ปพม. ย้ำยังคงขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างเต็มที่ ต่อเนื่อง มุ่งเป้าลดจำนวนผู้ตกเป็นเหยื่อหรือกลุ่มเสี่ยง

28 Jul 2015
ปพม. ย้ำยังคงขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างเต็มที่ ต่อเนื่อง มุ่งเป้าลดจำนวนผู้ตกเป็นเหยื่อหรือกลุ่มเสี่ยง พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กชาย วัย ๔ ขวบ ที่น้าสาวถูกฆ่าตายต่อหน้า ที่ จ.บึงกาฬ และครอบครัวของชาย อายุ ๒๔ ปี ที่ถูกจับในข้อหาขโมยนมให้ลูกชาย วัย ๑ ขวบ ที่ จ.ชลบุรี

วันนี้ (๒๘ ก.ค. ๕๘) เวลา ๐๘.๓๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปพม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ ๒๐๘/๒๕๕๗-๒๕๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม

นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กรณีที่ กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP Report) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ระบุว่า ประเทศไทยยังคงอยู่ในบัญชีกลุ่มที่ ๓ (Tier 3) ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีสถานการณ์ค้ามนุษย์ระดับเลวร้ายที่สุด นั้น กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างเต็มที่ต่อไปตามมาตรฐานสากล โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน มีเป้าหมายที่จะลดจำนวนผู้ที่เป็นเหยื่อหรือกลุ่มเสี่ยงจากการค้ามนุษย์ให้ได้มากที่สุด

นายวิเชียร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีข่าวที่ชาย อายุ ๓๓ ปี ขอเงินน้าสาว อายุ ๔๓ ปี เพื่อไปซื้อยาบ้าแต่ถูกปฏิเสธจึงเกิดอาการโมโหจัด ใช้มีดแทงและคว้าค้อนทุบศีรษะเสียชีวิตต่อหน้าหลานชาย อายุ ๔ ขวบ จึงพาหลานมาฝากไว้ที่บ้านพ่อของตัวเอง จากนั้น เด็กได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่น้าชายเป็นผู้ฆ่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟัง ขณะนี้ กำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป ที่อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ตนได้กำชับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ (พมจ.บึงกาฬ) เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงฯ พร้อมทั้งช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กโดยด่วน และกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมชาย อายุ ๒๔ ปี พร้อมของกลางเป็นนมสำหรับเด็กอายุ ๑ ขวบ จำนวน ๓ กล่อง ภายหลังสอบสวนทราบว่า เนื่องจากถูกนายจ้างผลัดจ่ายค่าแรงมานานกว่าครึ่งเดือน จึงทนเห็นลูกชายวัย ๑ ขวบ หิวไม่ไหว อีกทั้งไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว ที่อำเภอเมืองชลบุรี ตนได้กำชับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี (พมจ.ชลบุรี) เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวงฯ