นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในปัจจุบัน ลูกค้ามีความสนใจและหันมาใช้รถยนต์ในกลุ่มเอสยูวีมากยิ่งขึ้น เห็นได้จากกระแสการตอบรับที่ดีเยี่ยมที่มีต่อ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ด้วยยอดจองกว่า40,000 คัน นับตั้งแต่การเปิดตัว เมื่อปลายปี 2557 และได้ทำการส่งมอบไปแล้วกว่า 28,000 คันส่งผลให้ฮอนด้า เอชอาร์-วี ขึ้นแท่นผู้นำตลาดรถยนต์ครอสโอเวอร์หรือรถยนต์เอสยูวีโดยรวม และเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าในระดับคอมแพคท์และระดับที่สูงกว่า ฮอนด้า จึงได้แนะนำ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ ที่เพิ่มความคุ้มค่าด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม รวมถึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้รองรับกับโครงสร้างภาษีใหม่ที่จะส่งผลกระทบต่อราคาน้อยที่สุด"ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่มากยิ่งขึ้น เช่น เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น E, E Limited และ EL) และปรับเปลี่ยนอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติมในทุกรุ่น เช่น ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System) ระบบเครื่องเสียง หน้าจอสัมผัสขนาด 6.1นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ และล้ออัลลอยสไตล์สปอร์ตที่โดดเด่นในทุกมิติ
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของรถสปอร์ตอเนกประสงค์ หรือ เอสยูวี และได้เพิ่มความสปอร์ตปราดเปรียวในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้ ผสานกับฟังก์ชั่นการใช้งานแบบอเนกประสงค์ในสไตล์รถมินิแวน รูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมรูปทรงตัวถังที่ปราดเปรียว พร้อมเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวรอบคัน ขนาดตัวถัง กว้าง 1,772 มม. ยาว 4,294 มม. และสูง 1,605 มม. ทำให้ ฮอนด้า เอชอาร์-วี เป็นยนตรกรรมที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการและทุกการใช้งานได้อย่างลงตัว
การออกแบบภายในห้องโดยสาร เน้นความกว้างขวาง มอบความสะดวกสบายในสไตล์รถอเนกประสงค์ พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้ำสมัย พื้นที่ใช้สอยและพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายพร้อมตอบสนองทุกการใช้งานตามสไตล์รถมินิแวน ด้วยความจุ 565 ลิตร ซึ่งสามารถเก็บถุงกอล์ฟขนาดปกติได้ถึง 3 ใบ แม้ใช้งานเบาะที่นั่งด้านหลังในรูปแบบปกติ สะดวกสบายแก่ผู้ใช้งานในการเคลื่อนย้ายสัมภาระขนาดใหญ่ ด้วยระดับความสูงที่พอเหมาะกับความกว้างของฝากระโปรงท้ายขณะเปิดที่ 1,180 มิลลิเมตร มาพร้อมเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่สามารถปรับพับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Utility Mode, Tall Mode และ Long Mode เพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ยังเปี่ยมด้วยสมรรถนะอันทรงพลังของเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300รอบต่อนาที มาพร้อมกับระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม มอบอัตราเร่งที่ดีเยี่ยมและการประหยัดน้ำมันที่เป็นเลิศ อีกทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85ครบครันด้วยอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับพรีเมียมในทุกรุ่น อาทิ
· ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ที่ใช้งานง่ายเพียงดึงสวิตช์ที่คอนโซลกลางขึ้นเมื่อต้องการใช้เบรกมือ
· ระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold) ที่จะทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติหลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง ช่วยป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้
· ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
· ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
· ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
· สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
· กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera)
· ระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมด้านคนขับอัจฉริยะ (i-SRS) ถุงลมด้านผู้โดยสารด้านหน้า (SRS) และถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ (i-Side Airbags) ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags) (เฉพาะรุ่น E Limited และ EL) เพื่อเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่
ทั้งนี้ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ พร้อมเปิดรับจองภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 (Motor Expo2015) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 ณ บูธฮอนด้า A14 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และพร้อมกันกับโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ โดยมีจำหน่าย 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น S ราคา933,000 บาท รุ่น E ราคา 999,000 บาท รุ่น E Limited ราคา 1,050,000บาท และรุ่น EL ราคา1,099,000 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก), สีขาวออร์คิด (มุก), สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก), สีเทารูสแบล็ค (เมทัลลิก), และ 1 สีใหม่ คือ สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) ซึ่งจะพร้อมทำการส่งมอบให้แก่ลูกค้าภายในต้นปี 2559
หมายเหตุ: - อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit