นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลพายุ หว่ามก๋อทำให้เกิดฝนตกเป็นบริเวณกว้างอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2558 – ปัจจุบัน มีจังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย 24 จังหวัด รวม 70 อำเภอ 206 ตำบล 950 หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 1 ราย มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) 12 จังหวัด ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 23จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 1 จังหวัด ได้แก่ปราจีนบุรี มีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วม ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี บริเวณชุมชนตลาดเก่ากบินทร์บุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และอำเภอบ้านสร้าง ล่าสุดระดับน้ำลดลง คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 2 – 3 วัน ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการแก้ไขปัญหา โดยเร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง อีกทั้งจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า ในช่วงวันที่ 26 – 30 กันยายน 2558 ร่องมรสุมจะเคลื่อนลงมาพาดผ่านพื้นที่ ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนัก บางแห่ง อาจส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย ปภ.ได้ประสาน 14 จังหวัดแยกเป็น ภาคกลาง 4 จังหวัด ประกอบด้วย กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ภาคตะวันออก 7 จังหวัดประกอบด้วย ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ชลบุรี ตราด ระยอง และจันทบุรี ภาคใต้ 3 จังหวัด ประกอบด้วย ระนอง พังงา และภูเก็ต รวมถึง ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือฝนที่ตกเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่เคลื่อนลงมาพาดผ่าน โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงพร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ ท้ายนี้ ประชาชนที่ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป