เอสเอ็มอีแบงก์ ปี 58 กำไรทะลุ 1,339 ล้านบาท เริ่มเดินหน้าร่วมลงทุนได้แล้วปี 59 เน้นทำตามพันธกิจธนาคารเพื่อการพัฒนา ปล่อยกู้ SMEs รายย่อย พัฒนาผู้ประกอบการ และร่วมลงทุน

          ในวันนี้ (2ธนาคารเพื่อการพัฒนา ม.ค. 2559) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ได้แถลงข่าวผลการดำเนินงาน ปี 2558 (ม.ค.-ธ.ค.) โดยนางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการ และ นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ ดังนี้ 
          ธนาคารเพื่อการพัฒนา.กำไรสุทธิ ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2558 ธนาคารมีกำไรสุทธิ ธนาคารเพื่อการพัฒนา,339.54 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ปี 2558 ที่ ธนาคารเพื่อการพัฒนา,226 ล้านบาท ทั้งนี้ เนื่องจากธนาคารปล่อยสินเชื่อที่มีคุณภาพดีได้มากขึ้น ทำให้มีดอกเบี้ยรับเพิ่ม และไม่มีภาระที่ต้องกันสำรองเพิ่ม รวมถึงควบคุมดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายดำเนินการให้อยู่ในระดับไม่สูงเกินไปได้
          2. สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ณ สิ้น ธ.ค.2558 NPLs คงเหลือ 23,452 ล้านบาท (คิดเป็น 27.23% ของสินเชื่อรวม) โดยในปี 2558 NPLs ลดลงจากปี 2557 ที่อยู่ที่ระดับ 3ธนาคารเพื่อการพัฒนา,96ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท(คิดเป็น 37.6ธนาคารเพื่อการพัฒนา% ของสินเชื่อรวม) หรือลดลงเท่ากับ 8,5ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย8 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังจำเป็นแก้ไขปัญหา NPLs อย่างต่อเนื่องให้ไปตามข้อสังเกตของ คนร. ซึ่งธนาคารได้จัดตั้งฝ่ายติดตามดูแลคุณภาพลูกหนี้ (Loan Monitoring) เสร็จแล้ว โดยส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำในทุกสาขาเพื่อติดตามดูแลลูกค้าที่มีคุณภาพอ่อนแออย่างใกล้ชิด ทำให้สามารถรักษาคุณภาพลูกหนี้ไม่ให้ตกชั้นเป็น NPLs ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารยังได้พยายามปรับโครงสร้างลูกหนี้ NPLs ที่ยังดำเนินกิจการอยู่ควบคู่กันไปด้วย
          3. ด้านสินเชื่อ ณ สิ้น ธ.ค.2558 เอสเอ็มอีแบงก์ มียอดเงินให้สินเชื่อรวมคงค้าง 86,ธนาคารเพื่อการพัฒนา28 ล้านบาท ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ 3ธนาคารเพื่อการพัฒนา,394 ล้านบาท ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย ธนาคารเพื่อการพัฒนา2,ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย38 ราย เฉลี่ยการปล่อยกู้ต่อราย 2.6ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท โดย ณ ธนาคารเพื่อการพัฒนา9 ม.ค. 2559 ธนาคารได้ปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ(Soft Loan) เฟส ธนาคารเพื่อการพัฒนา และ เฟส 2 เพื่อช่วยผู้ประกอบการรายย่อย วงเงินรวม 6,8ธนาคารเพื่อการพัฒนา8.45 ล้านบาท 2,ธนาคารเพื่อการพัฒนา7ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ราย โดยแยกเป็นเฟส ธนาคารเพื่อการพัฒนา ปล่อยกู้ 4,235.25 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการพัฒนา,388 ราย เฟส 2 ปล่อยกู้ 2,583.2ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท 782 ราย ซึ่งใน เฟส 2 นั้น วงเงินโดยรวมยังไม่เต็ม ดังนั้นธนาคารจะเร่งดำเนินการเบิกจ่ายเงินกู้ให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ Policy Loan ณ ธนาคารเพื่อการพัฒนา9 ม.ค. 2559 ธนาคารสามารถปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยจำนวน 4,3ธนาคารเพื่อการพัฒนา7.77 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการพัฒนา,258 ราย และกำลังจะเร่งเบิกจ่ายช่วยผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องเช่นกัน รวมเป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 4 % ที่ธนาคารปล่อยไปทั้งสิ้น ธนาคารเพื่อการพัฒนาธนาคารเพื่อการพัฒนา,ธนาคารเพื่อการพัฒนา36 ล้านบาท ให้แก่ผู้ประกอบการ 3,428 ราย
          4. พันธกิจปี 2559 ธนาคารยังคงเน้นภารกิจในการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยโดยตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อที่ 35,ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถช่วยผู้ประกอบการรายย่อย อย่างน้อย ธนาคารเพื่อการพัฒนาธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย,ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ราย วงเงินเฉลี่ยรายละ 3 ล้านบาท และ NPLs ตั้งเป้าลดลงเหลือประมาณ ธนาคารเพื่อการพัฒนา8,ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาทโดยยังคงเน้นใช้ระบบ Loan Monitoring เพื่อป้องกันสินเชื่อตกชั้นโดยจะต้องดำเนินการอย่างเต็มประสิทธิภาพ และจะพยายามปรับโครงสร้างหนี้ให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ ในปี 2559 นี้ ธนาคารจะเน้นการพัฒนาผู้ประกอบการซึ่งถือเป็นภารกิจที่สำคัญของการก่อตั้งธนาคารแห่งนี้ที่จะต้องทำให้เกิดเป็นรูปธรรม เป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาอย่างแท้จริง (SME Development Bank) โดยเน้นช่วยเหลือการให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อสร้างโอกาสการเข้าสู่แหล่งทุน ช่วยสนับสนุนด้านการตลาด การวินิจฉัยสถานประกอบการ ด้านบัญชี และด้านต่างๆที่เป็นข้อจำกัดของ SMEs รวมถึงเชื่อมโยงความช่วยเหลือเป็นภาพรวมครบวงจรกับหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ ให้รอบด้านตรงจุดเป้าหมายความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs นอกจากนี้ภารกิจที่สำคัญอีกด้านคือโครงการร่วมลงทุนซึ่งเป็นปัจจัยที่จำเป็นมากในการพัฒนาผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีแบงก์จะดำเนินโครงการร่วมลงทุน 2,ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท ตามมติ ครม. ซึ่งธนาคารจะมีการปรับโครงสร้างองค์กร และบุคลากร เพื่อให้สามารถทำพันธกิจด้านร่วมลงทุนได้เดินหน้ามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

          ความคืบหน้าของโครงการร่วมลงทุน ขณะนี้ธนาคารได้เริ่มเดินหน้ากองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs (SMEs Private Equity Trust Funds) กองทุนย่อยกองที่ ธนาคารเพื่อการพัฒนา แล้ว โดยวันนี้ธนาคารได้มีการเซ็นสัญญาจะเข้าร่วมลงทุนรายแรกกับ บริษัท ฟรุตต้า เนเชอรัล จำกัด ผู้ผลิตน้ำผลไม้ออแกนิคเพื่อสุขภาพ โดยธนาคารจะร่วมลงทุนในสัดส่วน 26% ของทุนจดทะเบียนตามแผนการลงทุนในกิจการ และคาดว่าจะใส่เงินจริงเข้าร่วมลงทุนได้ประมาณสิ้นเดือนมกราคม 2559 นี้ นอกจากนี้ ทางบริษัท เอสเอส พีพี แคปปิตอลส์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ (Trust Manager) ซึ่งเข้ามาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาแนะนำในกิจการนี้ ก็มีความสนใจจะนำเงินเข้ามาร่วมทุนในลำดับต่อไปด้วยเช่นกัน
          ในวันที่ 2ธนาคารเพื่อการพัฒนา ม.ค 2559 นี้ ธนาคารยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสมาคมสำนักงานบัญชีคุณภาพ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อให้เข้ามาช่วยในด้านการจัดเตรียมข้อมูลให้กับผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนได้เป็นมาตรฐาน ช่วยแนะนำปรับปรุงงบการเงิน แผนธุรกิจ ของผู้ประกอบการ หามูลค่าที่แท้จริงของผู้ประกอบการก่อนเข้าร่วมลงทุน 
          และลงนามบันทึกความร่วมมือกับบริษัท เอ็มดิก โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อเป็นผู้จัดการกองทรัสต์ (Trust Manager)อีกรายหนึ่งของธนาคาร ทั้งนี้เพื่อให้การเข้าร่วมลงทุนของธนาคารสามารถทำได้กว้างขวางและรวดเร็วขึ้น
เอสเอ็มอีแบงก์ ปี 58 กำไรทะลุ 1,339 ล้านบาท เริ่มเดินหน้าร่วมลงทุนได้แล้วปี 59 เน้นทำตามพันธกิจธนาคารเพื่อการพัฒนา ปล่อยกู้ SMEs รายย่อย พัฒนาผู้ประกอบการ และร่วมลงทุน

ข่าวธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย+ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางวันนี้

SME D Bank ลุยโครงการเติมความรู้บัญชีภาษี ปูทางพาเอสเอ็มอีถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำเพียง 3%ต่อปี

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า SME D Bank เดินหน้าภารกิจธนาคารเพื่อการพัฒนา จับมือกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ กรมสรรพากร สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และบริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม "Nex Gen Commerce" จัดโครงการ "ทุนก็มี ภาษีก็รู้ ก้าวสู่ความยั่งยืน" เดินสาย Road Show ในรูปแบบ One Stop Service

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่... SME D Bank รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ องค์กรโดดเด่นขับเคลื่อนเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน — ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ห...