ที่อยู่อาศัยที่เปิดขายใหม่จำแนกรายปี และประเภท ณ ครึ่งแรกปี พ.ศ.2558
ที่มา : ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย
สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศไทยยังคงไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลคาดการณ์ เพราะว่าปัจจัยลบหลายๆ อย่างจากทั้งภายนอก และภายในประเทศ ดังนั้น คนไทยส่วนใหญ่จึงไม่มั่นใจในสถานะทางการเงินของตนเองในอนาคต กลุ่มผู้ซื้อหลักในตลาดชะอำ หัวหิน และปราณบุรี เป็นคนไทยจึงได้รับผลกระทบจากการลดลงของชาวรัสเซียเหมือนตลาดพัทยา
สุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าว โครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตประมาณ 6,000 ยูนิตเปิดขายในชะอำในปีพ.ศ.2554 ดังนั้นจำนวนยูนิตในปีนั้นจึงเพิ่มขึ้นมากกว่าปีอื่นๆ คอนโดมิเนียมใหม่หลายโครงการเปิดขายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าจำนวนโครงการใหม่ลดลงต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ยังคงมีคอนโดมิเนียมเหลือขายอยุ่ในตลาดคอ่นข้างมาก ตลาดบานจัดสรรก็ใกล้เคียงกับตลาดคอนโดมิเนียมคือมีโครงการเปิดขายค่อนข้างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และผู้ประกอบการหลายรายเริ่มชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ในปีพ.ศ.2557 – 2558 อีกทั้งมีหลายโครงการที่ยกเลิการขายไป
คอนโดมิเนียมประมาณ 22,780 ยูนิตเปิดขายในช่วงปีพ.ศ..2554 – ครึ่งแรกปีพ.ศ.2558 โดยที่ประมาณ 66% อยู่ในทำเลชะอำ 20% ในทำเลหัวหินฝั่งชายทะเล 9% ในหัวหินฝั่งภูเขา และ5% ในปราณบุรี ทำเลหัวหินฝั่งภูเขาเป็นทำเลหลักที่มีการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร เนื่องจากราคาที่ที่ต่ำกว่าทำเลอื่นๆ ในฝั่งชายทะเล
ผู้ซื้อหลักในชะอำ หัวหิน และปราณบุรีเป็นคนไทยที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียม หรือบ้านเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง ชาวต่างชาติก็เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ซื้อเช่นกันแต่ว่ามีจำนวนไม่มากนัก ชาวต่างชาติโดยส่วนใหญ่ต้องการซื้อบ้านเดี่ยวขนาดไม่ใหญ่นักในทำเลหัวหินฝั่งภูเขาที่มีราคาขายไม่เกิน 4 ล้านบาท หรือบางส่วนเลือกอยู่ในคอนโดมิเนียมริมทะเลที่สร้างเสร็จมาแล้วกว่า 10 ปี เนื่องจากมีราคาขายไม่สูงเกินไป ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ที่พักอาศัยอยู่ในชะอำ หัวหิน และปราณบุรีจะเป็นกลุ่มคนที่เกียณจากการทำงานแล้วและตัดสินในพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย เพราะว่าค่าครองชีพไม่สูง สะดวก ปลอดภัย รวมทั้งมีโรงพยาบาลนานาชาติด้วยอัตราการขาย
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหัวเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ในประเทศไทยประสบกับปัญหาในเรื่องของกำลังซื้อที่ลดลง ในขณะที่กำลังซื้อในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี ยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อัตราการขายเฉลี่ยของบ้าน และที่ดินจัดสรรอยู่ที่ประมาณ 75% ในขณะที่คอนโดมิเนียมอยู่ที่ประมาณ 80%
คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ที่ขายไปในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจะมีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 3 – 4 ล้านบาท (คอนโดมิเนียมระดับกลาง) คอนโดมิเนียมระดับล่างจำนวนไม่น้อยเปิดขายในช่วงหลายปีปที่ผ่านมา แต่ว่ากลุ่มผู้ซื้อระดับกลาง – ล่างไม่มั่นใจในสถานะทางเงินของตนเองจึงชะลอการซื้ออสังหาริมทรัพย์ออกไปในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และคงต่อเนื่องต่อไปในช่วงครึ่งหลังปีพ.ศ.2558
ผู้ประกอบการคอนโดมิเนียมในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี ไม่กังวลในเรื่องของยอดขาย แต่ว่ากังวลในเรื่องของการโอนกรรมสิทธิ์มากกว่า เพราะว่าจะมีคอนโดมิเนียมมากกว่า 8,000 ยูนิตที่มีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังปีพ.ศ.2558 ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี พยายามที่จะกระตุ้นยอดขายด้วยการออกมาตรการทางการตลาดต่างๆ จัดกิจกรรม รวมทั้งการเปิดบูธในกรุงเทพมหานคร
ผู้ซื้อชาวไทยเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในตลาดชะอำ หัวหิน และปราณบุรี โดยเฉพาะในตลาดคอนโดมิเนียม ผู้ซื้อชาวไทยจำนวนมากต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองชายทะเลเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง คนไทยบางกลุ่มเลือกซื้อบ้าน หรือวิลล่าในทำเลหัวหินฝั่งภูเขาเพราะว่าราคาขายใกล้เคียงกับราคาขายของคอนโดมิเนียมในพื้นที่ชายทะเล นายสุรเชษฐกล่าวเพิ่มเติม
ราคาขายเฉลี่ยของโครงการบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมจำแนกรายทำเล ณ ครึ่งแรกปีพ.ศ.2558
ทำเลที่ตั้ง
คอนโดมิเนียม (บาทต่อตารางเมตร)
บ้านจัดสรร (ล้านบาทต่อยูนิต)
ชะอำ
75,000
10.00
หัวหินฝั่งชายทะเล
85,000
12.00
หัวหินฝั่งภูเขา
63,500
6.00
ปราณบุรี
87,000
5.50
ที่มา : ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย
ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในทุกทำเล ณ ครึ่งแรกปีพ.ศ.2558 เพิ่มขึ้นจากช่วงหกเดือนก่อนหน้านี้ประมาณ 3 – 5% แม้ว่าบางโครงการจะมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังปีพ.ศ.2558 เพราะว่าผู้ประกอบการพยายามจะดึงดูดกำลังซื้อในช่วงที่ตลาดชะลอตัวโดยการคงราคาขายไว้ หรือปรับเพิ่มไม่มากนัก
ตลาดบ้านจัดสรรยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงหลายปีก่อนหน้านั้น แต่ว่าในอัตราที่ต่ำกว่าตลาดคอนโดมิเนียม ราคาขายเฉลี่ยในทุกทำเลยังคงใกล้เคียงกับปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากกำลังซื้อ และความต้องการที่ลดลง ผู้ประกอบการบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมที่กำลังพัฒนาโครงการในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี ยังคงไม่ปรับเพิ่มราคาขายขึ้นมากมายในปีพ.ศ.2558 ผู้ประกอบการคอนโดมิเนียมบางโครงการก็ประสบกับปัญาเรื่องของการโอนกรรมสิทธิ์ ดังนั้นจึงอาจจะมีการลดราคาของบางยูนิตลง
คอลลิเออร์สคาดการณ์ว่าความต้องการในตลาดระดับราคา 3 – 5 ล้านบาทจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องทั้งในตลาดคอนโดมิเนียม และบ้านจัดสรร ผู้ซื้อส่วนใหญ่จะยังคงมีความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในทำเลที่ไม่ไกลจากทะเล ไม่จำเป็นต้องติดชายหาดเสมอไป นายสุรเชษฐกล่าวสรุป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit