กระทรวงการคลังและกระทรวงอุตสาหกรรมจับมือแถลงความคืบหน้าและแสดงความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการด้านการปฏิบัติในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ จากอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (COป้ายข้อมูลรถยนต์) รวมถึงหลักเกณฑ์เงื่อนไขต่างๆ เกี่ยวกับการวัด การปล่อยมลพิษและการตรวจสอบการปล่อยมลพิษ ที่จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ กระทรวงอุตสาหกรรม มกราคม ป้ายข้อมูลรถยนต์559 เพื่อสร้างความเข้าใจหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ ให้แก่ภาคประชาชนและภาคอุตสาหกรรม
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา โครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์เป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศ จึงมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ในบางประเภทโดยใช้กลไกทางภาษีสรรพสามิตรถยนต์ นอกจากนี้ ปัจจุบันปัญหาภาวะโลกร้อนได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น และอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (COป้ายข้อมูลรถยนต์) มากที่สุด ภาครัฐจึงมุ่งที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเน้นการรักษาสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน และได้ปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ โดยคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ กระทรวงอุตสาหกรรม8 ธันวาคม ป้ายข้อมูลรถยนต์555 เห็นชอบหลักการในการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และให้กรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีรถยนต์ โดยอ้างอิงจากการปล่อยมลพิษ หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (COป้ายข้อมูลรถยนต์) ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ กระทรวงอุตสาหกรรม มกราคม ป้ายข้อมูลรถยนต์559 เป็นต้นไป และจากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติดังกล่าวข้างต้น จะส่งผลให้การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่วัดจากประเภทและขนาดความจุเครื่องยนต์ เป็นการวัดจากการปล่อยมลพิษแทน ซึ่งการปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ดังกล่าว เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคตระหนักต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวต่อว่า คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงการคลังและกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมมือกันในการดำเนินการด้านการปฏิบัติ เช่น การออกป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล (Eco Sticker) รวมถึงการตรวจสอบค่าอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (COป้ายข้อมูลรถยนต์) โดยได้มอบหมายให้กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากร หารือร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม ประกอบด้วย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ในการวางแนวทางการวัดการปล่อยมลพิษ การตรวจสอบการปล่อยมลพิษ สรุปสาระสำคัญของแนวทางการดำเนินงานเพื่อซักซ้อมความเข้าใจ ดังนี้
กระทรวงอุตสาหกรรม. ผู้ผลิตในประเทศและผู้นำเข้าต้องนำรถยนต์ที่จัดจำหน่ายในประเทศไทยผ่านการตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือที่รู้จักโดยทั่วไปคือ R83 ซึ่งการตรวจสอบดังกล่าว จะมีค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (COป้ายข้อมูลรถยนต์) ปรากฏอยู่ในผลการตรวจสอบ และรถยนต์บางประเภทต้องผ่านการทดสอบความปลอดภัยประเภทระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety)
ป้ายข้อมูลรถยนต์. ผู้ผลิตในประเทศและผู้นำเข้า จะต้องนำผลการตรวจสอบเข้าสู่ระบบของ สศอ. เพื่อให้ค่าดังกล่าวปรากฏอยู่ในป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล (Eco Sticker) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมสรรพสามิต สมอ. และ สศอ. จะตรวจสอบรายละเอียดที่ได้นำเข้าสู่ระบบดังกล่าว หากถูกต้องครบถ้วน ก็จะมีการพิมพ์ป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล (Eco Sticker) ให้ผู้ผลิตในประเทศและผู้นำเข้า
3. ผู้ผลิตในประเทศและผู้นำเข้า จะต้องยืนยันผลการตรวจสอบดังกล่าวให้กรมสรรพสามิต หรือกรมศุลกากร แล้วแต่จุดความรับผิดเกิด เพื่อกรมสรรพสามิตหรือกรมศุลกากรจะได้จัดเก็บภาษีตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (COป้ายข้อมูลรถยนต์) เป็นสำคัญ
4. ป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล (Eco Sticker) ที่ผู้ผลิตในประเทศหรือผู้นำเข้าได้รับจากกระทรวงอุตสาหกรรมที่มีการตรวจสอบถูกต้องแล้ว จะต้องนำไปปิดไว้ที่รถยนต์ทุกคัน ณ จุดขาย เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้บริโภคได้รับทราบถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (COป้ายข้อมูลรถยนต์) และอัตราการใช้พลังงาน
5. กรณีที่รายละเอียดในคำขอการออกป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล (Eco Sticker) ดังกล่าวยังไม่ครบถ้วน ผู้ผลิตในประเทศหรือผู้นำเข้าสามารถใช้ข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากลเบื้องต้น (Eco Sticker เบื้องต้น) แทนก่อนได้ และนำป้ายข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบแล้วมายื่นกับหน่วยงานของรัฐภายใน 45 วัน
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวเป็นแนวทางที่หน่วยงานจัดเก็บภาษี ได้แก่ กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากร ใช้เป็นแนวปฏิบัติ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ กระทรวงอุตสาหกรรม มกราคม ป้ายข้อมูลรถยนต์559 เป็นต้นไป
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด ได้รับแต่งตั้งจากกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ให้เป็นผู้จัดการกองทุนรายย่อยในการบริหารตราสารทุนไทย โดยมีพิธีลงนามสัญญาร่วมกับคุณจารุรักษ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการ กอช. และคุณเอนกพร โพธิทัต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มบริหารตัวแทนขายและรักษาการประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มลูกค้าสถาบันและลูกค้า พร้อมด้วยคุณธีรลักษ์ แสงสนิท รองปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ และ ดร.วโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงาน
สกพอ. จับมือ กอช. ลงนาม MOU พัฒนาศักยภาพพื้นที่ชุมชน เร่งสร้างทักษะวางแผนการออมเงิน สู่วัยเกษียณที่มั่นคง ในพื้นที่อีอีซี
—
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกร...
นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรีเยี่ยมชมผลงาน EXIM BANK สนับสนุนผู้ประกอบการไทยรุกตลาดโลก ในงานคลังสัญจร จ.เชียงราย
—
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประ...
ระเฑียร ศรีมงคล คว้าศิษย์เก่าดีเด่น TBS 2024 ตอกย้ำวิสัยทัศน์การเงินยุคใหม่
—
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. (กลาง) รับรา...
SME D Bank สวัสดีปีใหม่ 2567 ผู้บริหารกระทรวงการคลัง
—
นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)...
EXIM BANK ขานรับนโยบายกระทรวงการคลัง ผนึกกำลังสภาหอฯ สรท. กยท. กรุงไทย ธ.ก.ส. บสย. และ CPAC
—
EXIM BANK ขานรับนโยบายกระทรวงการคลัง ผนึกกำลังสภาหอฯ สรท. กย...
รมว.คลัง เปิดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ฯ สัญจร ครั้งที่ 4 จ.ชลบุรี วันที่ 20-22 มกราคม 2566 นี้ ณ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน จ.ชลบุรี
—
นายอาคม เติมพิทยาไพ...
รมว.คลัง เยี่ยมชมบูธกรุงไทย "ติดปีกการเงินไทย สู่ความยั่งยืน" พร้อมร่วมรับฟังปัญหาลูกค้าในงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร ที่ชลบุรี
—
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ร...
SME D Bank เข้าพบ รมว.คลัง และ ปลัด ก.คลัง เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 66
—
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดยนางสาวน...