต่อแสงเทียนให้ประเทศไทยสว่างไสว นำทางให้มวลชนมีกำลังใจสร้างความภาคภูมิใจต่อแผ่นดินอย่างไม่รู้จบ"
ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์ กล่าวว่า "ภูมิใจที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย ภายใต้พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างคุณค่าความเป็นไทย ด้วยการเผยแพร่วัฒนธรรมให้เด็กๆ และชาวต่างชาติได้เห็น และรู้สึกเป็นเกียรติในการเข้าร่วมโครงการดีๆเช่นนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ และอยากเชิญชวนคนไทยให้ช่วยกันอนุรักษ์รักษาวัฒนธรรมความดีงามของประเทศไทยให้คนต่างชาติได้ชื่นชม และอยากให้คนในชาติและชาวต่างชาติเห็นมุมมองด้านบวกประเทศที่มีอยู่มากมาย"
ม.ล.อรดิศ ดิศกุล กล่าวว่า "ภูมิใจที่ได้เกิดมาในราชสกุล ดิศกุล ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทยและเสนาบดีองค์แรกของไทย และเกิดมาในราชสกุลฉัตรชัย ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระบิดาแห่งการรถไฟ ซึ่งทั้งสองพระองค์เป็นแบบอย่างของบรรพบุรุษไทยที่รักและหวงแหนแผ่นดินไทย มีความอดทน ซื่อสัตย์ สุจริต จะทำการใดก็เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นหลัก ไม่เคยคิดถึงประโยชน์ของตนเองหรือครอบครัว จึงทำให้แก้วระลึกอยู่เสมอถึงคุณงามความดีที่บรรพบุรุษไทยทุกพระองค์ได้ทำไว้ และคอยอบรมสั่งสอนลูกหลานให้สืบทอดแนวคิดนี้ต่อไปค่ะ"
ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์ กล่าวว่า "ภูมิใจที่สุดที่ได้เกิดเป็นคนไทย เกิดบนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ ที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงธรรม มีพระพุทธศาสนาเป็นปึกแผ่นมั่นคง ทุกวันนี้คิดเสมอว่าต้องตอบแทนพระคุณแผ่นดิน พระมหากษัตริย์และศาสนา โดยตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ และทุกๆ ปี ที่บริษัทที่ทำงาน นำรายได้จำนวนหนึ่งคืนสู่สังคม เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ขาดโอกาส เธอรู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งโครงการ "ภาคภูมิแผ่นดินไทย" ทำให้คนไทยได้ตระหนักถึงสิ่งดีๆ ที่เราจะได้รับจากแผ่นดินเกิด ดังนั้นเราควรตอบแทนและภาคภูมิใจในความเป็นไทย และเผยแพร่สิ่งดีๆ เหล่านี้ ให้คนทั่วโลกได้ทราบ"
ทั้งนี้ โครงการ "ภาคภูมิแผ่นดินไทย" เติมความภูมิใจให้เต็มชาติ เป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศร่วมกัน "สืบค้น-เก็บรวบรวม-จารึก-ส่งต่อ" เรื่องราวความภาคภูมิใจของประเทศไทยจัดเก็บไว้เป็นคลังสมบัติดิจิตอล ในเว็บไซต์ที่ชื่อ www.theprideofthailand.com ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการจารึก เพื่อส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ให้ความภาคภูมิใจในความเป็นไทยคงอยู่คู่คนไทยตลอดไป พร้อมกับประกาศเรื่องราวดีงามบนแผ่นดินไทยให้เป็นที่จดจำไปทั่วโลก
โครงการภาคภูมิแผ่นดินไทย เติมความภูมิใจให้เต็มชาติ ขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมกันเก็บเรื่องราวของดี ความคิด วิถีชีวิต และ ภูมิปัญญาไทยที่มีคุณค่าและคุณอยากให้คงอยู่ โดยส่งเรื่องราวเหล่านั้นพร้อมภาพถ่ายหรือวีดิโอคลิปและเขียนคำบรรยายไม่เกิน ๒๐๐ คำ ส่งผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.theprideofthailand.com หรือ ตู้ ปณ ๑ ปณศ.คลองจั่น บางกะปิ กรุงเทพ ๑๐๒๔๐ หรือ ทาง Line Official ภาคภูมิแผ่นดินไทย ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ และติดต่อขอรายละเอียดข้อมูลการส่งเรื่องราวหรือรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐๒-๖๕๘-๐๐๖๓
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit