ปภ.รายงานมีพื้นที่ประสบอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อใน 24 จังหวัด คลี่คลายแล้ว 20 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 4 จังหวัด

24 Sep 2015
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อ ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2558 – ปัจจุบัน ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 24 จังหวัด ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 20 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว สุราษฎร์ธานี ปราจีนบุรี และสุพรรณบุรี รวม 7 อำเภอ 23 ตำบล 54 หมู่บ้าน ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการแก้ไขปัญหา โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับเข้าสู่สภาพปกติโดยเร็ว

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า มีจังหวัดเกิดสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อ ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2558 – ปัจจุบัน จำนวน 24 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี พังงา ชุมพร ตราด สระบุรี ระนอง สตูล ตาก จันทบุรี สุรินทร์ ศรีสะเกษ ตรัง ฉะเชิงเทรา นครนายก กระบี่ พัทลุง นครศรีธรรมราชประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี สุราษฎร์ธานี เพชรบุรี สระแก้ว และสุพรรณบุรี รวม 70 อำเภอ 206 ตำบล 950 หมู่บ้าน มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ชลบุรี พัทลุง ตรัง พังงา จันทบุรี ระยอง ตาก สุราษฎร์ธานี กระบี่ ตราด และฉะเชิงเทรา ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 20 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว สุราษฎร์ธานี ปราจีนบุรี และสุพรรณบุรี รวม 7 อำเภอ 23 ตำบล 54 หมู่บ้าน สถานการณ์ในภาพรวม ฝนหยุดตกและระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรบางพื้นที่ หากไม่มีฝนตกลงมา คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1 – 2 วัน ทั้งนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ประสบภัย ได้ร่วมกับหน่วยงานทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง พร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ อีกทั้งส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th