นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET ผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารครบวงจรรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2559 เพื่อพิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ ลงมาอยู่ที่ 250,020,799 บาท จากเดิมอยู่ที่ 333,333,333 บาท โดยตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทฯ จำนวน 83,312,534 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งเป็นหุ้นที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2546
จากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เป็นจำนวน 512,541,598 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 262,520,799 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) จำนวน 250,020,799 หุ้น ในอัตรา 1 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ในราคาหุ้นละ 3 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 750,062,397 บาท โดยผู้ถือหุ้นอาจจองซื้อเกินสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ก็ได้ พร้อมทั้ง กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Record Date) ในวันที่ 21 มิถุนายน 2559 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นโดยการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น ตามมาตรา 225 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (และที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) ในวันที่ 22 มิถุนายน 2559
นอกจากนี้ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนที่เหลืออีกจำนวน 12,500,000 หุ้น เสนอขายให้แก่บุคคลที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อย ตามโครงการ ESOP INET 2016 ในราคาเสนอขายเท่ากันที่หุ้นละ 3 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 37,500,000 บาท เพื่อตอบแทนพนักงานที่มีความตั้งใจสูง และรักษาบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ รวมถึงเป็นการจูงใจให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมงานเพื่อสร้างประโยชน์และการเจริญเติบโตให้แก่บริษัทฯ ต่อไป
วัตถุประสงค์การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนสร้างศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ต 3 (INET IDC3) สำหรับแผนงานระยะที่ 2 และ 3 รวมจำนวน 300 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานของบริษัทฯ จำนวน 487.56 ล้านบาท ระยะเวลาที่ใช้เงินประมาณ 3 ปี
ทั้งนี้ โครงการศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ต 3 (INET IDC3) สำหรับแผนงานระยะที่ 2 และ 3 ตั้งอยู่บริเวณปากทางเข้าของ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย (แก่งคอย) จำกัด ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี โดยเป็นส่วนขยายของโครงการศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ต 3 (INET IDC3) ตามที่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าวไปแล้ว โดยแผนงานระยะที่ 2 และ 3 มีงบประมาณการลงทุนที่ประเมินไว้รวมประมาณ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนในแผนงานระยะที่ 2 ประมาณ 550 ล้านบาท ประกอบด้วย อาคารศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ (Data Center) จำนวน 1 อาคาร (Data Center อาคารที่ 2) พื้นที่ประมาณ 1,975 ตารางเมตร สามารถรองรับการให้บริการ Data Center และ Cloud Solution เพิ่มเติมจากแผนงานระยะที่ 1 และอาคารระบบสนับสนุน จำนวน 1 อาคาร (Utility อาคารที่ 2) เพื่อรองรับการดำเนินงานของอาคาร Data Center อาคารที่ 2 รวมทั้งอาคารสถานีไฟฟ้าย่อย (Sub Station ) จำนวน 1 อาคาร เพื่อเพิ่มกำลังในการจ่ายไฟฟ้าให้กับศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ 3 (INET IDC3) ในแผนงานระยะที่ 2 , 3 และ 4 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 และสามารถดำเนินงานเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2561
สำหรับแผนงานระยะที่ 3 วางงบลงทุนประมาณ 450 ล้านบาท ประกอบด้วย อาคารศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ (Data Center) จำนวน 1 อาคาร (Data Center อาคารที่ 3) พื้นที่ประมาณ 1,975 ตารางเมตร สามารถรองรับการให้บริการ Data Center และ Cloud Solution เพิ่มเติมจากแผนงานระยะที่ 1 และระยะที่ 2 อาคารระบบสนับสนุน จำนวน 1 อาคาร (Utility อาคารที่ 3) เพื่อรองรับการดำเนินงานของอาคาร Data Center อาคารที่ 3 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในไตรมาสที่ 4/2560 และดำเนินงานเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาสที่ 4/2561
"INET เป็นผู้ให้บริการ Cloud Computing รายแรกๆ ในประเทศไทย ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง มีเสถียรภาพ และได้รับมาตรฐานความปลอดภัยทางสารสนเทศ CSA-STAR รายแรกในประเทศ ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา INET ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการเลือกใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อรองรับการขยายตัวของบริการ Cloud Solution ที่มากขึ้น พร้อมทั้งเป็นศูนย์สำรองข้อมูลของระบบ Cloud Solution ของบริษัทฯ และลูกค้า ปลายปี 58 ที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงได้ลงทุนในโครงการศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ต 3 (INET-IDC3) อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ในเฟสแรก ซึ่งเริ่มก่อสร้างโครงการแล้วตั้งแต่ต้นปี 59 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 60 และล่าสุด (29 เมษายน 59) ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติแผนการเพิ่มทุนเพื่อพัฒนา ดาต้า เซ็นเตอร์ เฟส 2 และ เฟส 3 ต่อไป เนื่องจาก เล็งเห็นความต้องการจากลูกค้ายังมีอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้ง ปัจจุบันบริษัทฯ มีศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล 2 แห่ง คือ ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ต 1 อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ (INET-IDC1) และ ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ต 2 (INET-IDC2) อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ การเชื่อมโยงศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลทั้ง 3 แห่งเข้าด้วยกัน จะยิ่งเสริมเสถียรภาพและความปลอดภัยของข้อมูล ตอบสนองความต้องการของตลาด Co-Location และ Cloud Computing ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตได้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้ง สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด และรักษาความเป็นผู้นำในตลาด Cloud Computing ทั้งจากฐานลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ดันเป้าหมายรายได้ให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนได้เป็นอย่างดี " นางมรกตกล่าว
นางมรกตกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบ RO และ ESOP ในราคาหุ้นละ 3 บาท เป็นราคาที่มีส่วนลดสูงถึง 48.28% ของราคาตลาด โดยบริษัทฯ ได้พิจารณาจากความจำเป็นต้องใช้เงินตามแผนธุรกิจของบริษัทฯ และความเป็นไปได้ของการเสนอขายหุ้นสามัญภายใต้ช่วงราคาที่มีส่วนลดต่างๆ กัน ซึ่งบริษัทได้ประเมินมูลค่าเงินลงทุนโครงการศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ต 3 (INET IDC3) แผนงานระยะที่ 2 และระยะที่ 3 รวมประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ 300 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นสัญญาเช่าทางการเงิน จำนวนประมาณ 700 ล้านบาท
ด้านคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติให้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2559 ในวันที่ 13 มิถุนายน 2559 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมไอเน็ตฮอลล์ ชั้นไอที บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ เลขที่ 1768 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ผลประกอบการในปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 640.35 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 39.11 ล้านบาท สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น INET จำนวน 49% ถือโดยหน่วยงานรัฐบาล 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช) ถือหุ้น 17% , บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 16%, บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) 16%
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit