โดยก่อนถ่ายทำหนุ่มเต้ยจะต้องได้รับการเคี่ยวกรำอย่างหนัก และฝึกฝนทักษะความสามารถอันหลากหลายรวมไปถึงการแสดงตามหลักสูตร "โรงเรียนท่านมุ้ย" ที่เคยบ่มเพาะรุ่นพี่ๆ อย่างผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ, แอฟ ทักษอร, ปีเตอร์ นพชัย และทีมนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมาแล้ว
"คือเราต้องการให้นักแสดงเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ อย่างเต้ยเราต้องการให้เขาเป็นพันท้ายนรสิงห์จริงๆ เลย เป็นทั้งชาวบ้านที่เป็นสิน เป็นทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นพันท้ายกับศักดินาพันไร่ซึ่งเขาต้องแสดงในหลายๆ บทบาท บทบาทที่มีความรักกับนวลอะไรพวกนี้ก็เช่นกันในแง่การถ่ายทอดอารมณ์ รวมไปถึงฉากแอ็คชั่น เพราะภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ก็มีฉากบู๊อยู่มากพอสมควร"
นั่นคือเหตุผลสำคัญที่ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรี เฉลิมยุคลเล่าให้ฟัง ว่านักแสดงในภาพยนตร์ของท่านจะต้องถูกส่งไปฝึกฝน และเรียนรู้อย่างหนักบ้างเป็นเดือน บางรายอาจเป็นปีก่อนที่จะถ่ายทำ รวมทั้งการปรับลุคให้สอดคล้องกับบทบาทและคาแรคเตอร์ตัวละคร
"เราเอาเต้ยมาฝึกสารพัดอย่างเลยครับ ก่อนอื่นต้องให้เขาทำความเข้าใจกับตัวแสดงในเรื่อง กับตัวบทที่เขาจะต้องถ่ายทอดออกมาว่าเป็นใคร เราต้องเปลี่ยนลุคของเขา ให้เข้ากับตัวพันท้าย ตั้งแต่ตอนเป็นชาวบ้านไปจนกระทั่งถึงเป็นพันท้ายนะครับ ตั้งแต่เป็นไอ้สินเลย ในส่วนของการเปลี่ยนแปลง ก็มีตั้งแต่ตัดผม คือทำทุกอย่างให้มันดูเป็นชาวบ้าน ไปจนถึงแอ็คชั่นด้วยครับ สู้กัน โดยมีทีมสตันท์คอยสอนว่าจะสู้อย่างไร ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง รวมไปถึงเป่าขลุ่ยหรือแม้แต่พายเรือทั้งพายเรือธรรมดา และถือหางเสือ
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะได้เห็นสิ่งที่เต้ยทำหรือเป็นในภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์เยอะแยะเลยครับเกือบทุกอย่าง ตั้งแต่ฉากบู๊จนถึงฉากรัก เต้ยต้องทำให้ได้ เอาอย่างนี้ต้องไปดูเอาเองในหนังดีกว่าครับผม ต้องให้คนดูเป็นคนตัดสินใจ ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ดูแล้วก็ไม่ผิดหวังนะครับ"
การันตีจากท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ขนาดนี้ไปให้กำลังใจพระเอกคนล่าสุดของท่านมุ้ยกับภาพยนตร์เรื่อง "พันท้ายนรสิงห์" ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 30 ธันวาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit