MIT เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 23 ธ.ค. นี้ เป็น REIT กองแรกที่ลงทุนสินทรัพย์ในต่างประเทศ

22 Dec 2015
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซีอินดัสเตรียล (MIT) เป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)กองแรกที่ลงทุนสินทรัพย์ในต่างประเทศ พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 23 ธ.ค. นี้ ด้วยมูลค่า 975 ล้านบาท
MIT เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 23 ธ.ค. นี้ เป็น REIT กองแรกที่ลงทุนสินทรัพย์ในต่างประเทศ

ดร. สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซีอินดัสเตรียล (MIT) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในหมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ในวันที่ 23 ธันวาคม 2558 โดยเป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) กองแรกที่ลงทุนสินทรัพย์ในต่างประเทศ MIT เสนอขายหน่วยทรัสต์ต่อประชาชนทั่วไประหว่างวันที่ 17 พฤศจิกายน-8 ธันวาคม 2558 จำนวน 97.5 ล้านหน่วย ในราคาหน่วยละ 10 บาท รวมมูลค่าเสนอขาย 975 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เป็นทรัสตี และบริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน MIT ลงทุนในหุ้นสามัญ 100% ของบริษัท เอพียูเค จำกัด ที่จดทะเบียนจัดตั้งในดินแดนอาณานิคมอังกฤษเกิร์นซีย์ โดยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ประเภทคลังสินค้าที่ใช้เป็นศูนย์ข้อมูล (data center) ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุตสาหกรรม Anchorage Point ใกล้กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีพื้นที่ให้เช่ารวมทั้งหมด 1,342 ตารางเมตร และให้เช่าแก่ผู้เช่ารายเดียว คือ บริษัท บีไอเอส จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการจัดการข้อมูล เป็นระยะเวลา 17 ปี 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2576 นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า MIT ลงทุนในคลังสินค้าที่ใช้เป็นศูนย์ข้อมูล (data center) ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุตสาหกรรมซึ่งเป็นทำเลที่ตั้งที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำหรับภาคอุตสาหกรรมและภาคค้าปลีกเชิงพาณิชย์ ใกล้กับศูนย์กลางกรุงลอนดอน มีผู้เช่าที่ทำสัญญาระยะยาวที่มีศักยภาพ และด้วยความต้องการในการจัดการศูนย์ข้อมูลและศูนย์ปฏิบัติการสำรองของบริษัทและหน่วยงานต่างๆ ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอนาคต จึงมั่นใจว่า MIT จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์

MIT มีนโยบายการจ่ายประโยชน์ตอบแทนจากเงินปันผลที่ได้รับจากการลงทุนในบริษัท เอพียูเค จำกัด ที่มีนโยบายจะจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และจ่ายในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิรอบปีบัญชี โดย MIT จะจ่ายประโยชน์ตอบแทนในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของรอบปีบัญชี ทั้งนี้ หลังการเสนอขายหน่วยทรัสต์ ผู้ถือหน่วยทรัสต์รายใหญ่ของMIT 3 ลำดับแรก ได้แก่ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) 20.84% บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) 6.15% และกองทุนส่วนบุคคล บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) โดย บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) 6.15%

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของทรัสต์ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของทรัสต์ที่ www.mfcfund.com และที่เว็บไซต์ www.set.or.th