บจ. ไทยพัฒนาสู่การปฏิบัติ CG อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ส่งผลให้คะแนนประเมิน CG ปีนี้ดีขึ้นทุกด้าน

          สถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยผลสำรวจคะแนน CGR ประจำปี บัณฑิต นิจถาวร558 ของบจ.ไทย 588 บริษัท มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 75% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับดี โดยจากการประเมินพบว่า ปีนี้ บจ. ไทยให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามนโยบายทางด้าน CG อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เน้นการดำเนินธุรกิจที่ก้าวหน้าควบคู่ไปกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน 
          ดร. บัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ สถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) เปิดเผยในงานสัมมนานำเสนอผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยประจำปี บัณฑิต นิจถาวร558 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies บัณฑิต นิจถาวรตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสถาบันกรรมการบริษัทไทย5) เมื่อวันที่ สถาบันกรรมการบริษัทไทย9 ตุลาคม บัณฑิต นิจถาวร558 ว่า ในปีนี้ บริษัท จดทะเบียนไทย (บจ.) ยังคงได้รับคะแนนการประเมินทางด้าน CG ในระดับที่ดี โดยจากการสำรวจ บจ. ทั้งหมด 588 บริษัท มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าปี บัณฑิต นิจถาวร557 (55ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท) ที่มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 7บัณฑิต นิจถาวร เปอร์เซ็นต์ โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของคะแนนเฉลี่ยทุกหมวด ยกเว้นหมวดการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกันที่มีคะแนนเฉลี่ยเท่าเดิม ซึ่งเป็นคะแนนเฉลี่ยที่สูงอยู่แล้ว 
          หากพิจารณาคะแนนเฉลี่ยรายหมวดของผลสำรวจในปี บัณฑิต นิจถาวร558 จะพบว่า หมวดที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 7ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป มี 4 หมวด ได้แก่ หมวดการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน สิทธิของผู้ถือหุ้น การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสและการคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 9สถาบันกรรมการบริษัทไทย, 9สถาบันกรรมการบริษัทไทย, 8ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ 7ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ โดยปีนี้ ถือเป็นปีแรกที่การปฏิบัติตามหมวดการคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสียได้รับคะแนนเฉลี่ยถึงระดับ 7ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอยู่ในระดับดี ส่วนหมวดที่มีคะแนนเฉลี่ยในระดับ 6ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปอร์เซ็นต์ ได้แก่ หมวดความรับผิดชอบของคณะกรรมการ ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 66 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ซึ่งยังคงต้องสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาต่อไป
          นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบจำนวนบริษัทตามผลการสำรวจที่ได้รับในแต่ละระดับ ซึ่งมีการประกาศผลตามจำนวนสัญลักษณ์ของคณะกรรมการบรรษัทภิบาลแห่งชาติ ก็พบว่า มีบริษัทจดทะเบียนจำนวน 4ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย5 บริษัทที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 7ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป หรือระดับดีขึ้นไป โดยในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 9ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปหรือระดับดีเลิศ จำนวน 55 บริษัท (ร้อยละ 9) บริษัทที่ได้รับคะแนน 8ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย-89 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดีมาก จำนวน สถาบันกรรมการบริษัทไทย59 บริษัท (ร้อยละ บัณฑิต นิจถาวร7) และบริษัทที่ได้รับคะแนน 7ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย -79 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดี จำนวน สถาบันกรรมการบริษัทไทย9สถาบันกรรมการบริษัทไทย บริษัท (ร้อยละ 33)
          "ผลการประเมินจากโครงการ CGR ในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของ บจ. ไทยที่เริ่มให้ความสำคัญกับการกำหนดนโยบาย (Form) ควบคู่ไปกับการนำนโยบายไปปฏิบัติจริงให้เกิดผลเป็นรูปธรรม (Substance) มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน การปฏิบัติตามจริยธรรมธุรกิจ การจัดให้มีการประเมินผลงานของคณะกรรมการทั้งคณะ แต่ยังคงต้องสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาในบจ.ไทยทั้งขนาดใหญ่และเล็กต่อไป นอกจากนี้บจ. ไทยยังเน้นการดำเนินธุรกิจที่ก้าวหน้าควบคู่ไปกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีการกำหนดนโยบายและเปิดเผยถึงสิ่งที่ได้ปฏิบัติตามนโยบายที่มีเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มผ่านการจัดทำรายงานการพัฒนาที่ยั่งยืนที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลมากขึ้น" ดร.บัณฑิต นิจถาวร กล่าว และเสริมว่า "พัฒนาการทางด้าน CG ในอนาคต จะมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มองภาพระยะยาวมากกว่าระยะสั้น การให้ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ใช่ทางการเงินมากขึ้น บทบาทของคณะกรรมการจะต้องปรับไปสู่เชิงรุก โดยจะต้องมีบทบาทนำทางด้านวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงดูแลเรื่องความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น จึงขอให้ คณะกรรมการได้ตระหนักถึงประเด็นเหล่านี้ โดย IOD พร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ เพื่อร่วมกันพัฒนามาตรฐาน CG ของไทยอย่างต่อเนื่องต่อไป"


ข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย+ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศวันนี้

"เงินติดล้อ" ผนึกตลาดหลักทรัพย์ฯ แบ่งปันไอเดีย การสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีในองค์กร

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย คุณมิ่งขวัญ ประเสริฐศิวพร (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการ งานส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเงิน ร่วมเป็นวิทยากรในกิจกรรม "Happy Money Sharing: Financial Well-Being Journey 2025" จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ส่งเสริมความรู้ทางการเงินในองค์กร แก่ผู้แทนองค์กรพันธมิตร ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ทั้งหมด 28 องค์กร ให้สามารถไปปรับใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับพนักงานในองค์กร สมาชิกในชุมชน หรือประชาชนทั่ว

มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิ... THNIC จับมือ SET และ ICANN จัดงาน UA Day 2025 ใช้โดเมนและอีเมลภาษาไทย ปูทางธุรกิจไทยก้าวสู่สากล — มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิค) ร่วมกับตลาดห...

นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ... RBF โชว์ศักยภาพธุรกิจ-แผนขยายตลาด ตปท. งาน "Thailand Earning Call" ปังธง ปี 68 รายได้รวม โต 10-15% — นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและก...

นางสาวสุภากาญจน์ กิจโกศล ประธานเจ้าหน้าที... "MEDEZE" โชว์ศักยภาพธุรกิจ ในงาน Opp Day Year End 2024 — นางสาวสุภากาญจน์ กิจโกศล ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรื...

นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ (ซ้าย) ประธานเ... SAFE โชว์กำไรฯปี 67 แตะ 167.09 ลบ. จ่ายปันผล 0.62 บ./หุ้น — นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นางสาวชนิดา พัธโนทัย (ขวา) ประธา...

ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหา... "SNPS" ฉายภาพธุรกิจ งาน Opp Day โชว์กำไรปี 67 โตแรง 169% — ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายอชิตเดช อาชาไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่...