เอสเอ็มอีแบงก์ แถลงผลงาน 10 เดือน ได้กำไรต่อเนื่องรวม 1,120 ล้านบาท โครงการร่วมลงทุน เริ่มติดเครื่องเดินหน้า

          ในวันนี้ (สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์9 พ.ย. 2558) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ได้แถลงข่าวผลการดำเนินงาน สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เดือน (ม.ค.-ต.ค.) ปี 2558 โดยนางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการ และนายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ ดังนี้ 
          สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์.กำไรสุทธิ ช่วง สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เดือน (ม.ค.- ต.ค.) ปี 2558 เท่ากับ สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์,สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์2ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท ซึ่งมีผลกำไรต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยในเดือน ต.ค. 2558 มีกำไรสุทธิ สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์59 ล้านบาท เป็นผลมาจาก ธนาคารสามารถบริหารจัดการต้นทุนเงิน (Cost of fund) ได้ดีขึ้น และควบคุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่ไม่สูง ประกอบกับการที่ธนาคารปล่อยสินเชื่อมีคุณภาพดี (Good Loan) ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีรายได้ดอกเบี้ยรับและรายได้ด้านอื่น ๆ เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน และขณะนี้ภาระตั้งสำรองของธนาคารลดลง เนื่องจากศาลแพ่งพิจารณายกฟ้องคดี FRCD ระหว่าง เอสเอ็มอีแบงก์ กับ ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด( ไทย) ทำให้ความเสี่ยงในเรื่องการตั้งสำรองเพิ่มเรื่อง FRCD ของธนาคารลดลงมาก และหากคดีสิ้นสุดในลักษณะเช่นนี้ ธนาคารมีโอกาสจะนำเงินสำรอง 2,ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท โอนมาเป็นเงินสำรองส่วนเกินสำหรับเงินให้สินเชื่อต่อไป 
          2. เงินให้สินเชื่อ ณ สิ้น ต.ค. 2558 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้าง 84,6สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์4 ล้านบาท เป็นจำนวนลูกหนี้ทั้งหมด 69,236 ราย โดยลูกหนี้มีจำนวนรายเพิ่มขึ้นจาก ณ ธ.ค. 2557 เท่ากับ สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์,56สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ ราย ลูกหนี้ใหม่ทุกรายที่เพิ่มขึ้นมีวงเงินต่ำกว่า สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์5 ล้านบาท และเพียง สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์9 พ.ย. 2558 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 25,854 ล้านบาท และยังมีสินเชื่ออนุมัติแล้วยังค้างการเบิกจ่าย 4,52ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท รวมเป็นสินเชื่อที่ธนาคารอนุมัติแล้วทั้งสิ้น 3ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย,374 ล้านบาท เป็นจำนวนลูกค้า สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์2,763 ราย ( โดยมียอดสินเชื่อเฉลี่ยต่อราย 2.38 ล้านบาท ) ในส่วนของสินเชื่อ Soft Loan ดอกเบี้ยต่ำ 4% ณ วันที่ สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์9 พ.ย. 2558 ธนาคารอนุมัติสินเชื่อแล้ววงเงิน 6,726.สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์5 ล้านบาท 2,สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์29 ราย(เฉลี่ยรายละ 3.สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์6 ล้านบาท) แต่การเบิกจ่ายทำได้เพียง 2,2ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย5.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ ล้านบาท 772 ราย เนื่องจาก บสย. อยู่ระหว่างปรับระบบงานการค้ำประกันที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อระบบงานของ บสย.เสร็จเรียบร้อย การเบิกจ่ายสินเชื่อของธนาคาร ก็จะทำได้รวดเร็วขึ้น 
          นอกจากนั้น ยังมีสินเชื่อ Policy Loan ดอกเบี้ยต่ำ 4% ณ วันที่ สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์9 พ.ย. 2558 ได้รับคำขอแล้ว5,ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์2.8ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท อนุมัติสินเชื่อแล้ว 2,ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย3สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์.68 ล้านบาท เบิกจ่าย สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์,846.สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์9 ล้านบาท เป็นจำนวนลูกค้า 589 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกค้าที่อยู่ในกลุ่ม SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว 
          3. สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ณ สิ้น ต.ค. 2558 NPLs คงเหลือ 26,3สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์2 ล้านบาท (คิดเป็น 3สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์.สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย% ของสินเชื่อรวม) โดยเดือน ต.ค. NPLs เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อยประมาณ สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์89 ล้านบาท ทั้งนี้เพราะมีลูกหนี้รายใหญ่ ซึ่งเป็นธุรกิจโรงสีประสบปัญหาไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ ในส่วนของการปรับโครงสร้างหนี้ ยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะรายได้ของลูกหนี้ยังไม่ฟื้นตัว แต่การมี NPL เพิ่มขึ้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อกำไรของธนาคาร เพราะธนาคารมีเงินสำรองส่วนเกินรองรับอยู่ถึง สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์,5ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท ซึ่งสามารถเพียงพอที่จะรองรับลูกหนี้ NPL ที่อาจเพิ่มขึ้นบ้างได้อยู่แล้ว และในส่วนลูกหนี้รายเล็กในเขตภูมิภาค ธนาคารได้ดูแลอย่างใกล้ชิด จำนวนการตกชั้นลูกหนี้มีไม่มากนัก
          4. โครงการร่วมลงทุน ขณะนี้ได้มีความคืบหน้าไปมาก คณะกรรมการกองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs ( Steering Committee ) ซึ่งปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้เห็นชอบแก้ไขข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคในการอนุมัติของการร่วมลงทุนทุกประเด็นแล้ว ขณะนี้ธนาคารได้ใส่เงินลงทุน 49ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท เข้ากองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs (SMEs Private Equity Trust Fund) กองทุนย่อยกองที่ สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ ร่วมกับ บริษัท ไทยเอชแคปปิตอล จำกัด ได้ใส่เงิน สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท ทำให้กองทุนมีเม็ดเงินร่วมลงทุน 5ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาทครบถ้วนแล้ว ซึ่งทรัสตีได้นำไปจดทะเบียนกับ กลต. เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน

          ปัจจุบันกองทุน มีบริษัทที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ( Asset Manager ) ให้กับ SMEs จำนวน 6 บริษัท ประกอบด้วย สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์. บริษัท ยูนิจิน เวนเจอร์ส จำกัด 2. บริษัท วิน แคร์ เซอร์วิส จำกัด 3. บริษัท เอส แอนด์ เอส แมเนจเม้นท์ คอนซัลแทนท์ (เอเชีย) จำกัด 4. บริษัท สปริงไทด์ (ประเทศไทย) จำกัด 5. บริษัท เอสเอสพีพี แคปปิตอลส์ จำกัด และ 6. บริษัท เอ็ม.ที.อาร์. แอสเส็ท แมนเนเจอร์ จำกัด ซึ่งจะทำหน้าที่ดูแลและช่วยเหลือ SMEs จัดทำแผนการลงทุนเพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาร่วมลงทุน ทั้งนี้ คาดว่าในเดือนพฤศจิกายน 2558 คณะกรรมการพิจารณานโยบายการลงทุน (Investment Committee) จะสามารถอนุมัติร่วมลงทุนใน SMEs 3 ราย คือ บริษัท ไทยริชฟูดส์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมไทยแช่แข็ง วงเงิน สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์5 ล้านบาท และSMEs รายใหม่ กลุ่ม Start up ที่มีการจัดทำแผนธุรกิจไว้เรียบร้อยแล้วอีก 2 ราย คือ บริษัท ฟรุตต้า เนเชอรัล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มธัญพืชเพื่อสุขภาพ วงเงิน 5 ล้านบาท และ บริษัท ช๊อกโก การ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้ประกอบการที่ให้บริการด้าน Loyalty Card ในการจัดเก็บฐานข้อมูลให้กับผู้ประกอบการ SMEs วงเงิน 5 ล้านบาท รวมเป็น 25 ล้านบาท
          นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการ SMEs ที่กำลังอยู่ในกระบวนการจัดทำแผนธุรกิจเพื่อเข้าร่วมลงทุนอีกประมาณ 2ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ราย วงเงิน 35ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท ซึ่งมีธุรกิจหลากหลายทั้งทางด้าน อาหาร ไอที เครื่องสำอาง และยานยนต์ และธนาคารยังได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อคัดสรร SMEs เข้าสู่กระบวนการร่วมลงทุนเพิ่มเติมอีก เพื่อจะขยายวงเงินร่วมลงทุนจาก 5ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาทในกองที่ สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ เป็น 2,ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ล้านบาท ในกองอื่น ๆ ต่อไป

ข่าวธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย+ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางวันนี้

SME D Bank ลุยโครงการเติมความรู้บัญชีภาษี ปูทางพาเอสเอ็มอีถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำเพียง 3%ต่อปี

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า SME D Bank เดินหน้าภารกิจธนาคารเพื่อการพัฒนา จับมือกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ กรมสรรพากร สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และบริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม "Nex Gen Commerce" จัดโครงการ "ทุนก็มี ภาษีก็รู้ ก้าวสู่ความยั่งยืน" เดินสาย Road Show ในรูปแบบ One Stop Service

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่... SME D Bank รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ องค์กรโดดเด่นขับเคลื่อนเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน — ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ห...