คณะกรรมการ ป.ป.ช. แสดงจุดยืนต่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

          ในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๕.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตป้องกันและปราบปรามการทุจริต น. ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แถลงจุดยืนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ว่าสืบเนื่องจากอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. ต่อต้านการทุจริตป้องกันและปราบปรามการทุจริตป้องกันและปราบปรามการทุจริต3 (United Nations Convention against Corruption: UNCAC) ซึ่งประเทศไทยเข้าเป็นรัฐภาคีโดยให้สัตยาบันและมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นต้นมา ทั้งนี้ ในข้อ ๓๖ ได้กำหนดให้หน่วยงานหรือองค์กรของรัฐในการต่อต้านการทุจริต ต้องมีลักษณะ ดังนี้
          - ต้องมีความเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซงใดๆ 
          
- มีความชำนาญพิเศษในด้านการต่อต้านการทุจริต 
          -
ผู้ปฏิบัติงานต้องได้รับการฝึกอบรมที่เหมาะสมและได้รับทรัพยากรที่เพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่
          นอกจากนี้ อนุสัญญาได้วางมาตรการและกฎเกณฑ์เพื่อให้การต่อต้านการทุจริตมีประสิทธิภาพ โดยให้ดำเนินการในด้านต่างๆ ประกอบด้วย 
          (๑) การป้องกันการทุจริตทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน 
          (๒) การกำกับดูแลคุณธรรมและจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ 
          (๓) การดำเนินคดีความผิดอาญาและความผิดทางวินัย 
          (๔) การริบและติดตามทรัพย์สินคืน 
          (๕) การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ 
          (๖) การดำเนินการ อย่างบูรณาการของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

          ดังนั้น เพื่อให้การยกร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รวมถึงการยกร่างกฎหมายอื่นใด ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริต จึงสมควรดำเนินการให้สอดคล้องกับอนุสัญญาดังกล่าว โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แสดงจุดยืนต่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ดังนี้
          - องค์กรใดๆ ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ต้องมีฐานะเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และใช้กระบวนการตรวจสอบที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่น ใช้ระบบไต่สวน 
          - คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องมีบทบาทและความรับผิดชอบในภารกิจทั้ง ๓ ด้าน คือ การป้องกันการทุจริต การปราบปรามการทุจริต และการตรวจสอบทรัพย์สิน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตสามารถเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบ แต่สำหรับภารกิจด้านการป้องกันการทุจริต อาจไม่จำเป็นต้องกำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับผิดชอบทั้งหมด ควรคงบทบาทให้เป็นผู้กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ ทิศทาง ผู้สนับสนุน ติดตามประเมินผล การเสนอมาตรการ ความเห็น ข้อเสนอแนะในการต่อต้านการทุจริตต่อคณะรัฐมนตรี ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือและการประสานงานระหว่างหน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และองค์กรอื่นๆ ในการต่อต้านการทุจริต
          - คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์กรหลักในการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยรับผิดชอบและเป็นศูนย์กลางการบูรณาการ เพื่อความคุ้มค่าของงบประมาณ ลดความซ้ำซ้อน คณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ช. ควรได้รับการสนับสนุนงบประมาณให้เพียงพอ โดยจัดสรรเป็นวงเงินในรูปแบบร้อยละของวงเงินงบประมาณประจำปี เช่น ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๐.๓
          - ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังคงมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลคุณธรรมและจริยธรรมของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นอกจากนี้ ตามร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา ๗๔ วรรค ๔ วรรค ๕ วรรค ๖ และมาตรา ๒๕๓ ทำให้เกิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการถอดถอนเพิ่มขึ้นคือคณะกรรมการการเลือกตั้งและสมัชชาคุณธรรม ล้วนมีอำนาจในการส่งเรื่องให้รัฐสภาถอดถอนได้ จึงควรกำหนดขอบเขตของแต่ละองค์กรให้ชัดเจน
          - แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗๔ (๗) , (๘) ดังนี้
          (๗) ดำเนินการตามพันธกรณีและข้อตกลงระหว่างประเทศในการต่อต้านการทุจริต
          (๘) ดำเนินการอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
          ๗. แก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. ตามร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๑ โดยให้ใช้องค์ประกอบคณะกรรมการสรรหา แบบเดิม ที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๕๐ คือ ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
          ๘. ร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๐๕ การตรวจสอบนโยบายการคลังและงบประมาณของรัฐ ควรกำหนดให้ชัดเจนเกี่ยวกับอำนาจไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนยื่นฟ้องต่อศาลปกครองแผนกคดีวินัยการคลังและการงบประมาณ ระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน โดยเฉพาะในชั้นของการออกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญในเรื่องนี้
          ๙. ควรตัดบทบัญญัติใน มาตรา ๒๕๕ (๓) ของร่างรัฐธรรมนูญออก ในเรื่องที่กำหนดให้มีกรรมการสามฝ่าย ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้แทนอัยการสูงสุด และผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายอื่น ซึ่งมีจำนวนฝ่ายละเท่ากัน เพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ข่าวป้องกันและปราบปรามการทุจริต+วิชา มหาคุณ กรรมการวันนี้

SAM ได้รับผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ITA ปี 2567 ระดับ "ผ่านดี" 95.77 คะแนน ยึดหลักธรรมาภิบาล คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM ได้รับผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment) หรือ ITA ประจำปีงบประมาณ 2567 จาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ที่ 95.77 ระดับ "ผ่านดี" ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 93.27 สะท้อนถึงการดำเนินงานที่ยึดหลักธรรมาภิบาล บริหารจัดการองค์กรที่มีคุณธรรม ความโปร่งใส และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สร้างความเชื่อมั่นผ่านการเปิดเผยข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้

รศ.ดร.อุเทน คำน่าน รักษาการอธิการบดีมหาวิ... มทร.ล้านนาปลื้ม ป.ป.ช.ประกาศผล ITA ได้คะแนน 91.07 ระดับผ่านดี — รศ.ดร.อุเทน คำน่าน รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ล้านนา กล่าวว่ามทร....

รศ.ดร.อุเทน คำน่าน รักษาการอธิการบดีมหาวิ... มทร.ล้านนาปลื้ม ป.ป.ช.ประกาศผล ITA ได้คะแนน 91.07 ระดับผ่านดี — รศ.ดร.อุเทน คำน่าน รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ล้านนา กล่าวว่ามทร....

บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน... CHOW รับรางวัลองค์กรโปร่งใสครั้งที่ 11 — บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel...

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายชฎิล ชวนะลิขิกร รองกรร... ปตท. รับรางวัลชมเชยองค์กรโปร่งใส รางวัลแห่งเกียรติยศด้านธรรมาภิบาลและความโปร่งใส — เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายชฎิล ชวนะลิขิกร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารศักยภาพ...

นายณัฐพงศ์ ดิษยบุตร หัวหน้าสำนักงานคณะกรร... ศตท.กทม.ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนทุจริตแล้วเสร็จ 110 เรื่อง อยู่ระหว่างตรวจสอบขยายผลอีก 84 เรื่อง — นายณัฐพงศ์ ดิษยบุตร หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุ...

ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี เร่งตรวจสอบข... ป.ป.ช. กาญจนบุรี ตามติด โครงการรัฐที่ถูกร้องผ่านสื่อ เร่งหาข้อเท็จจริง ลดเสี่ยงทุจริต — ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีโครงการรัฐใ...