นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant : DW) ในเดือนม.ค. 59 มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนใน DW คึกคัก คิดเป็นสัดส่วนต่อปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบที่ 4.6% โดยหุ้นอ้างอิงในกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนให้ความสนใจซื้อขายสูงสุด 3อันดับแรกอยู่ในกลุ่มดัชนีหลักทรัพย์ 35.9% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค 18.6% กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 15.2%หากแยกรายตัวพบว่า DW ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 มีการซื้อขายสูงสุด 35.9% ของการซื้อขาย รองลงมา DW อ้างอิงกับหุ้น PTT มีสัดส่วน 9.1% และอันดับ 3 เป็น DW ที่อ้างอิงหุ้น ADVANC สัดส่วน 6.8%
"ในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนแตะระดับต่ำสุด (นิวโลว์) ในรอบ 11 ปีที่ระดับ 26 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล พบว่านักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร DW อ้างอิงหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันค่อนข้างมาก จนมูลค่าการซื้อขาย DW ของกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภคขยับขึ้นสูงเป็นอันดับสองของระบบ จากเดิมอยู่อันดับสาม โดยเบียดกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารขึ้นมา ขณะที่ DW อ้างอิงกับดัชนี SET50 ยังคงซื้อขายสูงสุดตามทิศทางตลาดหุ้นผันผวน
นอกจากนี้ เรายังพบว่านักลงทุนหลายท่านเข้าเก็งกำไรใน Call DW ที่มีโมเมนตัมเชิงบวกอย่างเช่น ADVANC ที่สามารถยืนราคาเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 14 วันได้เป็นครั้งแรกหลังราคาร่วงกว่า 20% จากการชนะประมูล 4G ที่ราคาสูงเกินจริง ขณะเดียวกัน Call DWอิงหุ้น AOT ก็ได้รับความสนใจ โดยหุ้นแม่ทำนิวไฮแม้ตลาดหุ้นรวมยังผันผวน" นายบรรณรงค์ กล่าว
สำหรับ DW ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ สิ้นเดือน ม.ค. 59 มีทั้งสิ้น 896 รุ่น โดยหลักทรัพย์อ้างอิงที่มีการเสนอขายในเดือนม.ค.มีจำนวน 109 ตัว เพิ่มขึ้น 6 ตัวจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็น DW ที่ออกโดยหลักทรัพย์บัวหลวงทั้งหมด ได้แก่ บมจ. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG), บมจ. อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG), บมจ. แพลน บี มีเดีย (PLANB), บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG), บมจ. ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) และบมจ. วนชัย กรุ๊ป (VNG) ซึ่งหลักทรัพย์ทั้งหมดได้รับความสนใจจากนักลงทุนเช่นเคย โดยเฉพาะ TASCOซึ่งเป็นหุ้นน้องใหม่ที่เข้าซื้อขายใน SET50 และมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจึงมีแรงเก็งกำไรเข้ามาค่อนข้างมาก
ปัจจุบันหลักทรัพย์บัวหลวงมีจำนวน DW สูงสุดในระบบ คิดเป็น 19.1% ของจำนวน DW ที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ สิ้นเดือนม.ค. 59 และมีจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงให้เลือกคิดเป็น 58.7% ของจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยยังครองส่วนแบ่งการตลาดเมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายสะสมในเดือน ม.ค. 59 เป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 46.4% ในขณะที่เมื่อพิจารณาจากยอดการถือครอง DW โดยนักลงทุน ณ สิ้นเดือนม.ค. 59 หลักทรัพย์บัวหลวงยังคงเป็นผู้ออกที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาพบว่านักลงทุนไม่กล้าเข้ามาลงทุนใน DW ในวันแรกที่มีการซื้อขาย เนื่องจากเห็นว่าปริมาณการซื้อขายยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับ DW ที่ซื้อขายในตลาดอยู่แล้ว หลักทรัพย์บัวหลวงในฐานะผู้ออก DW01 จึงขอชี้แจงข้อดีของการลงทุนใน DW ออกใหม่ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ประการแรกคือ DW ที่ออกใหม่ราคามักจะเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับราคาหุ้นอ้างอิงแบบ 1 ต่อ 1 เช่นหุ้นอ้างอิงเคลื่อนไหว 1 ช่องราคา ราคาของ DW ก็จะขยับ 1 ช่องราคาเช่นกัน ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการทำกำไรอย่างรวดเร็ว ต่างจาก DW รุ่นเก่าที่การเปลี่ยนแปลงของราคาตามหุ้นอ้างอิงจะช้ากว่า เช่น ราคาหุ้นอ้างอิงอาจเปลี่ยนแปลง 2-3 ช่องราคา ราคาของ DW ถึงจะเคลื่อนไหว 1 ช่องซึ่งไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการเข้าออกเร็ว
ประการที่สอง อายุของ DW รุ่นใหม่มักคงเหลือนานและมีการเสื่อมค่าเวลาต่ำกว่าจึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการถือครองเพื่อเก็งกำไรตามแนวโน้มราคาหุ้น ขณะที่ DW รุ่นเก่ามักมีอายุสั้นและมีการเสื่อมค่าเวลาที่สูง จึงเหมาะกับผู้เก็งกำไรระยะสั้นที่รับความเสี่ยงได้สูง ประการสุดท้ายคือ DW รุ่นใหม่มักจะถือครองโดยนักลงทุนต่ำทำให้ลดความกังวลเกี่ยวกับราคา DW ว่าจะเป็นราคาที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะจำนวน DW ส่วนใหญ่ยังอยู่ในการครอบครองของผู้ดูแลสภาพคล่องหรือมาร์เก็ตเมกเกอร์ ในขณะที่ DW รุ่นเก่าโดยเฉพาะในตัวที่นิยมซื้อขาย อาจมีการถือครองโดยนักลงทุนค่อนข้างสูง อาจส่งผลให้มาร์เก็ตเมกเกอร์ดูแลสภาพคล่องได้ไม่เต็มที่นัก นักลงทุนจึงต้องหมั่นตรวจสอบราคาที่เหมาะสมก่อนลงทุนทุกครั้งเพื่อป้องกันการซื้อ DW ที่มีราคาสูงเกินจริง
"นักลงทุนควรเลือกลงทุนใน DW ที่มีลักษณะที่เหมาะสมกับกลยุทธ์การซื้อขายของตนเอง DW ที่แม้อ้างอิงหุ้นตัวเดียวกัน ก็อาจมีลักษณะต่างกัน ก่อนการตัดสินใจลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ หลักทรัพย์บัวหลวงยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรผลิตภัณฑ์ เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายโดยในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ บริษัทจะทำการออกและเสนอขายDW จำนวนทั้งสิ้น 19 รุ่นครอบคลุม 10 หลักทรัพย์อ้างอิงได้แก่ CK, GUNKUL, HMPRO, IRPC, KBANK, KTB, KTC, SCB, STECและ UNIQ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.blswarrant.com นอกจากนี้ บริษัทยังได้ให้ความสำคัญในการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องโดยครั้งต่อไปจะจัดสัมมนาในวันพฤหัสบดีที่ 18 ก.พ. 59 เวลา 17.30-19.30 น. ณ บมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง สาขาอินเวสเมนต์สเตชั่น ในหัวข้อ "ตอบคำถามยอดฮิต พิชิตเทรด DW" โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่www.bualuang.co.th" นายบรรณรงค์ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit