ทิสโก้ส่งกอง “ยุโรป พร็อพเพอร์ตี้” ลุยอสังหาฯ ยุโรป รับเศรษฐกิจฟื้น ย้ำภาพผู้นำลงทุนต่างประเทศ มีกองทุนที่ลงทุนในกองรีทครบ 3 ตลาดหลัก “สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น-ยุโรป”

22 Sep 2015
ทิสโก้ เตรียมเสนอขายกองทุนใหม่ "ทิสโก้ ยุโรป พร็อพเพอร์ตี้" มองอสังหาฯ ยุโรปอนาคตสดใสจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง เตรียมเสนอขายครั้งแรก 23 – 29 ก.ย. 58 นี้ หลังจากนั้นเปิดซื้อขายได้ทุกวันทำการ ย้ำภาพผู้นำลงทุนต่างประเทศ ที่มีกองทุนที่ลงทุนในกองรีทครอบคลุมครบทั้ง "ยุโรป-ญี่ปุ่น-สหรัฐฯ"

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (บลจ. ทิสโก้) (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า ตามที่ บลจ. ทิสโก้ ได้แนะนำโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจในขณะนี้ ได้แก่อสังหาริมทรัพย์ยุโรป ที่ได้ประโยชน์จากสัญญาณการเติบโตของเศรษฐกิจยุโรปที่ปรับตัวดีขึ้นนั้น ล่าสุดบริษัทเตรียมเสนอขาย "กองทุนเปิด ทิสโก้ ยุโรป พร็อพเพอร์ตี้" (TISCO Europe Property Fund – TEUPROP) ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยุโรป เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยจะเสนอขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 23 – 29 ก.ย. 58 นี้ หลังจากนั้นเปิดซื้อขายได้ทุกวันทำการ

"ปัจจุบันดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ตราสารหนี้น่าสนใจน้อยลง นอกเหนือจากหุ้นแล้ว ทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจอีกทางหนึ่ง คือกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund)และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือรีท (REIT) ซึ่งข้อดีของ REIT คือ มีสภาพคล่องสูงกว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรง ขณะที่ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา ค่าเช่า หรือเงินปันผล โดยอสังหาริมทรัพย์ที่เรามองว่าน่าสนใจอีกภูมิภาคหนึ่งคือภูมิภาคยุโรป เพราะมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจยุโรปที่อยู่ในช่วงฟื้นตัว ทำให้ภาคอสังหาฯ ยุโรปมีโอกาสเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการที่ ECB ยังคงทำ QE เดือนละ 60,000 ล้านยูโร จนถึงปีหน้า และพร้อมออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อจำเป็น ดอกเบี้ยจึงน่าจะอยู่ในระดับต่ำไปอีกพักใหญ่ ส่งผลดีต่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างๆในยุโรป ประกอบกับนักลงทุนทั่วโลกโดยเฉพาะจากเอเชียยังคงนิยมเข้าไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยุโรปอย่างต่อเนื่อง"

นายสาห์รัชกล่าวต่อไปว่า จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นยังส่งผลให้ความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานในยุโรปเพิ่มขึ้นและอัตราว่างลดลง รวมถึงค่าเช่าสำนักงานในอังกฤษ และประเทศหลักในยุโรปมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้จึงมีสัญญาณจากนักลงทุนที่นำเงินมาลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ยุโรปเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอังกฤษและเยอรมัน ดังนั้นในช่วงดอกเบี้ยต่ำ และแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ยุโรปที่เริ่มฟื้นตัวเช่นนี้ จึงเป็นโอกาสที่น่าสนใจในการลงทุน

"ทิสโก้แนะนำการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้เรามีกองทุนที่ลงทุนในรีทญี่ปุ่น (Japan REIT) รีทสหรัฐฯ (US REIT) และล่าสุดคือกองยุโรปพร็อพเพอร์ตี้ เราจึงเป็นเจ้าที่มีกองทุนที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ครบทั้ง 3 เศรษฐกิจหลักของโลก อย่างยุโรป ญี่ปุ่น และ สหรัฐอเมริกา และมั่นใจว่ากองทุนเปิด ทิสโก้ ยุโรป พร็อพเพอร์ตี้ จะยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน" นายสาห์รัชกล่าว

โดย "กองทุนเปิด ทิสโก้ ยุโรป พร็อพเพอร์ตี้" จะเน้นลงทุนในหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือรีท (REITs) ในยุโรป ผ่านหน่วยลงทุนของกองทุน db x-trackers FTSE EPRA/NAREIT Developed Europe Real Estate UCITS ETF (DR) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เยอรมัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี FTSE EPRA/NAREIT Developed Europe Real Estate Net Returnซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนผลการดำเนินงานของหุ้นของบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศที่พัฒนาแล้วในทวีปยุโรป โดยกองทุนดังกล่าวบริหารและจัดการโดย Deutsche Asset & Wealth Management Investment และมีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินประมาณ 90% ของเงินลงทุนในต่างประเทศ

"กองทุนเปิด ทิสโก้ ยุโรป พร็อพเพอร์ตี้" มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ไม่กำหนดอายุโครงการ สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ โดยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือที่ TISCO Contact Center 02-633-6000 กด 4คำเตือน

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

เนื่องจากกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวนผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้