นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ได้ผลสรุปจากการรับฟังความคิดเห็นเพื่อเสนอต่อรัฐบาล ดังนี้
1.การจัดสรรโควตาผู้แทนสถาบันเกษตรกร จำนวน ๒ คน
มติที่ประชุมเห็นชอบให้จัดสรรตามภาค คือ 1.1) ภาคใต้ตอนบนหรือตอนล่างให้ได้รับการ
จัดสรรโควตาผู้แทนสถาบันเกษตรกร 1 คน 1.2) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ได้รับการจัดสรรโควต้าผู้แทนสถาบันเกษตรกร 1 คน
2. การจัดสรรโควตาผู้แทนเกษตรกร จำนวน 3 คน
มติที่ประชุมเห็นชอบให้จัดสรรตามภาค คือ 2.1) ภาคใต้ตอนบนหรือตอนล่างให้ได้รับการ
จัดสรรโควตาผู้แทนเกษตรกร 1 คน 2.2) ภาคกลางและภาคตะวันออกให้ได้รับการจัดสรรโควตาผู้แทนเกษตรกร 1 คน 2.3) ภาคเหนือให้ได้รับการจัดสรรโควตาผู้แทนเกษตรกร 1 คน
๓. ที่มาของผู้แทนสถาบันเกษตรกร และผู้แทนเกษตรกร
มติที่ประชุมให้ผู้แทนสถาบันเกษตรกรและผู้แทนเกษตรกรมีที่มาจากการเลือกตั้งตาม
หลักเกณฑ์ดังนี้
1. ผู้แทนสถาบันเกษตรกร ให้เลือกตั้งจากผู้แทนสถาบันเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย เป็นรายภาค คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๑ คน ภาคใต้ตอนบนหรือตอนล่าง ๑ คน รวมจำนวน 2 คน
2. ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง ให้เลือกตั้งจากเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย เป็นรายภาค คือภาคเหนือ ๑ คน ภาคกลางและภาคตะวันออก ๑ คน ภาคใต้ตอนล่างหรือภาคใต้ตอนบน 1 คน รวมจำนวน 3 คน
ทั้งนี้เหตุผลของตัวแทนเกษตรกรที่เสนอแนวทางดังกล่าว นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ได้กล่าวว่า เพราะที่ประชุมเห็นว่าการจัดสรรโควต้าผู้แทนสถาบันเกษตรกรและผู้แทนเกษตรกรตามข้อเสนอนี้จะทำให้มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ สำหรับที่มาจากการเลือกตั้งเพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางทุกคนมีส่วนร่วมและได้ตัวแทนที่มาจากเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรโดยตรง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit