ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองประธานกรรมการมูลนิธิมั่นพัฒนา เปิดเผยว่า เครือข่ายอนาคตไทย เกิดจากรวมตัวขององค์กรต่างๆ โดยมีองค์กรเริ่มต้นประกอบด้วย กรมประชาสัมพันธ์ หอการค้าไทย มูลนิธิมั่นพัฒนา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทยพร้อมองค์กรภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมกว่า 77 องค์กรเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนสังคมไทย ภายใต้แนวทางการสร้างพฤติกรรมบวก เสริมภูมิคุ้มกันทั้ง 4 ด้าน สร้างคนไทย และสังคมไทยให้ความเข้มแข็ง เพื่อกระตุ้นให้คนไทยบางกลุ่มปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ ทัศนคติที่ไม่ดี ลดเลิกนิสัยและพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ หันมามีจิตสำนึกที่ดี มีวินัย สร้างภูมิคุ้มกัน และพฤติกรรมที่ดีเพื่อเป็นฐานรากใหม่ และความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย และความเชื่อมั่นแก่นานาชาติ ซึ่งจะเกิดขึ้นด้วยการพัฒนาคนให้มีคุณธรรมเป็นพื้นฐานของความคิดและการกระทำ
"ปัจจุบันประเทศไทยได้รับผลกระทบจากกระแสโลกาภิวัตน์และวิกฤตต่างๆที่เกิดขึ้นทั่วโลก ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่านิยม ทัศนคติ และพฤติกรรมของการดำเนินชีวิตในการอยู่ร่วมกัน ซึ่งนับวันจะกลายเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกในสังคมไทยเพิ่มมากขึ้น อาทิ ความฟุ้งเฟ้อ การทุจริตคอรัปชั่น ไร้วินัย ไม่เคารพสิทธิ ความเสื่อมโทรมทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม"
ด้านนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า กรมประชาสัมพันธ์เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ให้กับองค์กรของรัฐ และหน่วยงานต่างๆ อยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 5 องค์กรเริ่มต้น ทางกรมประชาสัมพันธ์จึงมีความเต็มใจที่จะเข้ามาร่วมขับเครือข่ายอนาคตไทย ดำเนินการด้านประชาสัมพันธ์ เพื่อให้โครงการต่างๆ ของเครือข่ายขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายได้
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่าในช่วงที่ผ่านมาหอการค้าไทยเป็นองค์กรที่มุ่งสร้างธรรมมาภิบาล ลดปัญญาคอร์รัปชั่น ได้ร่วมสร้างจิตสำนึกให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของเครือข่ายอนาคตไทย
"เดิมหอการค้าไทย มีโครงการที่เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในรูปแบบ WE CAN DO มาอยู่แล้ว และมีเครือข่ายพันธมิตรอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง ที่มีความสามารถ มีทัศนคติที่ดี และมีความสามาถด้านSocial Media ที่เข้มแข็ง เราจึงสามารถใช้โครงการ และบุคลากรต่างๆ ที่เรามีเข้าร่วมทำงานกับเครือข่ายได้ทันที"
นายยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารกลาง บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าเครือซิเมนต์ไทยเน้นความสำคัญสร้างนวัตกรรมเป็นกุญแจสำคัญในการทำธุรกิจ จึงมีโครงการต่างๆ ที่ช่วยในการปรับเปลี่ยนทัศนคติ พฤติกรรม และสร้างนวัตกรรมใหม่ที่ประสบความสำเร็จ เช่น โครงการพลังปัญญา ที่เครือซิเมนต์ร่วมกับทางมูลนิธิมั่นพัฒนา ที่มุ่งสร้างผู้นำชุนชนที่มีทัศนคติ และแนวความคิดในการพัฒนาชุนชนที่จะไปช่วยกระตุ้นให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ซึ่งวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของเครือข่ายอนาคตไทยนั้นสอดคล้องกับโครงการของเครือซิเมนต์ไทยอยู่แล้ว
เช่นเดียวกับนายวัฒนา โอภานนท์อมตะประธาน CSR Club สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยกล่าวว่าในช่วงที่ผ่านมาสมาคมได้รณรงค์ให้บริษัทจดทะเบียนมีความรับผิดชอบต่อสังคม และมุ่งสร้างกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ให้กับสังคมอยู่แล้ว ทางสมาคมจึงเข้าร่วมกับทางเครือข่ายเพื่อร่วมกับขับเคลื่อนสังคมเพื่อลดความเลื่อมล้ำในสังคม จนถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติของคนไทย
สำหรับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่สนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับโครงการรณรงค์ "อย่าให้ใครว่าไทย"และ "เครือข่ายอนาคตไทย"สามารถศึกษารายละเอียดที่ Facebook เครือข่ายอนาคตไทย และ Twitter : Thai_Future
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit