นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อ ทำให้มีพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัย จำนวน 23 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี พังงา ชุมพร ตราด สระบุรี ระนอง สตูล ตาก จันทบุรี สุรินทร์ ศรีสะเกษ ตรัง ฉะเชิงเทรา นครนายก กระบี่ พัทลุง นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี สุราษฎร์ธานี เพชรบุรี และสระแก้ว รวม 66 อำเภอ 180 ตำบล 794 หมู่บ้าน มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ชลบุรี พัทลุง ตรัง พังงา จันทบุรี ระยอง และตาก ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 17 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 6 จังหวัด โดยสระแก้ว น้ำจากอำเภอเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังสมบูรณ์ อำเภอวังน้ำเย็น และอำเภอเขาฉกรรจ์ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 145 หลังคาเรือน สุราษฎร์ธานี เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคีรีรัฐนิคม อำเภอพนม อำเภอวิภาวดี อำเภอบ้านตาขุน อำเภอเวียงสระ และอำเภอพระแสง รวม 23 ตำบล 123 หมู่บ้าน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อำเภอพระแสง ปราจีนบุรี น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี และอำเภอบ้านสร้าง พังงา น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะกั่วป่า อำเภอคุระบุรี และอำเภอกะปง รวม 14 ตำบล 51 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 คน ระยอง น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชิงเนิน อำเภอทับมา และอำเภอแกลง จันทบุรี น้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำใน 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแก่งหางแมว อำเภอมะขาม อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอขลุง อำเภอเขาคิชฌกูฎ อำเภอท่าใหม่ และอำเภอเมืองจันทบุรี สถานการณ์ในภาพรวม ปัจจุบันฝนหยุดตกและระดับน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตรบางพื้นที่ ทั้งนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ประสบภัย ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง พร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ อีกทั้งส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
0-2243-0674 0-2243-2200www.disaster.go.th