ความสัมพันธ์พ่อลูกเป็นยังไงบ้างช่วงนี้ ?
เพชร : ดีมากครับ ด้วยความที่ผมเคยทะเลาะกับป๊าใช่ไหมครับ แล้วก็ออกจากบ้านไปประมาณ 10 ปีแล้ว ด้วยความที่ใช้เวลาไตรตรอง ด้วยความที่อายุเรามากขึ้น ประสบการณ์เยอะขึ้นทำให้เราย้อนกลับไปนึกถึงว่าสิ่งที่ป๊าเขาสอน สิ่งที่ป๊าเคยดุเคยว่าผม น่าจะเชื่อนะ ตอนนี้พอโตมาก็ได้มีโอกาสมาเปิดอกนั่งคุยกับป๊า คุยกันเหมือนเพื่อน ผมก็มีเหตุผลมากขึ้น ?พ่ออยู่เชียงใหม่ เราอยู่กรุงเทพ เจอกันบ่อยไหม
เพชร : เดือนหนึ่งก็บ่อยครับ คือ ถ้าป๊ากลับเชียงใหม่ ผมก็โทรเรียกป๊ากลับมาอีกแล้ว ด้วยความที่ผมขี้เหงาครับ (ยิ้ม) ก็อยากให้ป๊าไปกินข้าว ไปเที่ยวด้วยกัน ป๊าเป็นพี่ เป็นเพื่อน เป็นพ่อ เป็นทุกอย่าง
ไกรสร : เมื่อก่อนออกรายการทุกทีมันคิดถึงคุณผึ้ง (พุ่มพวง) เรื่องลูกเรื่องอะไรก็ตาม มันก็สะท้อนเนาะ เป็นอะไรที่เศร้าใจ แต่ตอนนี้ เดี๋ยวนี้มันมีอะไรมายาใจ ต่อจากนี้ไปมันมีแต่ความสนุกสนาน มีแต่เรื่องของอนาคต ทำยังไงให้ลูกเจริญรอยตามคุณผึ้งไป คุยแต่เรื่องงาน ปรึกษาชีวิต ลูกผ่านพ้นชีวิตช่วงที่แย่ มีประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง พ่อมีประสบการณ์มากี่ปีเล่าให้ลูกฟัง ก็กลับมาคุยกันก็เป็นอะไรที่สนิทสนมกันมากขึ้น
มีเรื่องเซอร์ไพร้ส์มีอะไรจะให้เพชร ?
ไกรสร : มันเป็นผลงานเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธ์ของมาม้า(พุ่มพวง) ทั้งหมดไม่ว่าจะร้องเพลงให้บริษัทไหน กับผู้ใดก็ตาม ผมไม่เคยประกาศไม่เคยบอกใครทั้งสิ้น วันนี้ก็จะบอกว่าของทั้งหมดนี้จะให้เพชรเป็นคนดูแล ซึ่งผมดูแลมานานแล้วตั้งแต่คุณผึ้งเสียชีวิต คำสั่งศาลให้ผมเป็นผู้ดูแล เป็นผู้จัดการมรดกทั้งสิ้นของพุ่มพวง ดวงจันทร์ สัญญาต่างๆ เหล่านี้มันเป็นสัญญาที่มาม้าทำกับริษัทต่างๆ ซึ่งมันจะมีข้อความสำคัญอยู่ว่าผลประโยชน์รายได้ต่างๆ ที่บริษัทจะต้องให้มาม้า ให้ผู้จัดการมรดก ม้วนละ 5 บาท เมื่อก่อนเป็นเทป 20 กว่าปีแล้วผมไม่เคยได้เลยนะครับประชาชนที่รัก ผมไม่เคยไปเรียกร้องที่ไหนเลย ไม่เคยได้จากบริษัทใดๆ ก็ตาม เพราะว่าตอนนั้นเป็นข่าวตัวเองก็เหมือนกับโดนโจมตีต่างๆ มากมายก็เก็บตรงนี้ไว้ในหัวใจอยู่คนเดียว วันนี้ถึงเวลาแล้ว ลูกโตแล้ว บรรลุนิติภาวะแล้ว มีความคิดเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะมอบสิ่งนี้ให้ลูกซึ่งมันเป็นผลประโยชน์มหาศาลเลยทีเดียว ลูกจะดำเนินการอย่างไรก็แล้วแต่ กับบริษัทต่างๆ ที่ไม่เคยให้ผลประโยชน์ ลูกโตแล้วจะทำยังไงก้แล้วแต่ อันนี้จะมอบให้ลูกไปจัดการดูแลทั้งหมด
20 กว่าปีที่เราไม่ได้เคยได้เงิน ถ้าตอนนี้ตีเป็นเงินประมาณเท่าไหร่ ?
ไกรสร : ก็คงมหาศาล เอาซะว่าตอน 3 ปีแรกมีหนังสือพิมพ์เคยประมวลภาพ เทปพุ่มพวง ซีดีพุ่มพวงที่ขาย 3 ปีแรกนะ 80 ล้าน แค่ 3 ปีแรกนะ แต่ไม่รู้ขายกันกี่ปีเขาก็ขายกันตามน้ำ บางบริษัทผมไปถาม แค่ถามนะ เขาบอกมีเทปผี ซีดีเถื่อนเขาบอกขายไม่ได้เลย เทปพุ่มพวง 24 ปี ขายไม่ได้เลย ก็โอเคไม่เป็นไร เก็บเอามาไว้ในหัวใจคนเดียว ไม่ได้ทำอะไร วันนี้ก็มาเปิดเผยทุกอย่างให้ประชาชนได้รับทราบ วันนี้ก็มอบให้ลูกทั้งหมด ให้ลูกไปดำเนินการ
เพชร : ขอบคุณป๊ามาก (ยกมือไหว้พ่อ) ยังไงผมก็ต้องขอปรึกษาไม่ว่าจะเป็นป๊า หรือผู้ใหญ่อีกหลายๆ คน ว่าเอกสารมันอะไรยังไงบ้าง เพราะว่าผมยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับเอกสาร
ไกรสร : เอกสารพวกนี้ลูกยังไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้
เพชร : ยังไม่เคยเห็นรู้สึกยังไงกับสิ่งที่พ่อมอบให้ในวันนี้ ?
เพชร : ก็ตกใจครับ ปกติแล้วในสมองของผมไม่เคยคิดถึงเรื่องเอกสาร หรือเรื่องอะไรประมาณนี้ แต่ว่าเท่าที่ผมเคยดูศิลปินเมืองนอกเขานะครับ ไม่ว่าจะเป็นลูกชาย ลูกสาวของคนดัง เขาก็เรียกว่าได้สิทธิ์โดยชอบธรรม แต่ว่าถ้าเป็นส่วนตัวของผม ผมไม่ได้มองถึงเรื่องตรงนั้นเลยนะครับ แต่ว่าผมก็ยังเอะใจเหมือนกันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา 20 กว่าปี ป๊าไม่เคยได้รับอะไรตรงนั้นเลย ป๊าก็ไม่เคยไปเรียกร้องสิทธิ์อะไรด้วย
ไกรสร : ขออีกเรื่องหนึ่งแล้วกันถูกโจมตีมาตลอดเวลาแล้วว่าใช้เงินพุ่มพวงหมด อมเงินลูก ความจริงคือนี่เป็นพินัยกรรมพินัยกรรมที่ทำให้เพชรตั้งแต่ 25 มิถุนายน 2535(ไกรสรให้พิธีกรอ่านพินัยกรรม) "ข้าพเจ้าขอยกทรัพย์สินส่วนตัวของข้าพเจ้าที่มีอยู่ทั้งหมดให้แก่เด็กชายสันติภาพ ลีละเมฆินทร์ข้าพเจ้าขอยกทรัพย์สินที่ข้าพเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งจากกองทรัพย์สินของนางรำพึง ลีละเมฆินทร์ ทั้งที่เป็นส่วนแบ่งสินสมรส และส่วนแบ่งในฐานะทายาทโดยชอบธรรมทั้งหมดให้แก่เด็กชาย สันติภาพ ลีละเมฆินทร์ หากข้าพเจ้าถึงแก่กรรมก่อนที่เด็กชายสันติภาพ ลีละเมฆินทร์ จะบรรลุนิติภาวะ ข้าพเจ้าขอมอบอำนาจปกครองทั้งหมดให้กับนายสะอาด ถนอมงวงศ์(คุณพ่อของไกรสร) และนางมยุรี ถนอมวงศ์ โดยให้นายสะอาด ถนอมวง และนางมะยุรี ถนอมงวงศ์เป็นผู้จัดการมรดกของข้าพเจ้า และเป็นผุ้จัดการทรัพย์สินทั้งปวงของเด็กชายสันติภาพ ลีละเมฆินทร์ จนกว่าเด็กชายสันติภาพ ลีละเมฆินทร์ จะบรรลุนิติภาวะ" นี่คือความเป็นจริงที่ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างผมให้ลูกหมดอยู่แล้ว ลูกก็ไม่รู้ ทะเลาะกันจากไปกี่ปี พินัยกรรมฉบับนี้ก็ยังไม่เคยแก้ตรงไหน ลูกก็ไม่เคยได้รับรู้มาก่อน"
เพชร : อึ้งครับ ตกใจมากแล้วก็ ผมไม่เคยนึกถึงเรื่องอะไรอย่างนี้เลยครับ ผมนึกแค่ว่าอยากให้ป๊ามีความสุข ผมนึกแค่นั้น เพราะว่าตอนนี้ผมไม่มีมาม้าแล้ว เพราะว่าตอนนี้ผมเหลือพ่ออยู่คนเดียว แล้วก็อยากจะขอขอบคุณป๊าอย่างเป็นทางการนะครับ
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit